xs
xsm
sm
md
lg

ทะแม่ง! โจรใต้หยุดยิง “เชษฐา” โม้คนเดียว ผบ.ทบ.-แม่ทัพ 4 ใบ้กิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม และ อดีต ผบ.ทบ.
โจรใต้แถลงยุติก่อเหตุรุนแรงในชายแดนใต้ฝ่ายเดียว ส่อเค้าพิลึกกึกกือ มี “เชษฐา” นายทหารนอกราชการคุยโม้อยู่คนเดียวและสายตรงกระเหี้ยนกระหือรือรายงาน “หมัก” ทันที ขณะที่ ผบ.ทบ.-ผบ.สส.รวมทั้งแม่ทัพภาค 4 ต่างใบ้กินไม่รู้เรื่องและปิดปากเงียบ

วันนี้ (17 ก.ค.) พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ.ให้สัมภาษณ์ว่า จากคำแถลงการณ์ของ “กลุ่มรวมใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทย” ที่ยุติก่อความรุนแรงตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.เป็นต้นไป น่าจะรู้ได้ว่าเขาต้องการอย่างไร สรุปว่าเขามีเจตนารมณ์โดยแท้จริงที่อยากจะยุติการปฏิบัติการและอยากจะเห็นความสงบสุขเกิดขึ้นในจังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ ยังกล่าวถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือว่าเขามีพระเจ้าอยู่หัวองค์เดียวกับพวกเรา ซึ่งคิดว่าเมื่อเป็นเจตนารมณ์เขา เราก็ควรตอบรับด้วยความยินดีอย่างยิ่ง และขอให้ควบคุมการบังคับบัญชากันให้ดี จริงๆ แล้วเราจะรอผลการพิสูจน์จากนี้เป็นต้นไปตามที่ได้ประกาศ เรามีทีมงานทำมาตลอด แต่เข้มข้นประมาณปีเศษ

เมื่อถามว่า เป็นตังวจริงหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เป็นตัวจริงเขายืนยัน และเรามีตัวกลางเชื่อถือได้ ยืนยันกันหนักแน่น ซึ่งเรามีความมั่นใจในตรงนั้น เพราะเขาคงจะเบื่อเต็มทีแล้วจะไม่อยากเห็นการสูญเสียเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเขายืนยันว่าเขาเป็นหัวหน้าต้องพิสูจน์ตัวเองด้วย ส่วนคนที่ออกมาแถลงเป็นหัวหน้ากลุ่มรวมทุกกลุ่มใน 11 กลุ่ม แต่ชื่ออะไรขอปิดไว้ก่อน

เมื่อถามว่า รวมถึงกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เขาอยู่ตรงไหนไม่รู้ แต่เป็นตัวแทนกลุ่มทั้งหมดที่เรียกว่ากลุ่มใต้ดินรวมที่ปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อถามว่า ไม่คิดว่าเขาหลอก พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า มาถึงขั้นนี้แล้วจะหลอกหรือไม่ คิดว่าได้ทำเต็มที่ที่สุด ได้แค่นี้ตนขอรับผิดชอบคนเดียว ถ้าหน้าแตกขอหน้าแตกคนเดียว

เมื่อถามว่า ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเป็นช่วงนี้ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับจังหวะและเขาต้องการแสดงเจตนารมณ์ช่วงนี้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำในนามส่วนตัวที่อยู่ในฐานะกึ่งข้าราชการและมีความรับผิดชอบมาก่อน ซึ่งพยายามทำมาตลอด แต่ไม่สำเร็จรู้สึกเสียหน้า อายและเสียใจที่แก้ไขไม่ได้ ซึ่งขั้นตอนจากนี้ไปขอยืนยันตอบรับความปรารถนาดีของหัวหน้ากลุ่มรวมใต้ดินฯ และจะนำเรื่องนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีโดยผ่าน ผบ.ทบ.ในฐานะเป็นรอง ผอ.รมน.ซึ่งเป็นเรื่องลับ จึงไม่มีการแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ การพูดคุยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งจากแถลงการณ์ไม่มีเลย

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่ทำในนามรัฐบาล พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ทำในนามรัฐบาลติดต่อไม่ได้ เราต้องติดต่อผ่านตัวกลางอีกหลายช่วง เมื่อถามว่า มาเลเซียมีส่วนร่วมหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า มี ยืนยันว่ามีหมดรวมทั้งประเทศที่เป็นกลาง ไม่ว่าจะสหภาพยุโรป แต่ไม่ถึงตะวันออกกลาง แต่มีเกี่ยวข้องนิดหน่อย เราติดต่อไปหลายที่หลายจุด

เมื่อถามว่า การดำเนินการรายงานในกองทัพบกทราบหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าว่า รู้กันอยู่ในที แต่ตนต้องออกมารับผิดชอบ เพราะหากทำอะไรแล้วไม่ดีและเสียหาย ทางราชการจะเสียหายได้ ทั้งนี้ การดำเนินการครั้งนี้ไม่มีการช่วยเหลือจากกองทัพบก ซึ่งคนที่จะช่วยมีแต่ไม่อยากให้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องมาเดือดร้อนด้วย

เมื่อถามว่า ต้องใช้เวลาพิสูจน์นานเพียงใด พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า จากนี้ไป 30 วัน ถ้าหยุดยิง หยุดการปฏิบัติการทั้งหมด หากมีการก่อเหตุก็จะย้ำไป และต่อว่า ดูว่าสามารถควบคุมได้จริงหรือไม่ คิดว่าดีที่สุดแล้ว แต่จะบอกร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วยืนยันไม่ได้ แต่กล้ารับผิดชอบตัวเองก็กลัวถูกหลอก แต่คิดว่าดีที่สุดที่เขาแสดงความปรารถนาออกมา ซึ่งจะให้บอกตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ตนก็ไม่ยืนยัน

เมื่อถามว่า ไม่รอ 30 วันก่อนแล้วมาแถลง พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ที่เขาประกาศไปต้องบอกลูกน้องผ่านทางทีวี ตนเป็นห่วงว่าเขาสามารถติดต่อลูกน้องได้มากแค่ไหน ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่ถือว่าแปลก เพราะการติดต่อเครื่องมือเขาไม่ทันสมัย แต่เมื่อออกทางทีวีเป็นภาษามาเลเซียส่วนหนึ่งก็เข้าถึงคนที่อยู่ในมาเลย์ และภาษาไทย ซึ่งการออกที่วีอยากให้ทั่วถึง ยืนยันว่าการกระทำไม่ใช่การยกระดับ เพราะการกระทำไม่เกี่ยวกับราชการ ตนไม่มีระดับจึงไม่มีปัญหา การกระทำคงไม่ได้ยกระดับไปสู่โอไอซี

พล.อ.เชษฐา กล่าวอีกว่า ทางโอไอซีนั้นไม่เกี่ยวกัน แค่กลุ่มที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีเจตนารมณ์อย่างแท้จริง ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องดูกันต่อไป ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเข้าออกนอกประเทศเป็นธรรมดา คนที่เป็นผู้นำพูดภาษาไทยไม่ได้ ทั้งนี้ หาก 30 วันไม่มีเหตุการณ์ก็สามารถควบคุมเหตุการณ์อย่างที่ประกาศไว้ได้ ส่วนจะมีการแถลงการณ์ร่วมกันหรือไม่นั้น ต้องดำเนินการไปตามทีละขั้นตอน หากเจตนารมณ์เขาจริง การทำงานก็ง่าย แต่การดำเนินการไม่มีนัยและไม่ง่ายเกินไป ตนทำงานมาติดต่อเขาตลอดทั้งผ่านตัวกลางและใต้ดิน ซึ่งตัวกลางคือทุกประเทศที่เข้ามาเกี่ยวข้อง สหภาพยุโรปและอเมริกาก็สนใจหากมีความสงบ และอยากเห็นความสงบเหมือนไทย

พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ปัญหาภาคใต้เริ่มดีขึ้น เทียบสมัยก่อนอาจยิ่งกว่านี้ แต่เห็นเจตนาดีของรัฐบาลที่ไม่ต้องการเห็นคนใดคนหนึ่งไปทำสิ่งไม่ถูกต้อง เมื่อคิดอย่างนี้คิดว่าเขาสามารถกลับใจได้ ส่วนผู้ที่มีคดีอาญาต้องว่ากันทีหลัง ตนไม่เกี่ยวเป็นหน้าที่รัฐบาล ส่วนคดีอีกเรื่องว่าจะทำอย่างไร เขามีเจตนาดีตนจึงรับไว้ การกระทำไม่มีการต่อรองอะไร แต่หากยังเกิดเหตุรุนแรงใน 30 วัน ตนต้องกดดันว่ามีเหตุผลอะไร ซึ่งแถลงการณ์เขายืนยันว่าหากเกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่รัฐสามารถดำเนินการได้เลย ทั้งนี้ ตนตัดสินใจมานานที่จะออกมแถลงข่าว เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นตัวจริงร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่

เมื่อถามว่า คนที่มาแถลงเป็นมือหนึ่งของกลุ่มขบวนการหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เป็นเบอร์หนึ่งของกลุ่มที่มารวมกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สามารถเรียกเขาว่าหัวหน้าได้ การแถลงเป็นความคิดที่เขาต้องการให้ลูกน้องรู้ เป็นความต้องการของเขา เมื่อถามว่า เหตุการณ์มีมานานแต่วันนี้จบลงง่ายเกินไปหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ความจริงไม่ง่าย เราคงไม่รู้ว่าทำกันมาอย่างไร ซึ่งจากวันนี้จะดูสถานการณ์ภาคใต้ไปเรื่อยๆ

เมื่อถามว่า หัวหน้าขบวนการอยู่ในความดูแลของใคร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เขาปลอดภัยและอยู่ในที่ปลอดภัย เราไม่อยู่ว่าเขาอยู่ที่ไหน เมื่อถามว่า เหตุใด สะแปอิง บาซอ ไม่เป็นหัวหน้า พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ของอย่างนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงกันได้ ทั้งหมดรวมอยู่ในนี้แล้ว เขาเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาประกาศตัวเขาเอง และคนที่พูดภาษาไทยเป็นผู้นำทางทหาร หากเป็นหัวหน้าจริงเขาต้องสามารถพิสูจน์ตัวเองได้ คงต้องให้เวลาสักระยะ

เมื่อถามว่า หากเกิดเหตุใน 30 วันนี้ ท่านจะรับผิดชอบอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า จะให้ทำอย่างไร เมื่อไม่ใช่ เราบอกว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย หากหลอกก็คงไม่หลอกตนคนเดียว

ด้าน พล.ท.กิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ เจ้ากรมทหารสื่อสาร และในฐานะผู้อำนวย ททบ.5 กล่าวว่า การที่ พล.อ.เชษฐา มาใช้สถานีโทรทัศน์ ททบ.5 ในการแถลงและเผยแพร่ภาพการแถลงยุติก่อเหตุในพื้นที่ภาคใต้ เพราะท่านติดต่อมาที่ ททบ.5 และการอนุญาตให้ใช้ ททบ.5 เพราะตนทำหน้าที่ของสื่อที่เสนอข้อมูลข่าวสาร ซึ่งหากเป็นเรื่องดีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อประเทศ อย่างไรก็ดี ได้สอบถามไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ท่านก็บอกว่าอย่าไปยุ่ง แต่ถ้าเขาจะใช้ ททบ.5 ก็ปล่อยเขาไป เพราะเราทำหน้าที่ของสถานีสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่ง

ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องรอดูผลว่าเป็นอย่างไร และเขาจะหยุดจริงหรือไม่ จากนั้นค่อยว่ากันอีกครั้ง ซึ่งการรอดูผลเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่มีรายละเอียดอะไรมากมายเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และกองทัพบก ต้องถาม ผบ.ทบ. ส่วนที่หลายคนมองว่าเป็นการจัดฉากหรือไม่นั้น อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะถ้าการก่อเหตุหยุดจริงก็ถือเป็นเรื่องที่ดี

พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์ที่ต้องคุยกับทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งขณะนี้ทางกระทรวงกลาโหมยังไม่ได้ตรวจสอบอะไร เพราะ พล.อ.เชษฐาเพิ่งแถลง แต่ท่านก็เป็นผู้ใหญ่ที่พยายามช่วยเหลือ ทั้งนี้ คาดว่า 1-2 คงจะมีรีแอ็กชันจากกระทรวงกลาโหม ส่วนวิธีการดูง่ายๆ คือ ดูเหตุการณ์ต่อไปว่าจะเกิดเหตุหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันสื่อมวลชนพยามโทรศัพท์ติดต่อไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ พล.อ.เชษฐา นำเทปที่ผู้ก่อการร้ายประกาศว่าจะยุติก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ พล.อ.อนุพงษ์ ไม่ได้รับสายแต่อย่างใด แม้ว่าสื่อมวลชนหลายแขนงจะพยายามติดต่อไปหลายครั้งก็ตาม รวมไปถึง พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 ก็ไม่ได้รับสายสื่อมวลชนที่พยายามโทร.ติดต่อเช่นกัน

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวไม่ทราบเรื่องมาก่อน แต่อาจมีคณะรัฐมนตรีบางคนทราบเรื่อง เชื่อว่าคงเป็นการทำงานในทางลับ และ พล.อ.เชษฐา อาจได้รับมอบหมายไปช่วยเป็นกรณีพิเศษ อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวต้องสอบถาม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก

ด้านนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า การออกมาแถลงเช่นนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดี ถ้าหยุดก่อความไม่สงบได้จริง ก็จะทำให้พื้นที่ภาคใต้ดีขึ้น ส่วนจะจริงไม่จริง พิสูจน์ไม่ยาก 2-3 วัน ก็เห็นผลว่าจะมีการยิงกันอีกหรือไม่

เมื่อถามว่าบทบาทของ พล.อ.เชษฐา ในเรื่องนี้เกี่ยวกับนัยทางการเมืองหรือการปรับคณะรัฐมนตรีหรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า พรรครวมใจไทยชาติพัฒนามีโควต้าอยู่แล้ว ส่วนจะมีโควต้าพิเศษอีกหรือไม่ เป็นเอกสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา

ทั้งนี้ สำหรับงานของกระทรวงยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ก็เดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เพราะงานยุติธรรมชุมชน และคุ้มครองสิทธิฯ เป็นเรื่องการพัฒนา ช่วยเหลือ ไม่ใช่งานปราบปราม

อนึ่ง เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน ที่ ททบ.5 พล.อ.เชษฐา ให้สัมภาษณ์ก่อนการบันทึกรายการสดเกี่ยวกับผลการเจรจากับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ก่อการร้ายระบุว่า จะยุติการก่อความไม่สงบในพื้นที่ว่า เรื่องนี้เกิดมานานแล้ว ตนในฐานะที่มีความรับผิดชอบมาตั้งแต่รับราชการ และตั้งแต่เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ตนมีความสนใจเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ และมีเหตุการณ์เกิดมาโดยต่อเนื่อง ตนเคยเป็นรมว.กลาโหม และผบ.ทบ.เคยลงพื้นที่หลายครั้ง พยายามแก้ปัญหาหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ลุล่วง

เมื่อถามว่า มีการไปเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายเมื่อไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า คงใช้คำว่า เจรจาไม่ได้ เพราะถือว่า การพูดคุยครั้งนี้ไม่ได้เป็นทางการ หรือยกระดับ แต่เป็นการพูดคุยธรรมดา เพื่อหาข้อตกลงหรือหาข้อยุติให้ได้ และต้องยืนยันให้ได้ว่าต้องเป็นข้อยุติที่แท้จริง ซึ่งตนทำมาโดยต่อเนื่อง เมื่อถามว่า ผู้ก่อการร้ายติดต่อมาอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ในทางลับเรามีสายติดต่อกันอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยโบราณ ส่วนจะเป็นผู้ก่อการร้ายจริงหรือไม่นั้น เป็นเรื่องในรายละเอียด และเป็นเรื่องที่ลึกลับ การที่จะแยกแยะและชี้ให้ชัดออกไปยังไม่แน่นอน

เมื่อถามว่า หลังการเจรจาทุกอย่างจะยุติใช่หรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ใช่ แต่ยังไม่มีการประกาศที่ชัดเจน เราแค่ติดตามเพื่อพิสูจน์ทราบให้ชัดเจน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มรวมที่ทุกคณะอย่างน้อย 11 กลุ่มที่ก่อการร้ายในพื้นที่ ซึ่งคิดว่าการพูดคุยครั้งนี้ ผู้ก่อการร้ายไม่มีเงื่อนไข เพราะหากมีเงื่อนไขเราคงรับไม่ได้ และทั้งหมดนี้ต้องแสดงความปรารถนาดีและความจริงใจว่า ต้องการเห็นความสงบจริง จึงจะมาพูดกันต่อไป เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ก่อความไม่สงบจึงยอมเจรจาด้วย พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า วันเวลาทำให้เปลี่ยนไปได้ และเป็นความพยายามของหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการดำเนินการในส่วนนี้ทาง กอ.รมน.และ กระทรวงกลาโหมไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ้งจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะเรียนให้รัฐบาลทราบ โดยผ่านทางผบ.ทบ. ซึ่งทางนายกฯและ ผบ.ทบ.รู้ว่าตนทำอะไรอยู่ เพราะตนทำมานานแล้วตั้งแต่ พล.อ.อนุพงษ์ยังไม่เป็นผบ.ทบ.และท่านก็รู้ว่า ตนทำอะไรอยู่

เมื่อถามว่า การออกมาเปิดเผยครั้งนี้จะส่งผลต่อการปรับตำแหน่งเป็นรมว.กลาโหมหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ขอประกาศเลยว่า ไม่ยอมรับ เพราะเราทำงานไม่ได้หวังสิ่งนั้น เพียงแต่ประจวบเหมาะกับตรงนี้พอดี และที่เราทำมาโดยตลอดผลจะออกมาตรงไหนตนก็ไม่ทราบ

เมื่อถามว่า หากมีการแถลงยุติบทบาทในตอนนี้ และภายหลังมีการระเบิดขึ้นมา จะทำอย่างไร พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า เราต้องแยกแยะให้ออก หากเป็นการกระทำของฝ่ายนั้น เราต้องถามไปทางเขาว่า ไหนว่าตกลงกันแล้ว แต่คิดว่าทางนี้เป็นทางดีที่สุดนี้ แต่คงยังรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีการก่อเหตุ แต่เขายืนยันว่า เขาจะไม่ก่อเหตุอีก

เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกับผู้ก่อการร้ายได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า จะต้องมีการพูดกันต่อไป แต่เขายืนยัน และทุกอย่างจะกระจ่างหมด ทั้งนี้เชื่อว่าไม่น่าจะมีนัยยะแอบแฝง แต่หมายความว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไรก็เมื่อนั้น แต่เมื่อเขาพร้อมตอนนี้เราก็เอาตอนนี้

เมื่อถามว่า เป็นการจัดฉากหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ตนขอรับผิดชอบ เรื่องจัดฉากไม่มีอยู่ในความคิดของตนโดยเด็ดขาด และไม่มีนัยยะทางการเมืองโดยเด็ดขาด เพราะจะเกิดขึ้นเมื่อไรเราไปบังคับไม่ได้ ทั้งนี้เชื่อว่า ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และมีความมั่นใจมากกว่าทุกครั้ง ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายอย่างไรต่อไปนั้น เป็นเรื่องที่เราจะต้องพูดกันต่อไป แต่ที่ต้องคิด คือ เขามีความตั้งใจจริงหรือไม่ และมีความปรารถนาดีที่อยากเห็นความสงบสุขทางภาคใต้หรือไม่ ส่วนจะมีการนิรโทษกรรมหรือนั้น ยังไม่มีการพูดเรื่องนี้ เพราะต้องให้รอจบเรื่องนี้ก่อน

กำลังโหลดความคิดเห็น