ผบ.สส.ระบุได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนประชุมจีบีซี จะหารือด้านทหารเป็นหลัก ส่วนพื้นที่ทับซ้อนปราสาทพระวิหารเป็นหน้าที่บัวแก้ว ย้ำจุดยืนกองทัพไม่เน้นการใช้ความรุนแรง
วันนี้(19ก.ค.) พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.) ให้สัมภาษณ์กับรายการลับ ลวง พราง ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงการได้รับมอบหมายจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้ไปเป็นตัวแทนกองทัพในกรณีพิพาทดินแดนกับทางกัมพูชาในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ว่า ตอนนี้มีธงไว้ในใจแล้ว ซึ่งเมื่อวานมีการประชุมเตรียมการกันแล้ว โดยที่ประชุมมีจุดยืนชัดเจน แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้
เมื่อถามว่าทหารเสนอความเห็นในการที่นายกฯ ทำจดหมายถึงกัมพูชาหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ก็ดีแล้ว ที่ทำไปก็ดีแล้วไม่ต้องถามว่าทำไม ส่วนจุดยืนของทหารในการวางกำลังในพื้นที่ก็เอาไว้ก่อนเดียวกัน ไม่อยากจะพูดตอนนี้ อย่างไรก็ตามการแถลงข่าวต่างๆ จะเป็นหน้าที่ของ พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร จะเป็นผู้แถลง
เมื่อถามถึงจุดยืนของ บก.สส.กับ บก.ทบ.เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า กองทัพไทยทำอะไรออกไปต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่วนจะสอดคล้องหรือไม่สอดคล้องก็ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั้งหมด
เมื่อถามว่าวันจันทร์นี้จะพูดในเรื่องของเขาพระวิหารหรือเรื่องของกำลังทหาร ผบ.สส. กล่าวว่า จะพูดในเรื่องของการทหารเป็นหลัก ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศที่จะต้องนำ
เมื่อถามว่าทหารในพื้นที่บอกว่าทหารเราจะไม่ถอนจนกว่าจะมีการเคลียร์ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ให้เรียบร้อย อันนี้ถือเป็นจุดยืนหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ก็ในพื้นที่ก็รับไป แต่ตนยืนยันว่ายังไม่ขอพูดอะไรเพราะเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ซึ่งที่ประชุมได้ขอร้องสื่อมวลชนด้วยในการเสนอข่าวเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนแบบนี้
“ไม่ได้ให้หุบปากอย่างที่เขาใช้คำว่าอย่างงั้น ไม่ใช่ยังงั้น บางทีมันเซ็นซิทีฟก็เอาไว้ก่อนเดี๋ยวก็รู้” พล.อ.บุญสร้าง กล่าว
เมื่อถามว่าจะวางตัวอย่างไรที่การเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทหารด้วยลำบากใจไหม ผบ.สส. กล่าวว่า โลกมันก็อย่างนี้อย่าไปคิดมาก มีอะไรต้องทำไปอย่าไปบ่นเลย
เมื่อถามต่อท่าทีทางการเมืองของกัมพูชาเราจะนำมายืดหยุ่นอะไรหรือไม่อย่างไรในข้อเสนอ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ก็จะต้องคุยกับเขา และต้องทำความเข้าใจปัญหาซึ่งกันและกันในการหาทางออก ซึ่งต้องยึดมิตรภาพ
เมื่อถามถึงอำนาจในการเจรจาครั้งนี้ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ก็จะคุยเรื่องทหาร ส่วนเรื่องของเขตแดนว่าอยู่ตรงไหนอะไรยังไงเป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศ เพราะไม่ใช่เรื่องของทหาร เมื่อถามว่าจะโดนทางไปเฉพาะทหารหรือมีกระทรวงต่างประเทศไปด้วย พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า เฉพาะส่วนของกลาโหม
เมื่อถามว่าการเสริมกำลังบริเวณชายแดนมีผลต่อการเจรจาหรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ไม่มีความหมาย เพราะเราพูดกันรู้เรื่องอยู่แล้ว เพราะเราไม่ได้ใช้กำลัง เพราะถ้าจะพูดเรื่องกำลังก็คงต้องพูดเรื่องกำลังทั้งประเทศคงไม่ใช่เฉพาะกำลังตรงนั้น ดังนั้นจึงขอพูดจากันด้วยปัญญาดีกว่า
เมื่อถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ ทหารไทยและกัมพูชาที่อยู่ด้วยกันในพื้นที่เป็นยังไงบ้าง พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหาในเรื่องความรุนแรง ซึ่งผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายต้องช่วยลดอุณหภูมิเพราะทหารผู้น้อยเกิดอารมณ์ง่าย ดังนั้นต้องบังคับกันให้ดี และที่ตนเคยคุยกับ พล.อ.เตียบัณในเรื่องของการใช้กำลังทหารก็เคยบอกว่าให้ต่างคนต่างช่วยดูแลคนของอีกฝ่าย ซึ่งท่านและตนก็ไม่อยากให้มีเรื่องอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าอำนาจในการถอนกำลังทหารเป็นอำนาจของใคร พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า รายละเอียดตนยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่รับไปเจรจาเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่ากัมพูชาจะยอมเราง่ายๆ หรือไม่ พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า พูดอะไรไม่ได้หรอก เพราะถ้าตนรู้ไปหมดทุกอย่างก็ดีนะสิ แต่ทั้งนี้ตนไม่ใช่คนปากหวานจะไม่ให้ความหวังกับใคร แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด ส่วนคาดหวังไว้กี่เปอร์เซ็นต์ก็ไม่บอกเพราะว่าจะทำให้ดีที่สุดก็แล้ว ส่วนจะออกมายังไงก็ให้ดูตอนจบ
เมื่อถามว่าเป็นคนเสนอตัวไปเจรจาเองหรือถูกสั่งมา พล.อ.บุญสร้าง กล่าวว่า ตนไม่ใช่คนที่เสนอตัวอยู่แล้ว ทางทหารเขาสอนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าอย่าไปเที่ยวอาสาทำโน่นทำนี่
เมื่อถามว่าทางทหารจะไม่ชี้จุด พล.อ.บุญสร้าง เป็นเรื่องของคนอื่นอย่าไปก้าวก่าย แต่คนเราต้องช่วยกัน ไม่ใช่ชี้จุดสำคัญแทนหน่วยที่รับผิดชอบเขาเรียกว่าไม่ดี
“บ้านเมืองเราตอนนี้ต้องการความสามัคคีใครๆ ก็พูดอยู่ แล้วผมก็จะชี้เพิ่มว่าต้องการรู้รักสามัคคีที่สุดในขณะนี้ อย่าให้เป็นช่วงที่เรามีความสามัคคีน้อยที่สุด ในเมื่อเราต้องการความสามัคคีกันมากที่สุดเพื่อดูแลบ้านเมือง”พล.อ.บุญสร้าง กล่าว