ปชป.เฉ่ง “หมัก” ส่งสัญญาณก้าวร้าว ทำให้สังคมเผชิญหน้า ปลุกระดมให้เกลียดพันธมิตรฯ และกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ออกมาแสดงท่าทีต่อเรื่องกลุ่มโจรใต้มาแถลงหยุดยิงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
วันนี้ (18 ก.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ว่า มีแนวโน้วที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะเหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างให้สังคมเผชิญหน้ากัน หลังจากนั้น นายกฯ ได้พูดถึงการแก้แค้นทางการเมือง โดยระบุว่า “ผมให้เขาลุกขึ้นมาฆ่าบ้าง เพราะเขาฆ่าพวกผมมาเยอะแล้ว” หลังจากที่นายกฯส่งสัญญาณนี้ขึ้นมา จะเห็นได้ว่า มีสมาชิกพรรคพลังประชาชน ได้ยื่นถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.
รวมทั้ง นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมาธิการองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญประกาศตรวจสอบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยจะได้เชิญเลขาธิการ ป.ป.ช.มาสอบถามเรื่องการดำเนินกิจกรรมของ ป.ป.ช.ตนคิดว่า พฤติกรรมไม่น่าเหมาะสมสำหรับองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกลไกรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว แต่หากพรรคพลังประชาชน เห็นว่า ในวันนี้องค์กรเหล่านี้ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซง ไปควบคุมตัวบุคคลได้ จึงใช้หนทางของกรรมาธิการเข้าไปกดดัน ตรวจสอบเพื่อเป็นการล้างแค้น
“ผมคิดว่า นายกฯได้ส่งสัญญาณถึงความก้าวร้าว แม้กระทั่งเมื่อวาน ในงานเปิดงาน “มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์” นายกฯก็ใช้ฉวยโอกาสการเปิดงาน ด่า กราด โจมตี ปลุกระดมให้คนเกลียดชังกลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่มอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล ซึ่งผมเห็นว่า เป็นความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งนายกฯได้ออกมาปูดข่าว ว่า จะมีม็อบปิดศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ผมเห็นว่า เป็นพฤติกรรมครั้งแล้วครั้งเล่าของนายกฯ ที่ให้ข่าวในลักษณะที่ไม่สร้างสรรค์ ก่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม ถ้าเป็นไปได้กลุ่มพันธมิตรฯ ไม่น่าจะมีศักยภาพที่ไปสร้างม็อบปิดล้อมศาลากลางได้ครบ 76 จังหวัด ตามที่นายกฯกล่าวอ้าง ผมอยากให้นายกฯสงบปากคำ สงบอารมณ์ และอยากแนะนำว่าวันนี้ เป็นวันเข้าพรรษา อยากให้ปิดปาก หยุดปูดข่าวเพื่อเข้าพรรษาสัก 3 เดือน ถ้านายกฯทำได้ ผมคิดว่า สถานการณ์บ้านเมืองก็น่าจะดีขึ้น” นายเทพไท กล่าว
ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วง คือ ภาพข่าวที่ปรากฏเมื่อวานที่มีการปะทะกันที่ประสาทเขาพระวิหาร ระหว่างคนไทยด้วยกันถึงขนาดเลือดตกยางออก ถือเป็นจุดเริ่มต้นและส่งสัญญาณคนไทยจะฆ่ากันเองหรือไม่ สิ่งที่นายกฯ พูดตามหลักศาสนา ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค ว่า การจะแก้ปัญหาต้องแก้ที่ทุข์ หนทางดับทุกข์ ก็คือ แก้ที่ต้นเหตุ ซึ่งนายกฯ บอกว่า ต้นเหตุทุกข์ของบ้านเมือง คือ รัฐธรรมนูญ แต่ตนมองตรงข้ามนายกฯ เพราะต้นเหตุของบ้านเมือง อยู่ที่นายกฯ ถ้าจะแก้ต้องแก้ที่ตัวนายกฯเท่านั้น ถ้านายกฯ พิจารณาตัวเองลาออก บ้านเมืองก็จะดับทุกข์ได้
นอกจากนี้ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประกาศหยุดยิงของกลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ ว่า พรรคได้ให้ความสนใจ และรู้สึกประหลาดใจว่าเรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครมได้อย่างไร ในขณะที่คนในรัฐบาลปิดปากเงียบ ไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ ไม่ทราบว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รู้เห็นเรื่องนี้หรือไม่ หรือมีท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างไร ก็ไม่เห็นเป็นข่าวออกมา แต่เรื่องนี้จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไร แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับเรื่องนี้มาก
สังคมอยากให้เรื่องนี้เป็นจริง เพราะภาคใต้จะได้สงบเสียที จากปรากฏการณ์เช่นนี้ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนในสังคมสิ้นหวังกับรัฐบาล และรัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ ประชาชนมขาดที่พึ่ง จึงทำให้ประชาชนสนใจ และคาดหวังกับข่าวที่จะเป็นสาระหรือไม่สาระก็ตาม แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามที่พอเป็นความหวังได้บ้างประชาชนก็เริ่มคาดหวัง
“อยากถามรัฐบาล โดยเฉพาะนายกฯ มีท่าทีเรื่องนี้อย่างไร ทำไมปล่อยให้ใช้สื่อของรัฐ โดยเฉพาะสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ซึ่งเป็นของกองทัพบก เสนอข่าวนี้อย่างครึกโครมปราศจากการตรวจสอบ รัฐบาลจะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร หรือนายกฯตอบในวันอาทิตย์ ในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ก็ได้” นายเทพไท กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.มหาดไทย (เงา) ได้กำชับไปยัง ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดใต้ ให้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน เพื่อหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมทั้งติดตามสถานการณ์ความเคลื่อนไหวในพื้นที่อย่างกระชันชิด เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประชุมหารือกับคณะกรรมการบริหารพรรคต่อไป
