“พ.ต.ท.ประกิต” ลั่นทำเพื่อชาติ โดนสอบวินัยก็ไม่กลัว

“พ.ต.ท.ประกิต กิจเจริญ” ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ลั่น ไม่สนถูก “ผู้ใหญ่” ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ยันขอทำหน้าที่เพื่อประชาชน ประเทศชาติ และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากผิดจริงน้อมรับทุกประการ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พ.ต.ท.ประกิต กิจเจริญ ปราศรัย 

วันนี้ (15 ก.ค.) เวลา 01.00 น. พ.ต.ท.ประกิต กิจเจริญ สารวัตรฝ่ายอำนวยการ สถานีตำรวจภูธร จ.แม่ฮ่องสอน ใส่ชุดข้าราชการตำรวจขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บนสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยย้ำว่าไม่หวั่นแม้นถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวน ฐานใส่ชุดข้าราชการตำรวจขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็มั่นใจในการตัดสินใจที่ต้องการทำเพื่อประชาชน ชาติ และพระมหากษัตริย์

“ถ้าหากผู้บังคับบัญชาสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ผมก็พร้อมชี้แจง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ผมขึ้นเวทีพันธมิตรฯก็เพื่อเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชน มาแสดงความคิดเห็นแนวทางในการที่จะทำให้ประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันตำรวจดีขึ้น ให้สมกับคำว่าผู้พิทักษ์สันติราษฏร์อย่างแท้จริง” พ.ต.ท.ประกิต กล่าว

ส่วนข่าวที่มีการระบุผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเรียกเข้าไปพบนั้น พ.ต.ท.ประกิต ยอมรับว่า ถูกติดต่อมาจริง แต่ก็ไม่รู้สึกตกใจอะไร เมื่อเดินทางกลับถึง จ.แม่ฮ่องสอน ก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงทันที พร้อมยืนยันประชาชน ประเทศชาติ และองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวต้องมาก่อน ถ้าเห็นว่าผิดจริงจะลงโทษเอาผิดทางวินัย ตนก็พร้อมน้อมรับทุกประการ

พ.ต.ท.ประกิต ยังเสนอแนวทางให้รัฐธรรมนูญมีสองฉบับ ฉบับที่หนึ่งว่าด้วยกฎหมายของรัฐทั้งหมด ฉบับที่สองจะเกี่ยวข้องกับหน้าที่ของประชาชนชาวไทย รวมถึงคุณธรรมจริยธรรมของข้าราชการทั้งหมด โดยฉบับที่สองนี้ให้ถือเป็นมาตรฐานในแนวทางการปฏิบัติราชการ ซึ่งหากเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ก็ให้ยกเลิกเฉพาะฉบับที่หนึ่ง คงฉบับที่สองไว้ นอกจากนี้ ระบบราชการควรจะใช้สองระบบรวมกัน คือ ระบบราชการผสมเอกชน แยกค่าใช้จ่ายออกเป็นสัดส่วน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ข้าราชการมีชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ประกิต ต้องการเห็นระบบราชการเปลี่ยนแปลง การโยกย้ายต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสีย ข้าราชการต้องได้ทำงานในพื้นที่ภูมิลำเนาของตัวเอง แก้ปัญหาการเดินไปทำงานข้ามภูมิลำเนา ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ข้าราชการมีเงินเก็บและคงอยู่ดูแลบิดา มารดามากขึ้น ขณะเดียวกัน ในการโยกย้ายต้องเป็นธรรม และต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้กับข้าราชการคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ ข้าราชการทุกคนต้องเท่าเทียมกันหมด