“อดีตผู้ว่าฯ หญิง” ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ แฉ “แม้ว” พยายามทำลายความแข็งแกร่งระบบข้าราชการ หวังเข้าครอบคลุมทุกอย่างแบบราบรื่น เตือนข้าราชการไทยอย่าเผลอตกเป็นเครื่องมือ อาจตกเป็นแพะรับบาป
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา ปราศรัย
วันนี้ (12 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.40 น. นางนิพัทธา อมรรัตนเมธา อดีต ส.ว. และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และปทุมธานี ปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโดย เชิงสะพานมัฆวานฯ ว่า ตนนั้นชื่นใจที่มีนายทหารขึ้นมาพูดบนเวทีนี้ ซึ่งเช่นเดียวกับตนที่ทนไม่ได้กับเรื่องหรือเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยปกติทหารจะมีทั้งหมด 4 เหล่า แต่เท่าที่ดูตอนนี้เห็นอยู่เหล่าเดียวที่กล้ามาขึ้นเวทีนั่นคือ ทหารบก ไม่รู้เหล่าที่เหลือหายไปไหนกันหมด
“ความจริงขบวนการจาบจ้วงมีมานานแล้ว โดยมีมาตั้งแต่สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ เรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันนี้ การจาบจ้วงที่มีอยู่ตามเว็บไซต์ยังไม่มีใครดำเนินการ” นางนิพัทธากล่าว
นางนิพัทธา กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าถ้าหากทุกวันนี้ไม่มีราชวงศ์จักรี ประเทศไทยก็จะไม่มี ตนไม่เคยคุยว่าคุณปู่เป็นเจ้าพระยา เพราะคุณปู่เป็นแค่พระ และไม่เคยคุยโอ้อวดต่างๆ แต่จะลงมือทำเลย และที่เกิดมานี้เพื่อทดแทนบุญคุณของแผ่นดิน จะได้เกิดมาไม่เสียชาติเกิด การที่ข้าราชการประจำตกเป็นเครื่องมือ เพราะข้าราชการเหล่านี้เห็นแก่เงิน จึงตกเป็นทาสได้ง่าย และผลสุดท้ายจะตกเป็นแพะ จึงกลายเป็นแพะรับบาปในที่สุด
นางนิพัทธา กล่าวว่า อยากเรียนให้เหล่าข้าราชการทั้งหลายทราบว่า ตนนั้นมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของความเป็นข้าราชการเพียงไร ถ้าหากท่านทั้งหลายมีจุดยืน อยากให้ท่านได้ทบทวนและทำในสิ่งที่ถูกต้อง แล้วท่านจะปลอดภัย แต่ถ้าท่านพลีใจไปเป็นเครื่องมือให้กับคนพวกนั้น เมื่อนั้นท่านจะเป็นแพะรับบาป ที่สำคัญทักษิณพยายามทำลายความแข็งแกร่งของระบบข้าราชการ เพื่อจะได้เข้าครอบคุมข้าราชการทั้งหมดได้โดยง่าย
“อย่างระบบโทรคมนาคมนั้นเป็นสมบัติของชาติไทย ไม่ใช่สมบัติของประเทศสิงคโปร์ แต่ก็นำไปขายให้ อีกเรื่องคือเกาะกง เรื่องนี้นั้นชาวบ้านต่างไม่รู้ว่าที่นั่นมีผลประโยชน์ต่างๆ มากมาย และเขาพยายามที่จะนำชาวต่างชาติเข้ามาลงทุน เพื่อหาผลประโยชน์ให้กับครอบครัวของตัวเองเพียงอย่างเดียว” นางนิพัทธากล่าว
ตอนท้าย นางนิพัทธา กล่าวว่า อยากจะให้จับตาคนๆ นี้ให้ดี เขาผู้นี้พยายามจูงใจต่างๆ นานา โดยใช้หลักการทางการตลาดเข้ามาประชาสัมพันธ์ ชวนใจให้เชื่อตาม ซึ่งเงินที่นำมาใช้นั้นเป็นเงินจากภาษีประชาชนของพวกเราทั้งนั้น ตนเชื่อว่าถ้าหากคนผู้นี้ยังอยู่ จะมีนโยยบายขายชาติต่างๆ ตามมามากมาย และสิ่งหนึ่งทีทำให้ตนได้มายืนอยู่ที่นี่ คือ พวกท่านที่มาอยู่ที่นี้ ทำให้ตนทนอยู่หน้าทีวีไม่ได้ ทำให้อยากออกมา และอยากให้คนที่อยู่หน้าจอทีวีกล้าที่จะออกมา เพื่อการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองนี้จะได้เกิดขึ้น และน้ำเน่าต่างๆ จะค่อยๆ หมดไป