xs
xsm
sm
md
lg

“ดร.กระมล” อุ้ม “พลังแม้ว” อ้าง รธน.50 ตัวปัญหาใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กระมล ทองธรรมชาติ
“ดร.กระมล” ทำอิดออดแต่พองาม ชี้ควรรอ กมธ.ศึกษา รธน.เสร็จก่อนแล้วค่อยเสนอแก้ไข แต่เนื้อแท้ความคิดนั่งกลางใจ “หมัก” อ้าง รธน.50 มีปัญหาใหญ่หลายจุด โดยเฉพาะ ม.190-237 ทำฝ่ายบริหารอ่อนแอ ตะแบงช่วย “พลังแม้ว” อ้างเร่งแก้ไข รธน.ไม่ใช่เพื่อหนีผิด แต่เพราะคิดเห็นต่าง เรื่องคนทำผิดทำไมต้องล้มพรรค

วันนี้ (15 ก.ค.) ที่รัฐสภา นายกระมล ทองธรรมชาติ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ 2550 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเป็นอุปสรรคในการบริหารราชการแผ่นดิน ว่า คณะกรรมาธิการมีหน้าที่ศึกษาปัญหาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับแนวคิดของนายกฯ เมื่อได้ข้อสรุปผลการศึกษาแล้ว หากเห็นว่าจะต้องมีการแก้ไขก็เสนอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ไม่แน่ใจว่า ทางสภาจะเห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการหรือไม่ ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่าการทำงานของกรรมาธิการจะมีผลให้แก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งการแสดงความเห็นของนายกฯ ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของกรรมาธิการชุดนี้ แต่เราเชื่อว่า คณะกรรมาธิการจะเสนอรายงานขั้นต้นให้สภาพิจารณาได้ต้นเดือน ส.ค.นี้ แต่หากมีเนื้อหาไปคล้ายคลึงกับแต่ละพรรคการเมืองเสนอมาที่ประชุมสภา ก็คงจะได้พิจารณากัน

เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคพลังประชาชน จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาก่อนที่คณะกรรมาธิการจะพิจารณาเสร็จเหมาะสมหรือเปล่า นายกระมล กล่าวว่า มีหลายคนคิดว่า ควรรอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาให้เสร็จก่อน แต่ก็มีบางส่วนเห็นว่าไม่ต้องรอก็ได้ ให้แต่ละพรรคเสนอขึ้นมาแล้วไปพิจารณาร่วมกันในที่ประชุมสภา แต่ส่วนตัวคิดว่าควรรอผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ ซึ่งค่อนข้างละเอียด เพราะดูทั้งแง่มุมการเมือง วิชาการ และในทางปฏิบัติ ซึ่งมีแง่มุมที่ลึกพอสมควร ส่วนหากรัฐบาลเสนอแก้รัฐธรรมนูญโดยไม่รอผลการศึกษาก็ไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ ตอบไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเป็นการเสนอแก้แล้วไม่ตรงกับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการ

เมื่อถามว่า คณะกรรมาธิการได้พิจารณาประเด็นการจัดระเบียบตุลาการใหม่หรือไม่ นายกระมล กล่าวว่า ยังไม่มีการพิจารณา ขณะนี้พิจารณาเพียงโครงสร้าง ส่วนกรณีที่ ส.ส.เตรียมเข้าชื่อยื่นถอดถอนองค์กรอิสระ 4 องค์กรนั้น ไม่มีความเห็น เป็นดุลพินิจของ ส.ส.ที่จะทำในสิ่งที่เขาคิดว่าควรทำ

เมื่อถามว่า ทางคณะตุลาการชี้แจงว่ารัฐธรรมนูญไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาตัวบุคคลมากกว่า นายกระมล กล่าวว่า รัฐธรรมนูญก็มีปัญหา ซึ่งเราศึกษาพบแล้ว และจะเสนอให้เห็นว่ามีปัญหาตรงไหนบ้าง เป็นปัญหาใหญ่ด้วย อย่างปัญหาโครงสร้างที่มีการถ่วงดุลกัน แต่กลับทำให้บางฝ่ายอ่อนแอไปเลย ทำงานได้ไม่สะดวก อย่างเรื่องการเปิดโอกาสให้ตรวจสอบกันมากก็ทำให้ฝ่ายที่ถูกตรวจสอบ คือ ฝ่ายบริหาร อ่อนแอไปจนทำงานไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า อยู่ในส่วนมาตรา 190 ใช่หรือไม่ นายกระมล กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง พูดตรงๆ เคยร่วมร่างรัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ แต่ไม่เคยมีการใส่มาตรา 190 วรรค 2 ลงไปเลย ทุกอย่างเข้าสภาหมด สรุปในภาพรวมยังไม่เสร็จอย่าเพิ่งพูดกัน

เมื่อถามว่า มองแล้วรัฐธรรมนูญหรือตัวบุคคลมีปัญหามากกว่ากัน นายกระมล กล่าวว่า มองแล้วก็มีปัญหาทั้งสองฝ่าย มีการแปลความหมายเข้าข้างตัวเอง ซึ่งบางทีอาจจะไม่ใช่ความหมายอย่างนั้นก็ได้ ดังนั้น เรื่องทุกอย่างจึงต้องไปยุติที่ศาล

เมื่อถามว่า มองว่า คนกระทำผิดแก้กฎหมายเพื่อให้ตัวเองพ้นผิดโดยเฉพาะมาตรา 237 นายกระมล กล่าวว่า ยังไม่เห็นมี มาตรา 237 ไม่เกี่ยวกับการกระทำผิด แต่เป็นเรื่องที่เขามองว่าคนกระทำผิดแล้วไปล้มพรรค แทนที่จะเอาผิดตัวบุคคล จึงมีการโต้เถียงกันว่าแล้วทำไมไปล้มพรรคเขาด้วยทั้งที่เขาไม่รู้เรื่อง แต่ก็มีคนเถียงว่าถ้าไม่เขียนอย่างนี้ขจัดการซื้อเสียงไม่ได้ ดังนั้นจึงคิดว่ามาตรา 237 จึงไม่สามารถแก้ปัญหาการซื้อเสียงได้เด็ดขาด

เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเร่งทำให้เสร็จในรัฐบาลนี้หรือไม่ นายกระมล กล่าวว่าก็อยากให้เสร็จในรัฐบาลนี้ แต่สภาจะแก้หรือไม่ไม่ทราบ แต่เราจะศึกษาให้ละเอียด

เมื่อถามว่า รูปแบบการแก้ควรให้สภาแก้ หรือตั้ง ส.ส.ร.3 นายกระมล กล่าวว่า ตอนนี้ก็มีคณะกรรมาธิการวิสามัญอยู่ ส่วนรายงานไปแล้วสภาจะเอาหรือไม่อยู่ที่สภา ส่วนแนวคิดเรื่อง ส.ส.ร.3 ตนก็เห็นด้วย เพราะจะมีบุคคลหลากหลายสาขาอาชีพ แต่ต้องเป็นอิสระจริงไม่มีพิมพ์เขียวของใคร ซึ่งคงมีค่าใช้จ่ายเยอะ สิ้นเปลืองมาก เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าตั้ง ส.ส.ร.3 ไม่ได้ก็เอาผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการก็ได้ ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นขณะนี้ไม่ได้เกิดจากรัฐธรรมนูญ แต่เกิดจากตัวบุคคล ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ไม่ยอมรับความเห็นซึ่งกันและกัน ถ้ายอมซะบ้างถอยกันคนละก้าวจะทำให้ความรู้สึกที่แตกต่างทางความเห็นลดลง ความจริงความขัดแย้งไม่ใช่สาเหตุของความรุนแรง ตอนนี้แค่แตกต่างเท่านั้น แต่มาแปรความกันว่าขัดแย้งเลยทำให้น่ากลัวว่าแล้วมันจะจบตรงไหน

อนึ่ง นายกระมล ทองธรรมชาติ เป็นอดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ลงมติในเสียงข้างมากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ้นจากความผิดในคดีซุกหุ้นภาคแรก เมื่อปี 2544
กำลังโหลดความคิดเห็น