“ปธ.วิปฝ่ายค้าน” เตรียมบุกกระทรวงบัวแก้ว ตามล่าหามติ ครม.ฉบับปราสาทพระวิหาร มั่นใจสรุปถอดถอนเพิ่มในสัปดาห์หน้า ด้าน “ปองพล” แจ้นขอชี้แจง “ปชป.” ในฐานะ ปธ.คกก.มรดกโลกฝ่ายไทย กรณีขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารพรุ่งนี้
วันนี้ (11 ก.ค.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผยว่า นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการมรดกโลกไทย ได้ประสานผ่าน นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ส.ส.สัดส่วน เพื่อขอนัดพบคณะทำงานพรรคประชาธิปัตย์วันพรุ่งนี้ กรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร โดยนัด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคและคณะที่ทำเรื่องนี้เข้าฟังด้วย ซึ่งประเด็นที่จะซักถามมีมาก เพราะมีความสงสัยอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการในส่วนการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ว่า ทำไปมากน้อยแค่ไหนในการแจ้งกับฝ่ายต่างๆ เกี่ยวกับจุดยืนของประเทศไทยในประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ จะต้องถามเกี่ยวกับการดูแลพื้นที่ร่วมกัน 7 ประเทศที่วิตกว่าจะเป็นพื้นที่ในไทยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
นายสาทิตย์ กล่าวว่า นายปองพล คงอยากอธิบายให้ฟังว่าที่ไปดำเนินการมามีรายละเอียดอย่างไร ส่วนของพรรคก็ถือว่าได้ประโยชน์มาก เพราะในเวลานี้หลังจากยื่นถอดถอนนาย นพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ ก็กำลังดูเรื่องรายละเอียดที่จะเกี่ยวข้องกับการที่จะยื่นถอดถอนเพิ่มหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ หรือคนอื่นๆ เพราะมีปัญหาเอกสารพอสมควร เนื่องจากเมื่อวานได้รับเพียงสรุปมติ ครม.ไม่ได้ตัวรายละเอียดในการประชุมวันที่ 17 และ 24 แต่สิ่งที่ต้องการ คือ เอกสารที่ส่งจากกระทรวงการต่างประเทศ และมติ ครม.27 พ.ค.ที่ย้อนไปรับรองการดำเนินการที่กรุงปารีส โดยอ้างว่า เอกสารดังกล่าวเป็นชั้นความลับมาก ดังนั้น ขั้นตอนปฏิบัติต้องไปติดต่อกระทรวงการต่างประเทศเอง แต่ทางสำนักเลขาครม.จะดำเนินการให้ โดยตนจะรอดูหนึ่งวัน หากไม่ได้ ในวันที่ 14 ก.ค.ก็จะไปขอเองที่กระทรวงการต่างประเทศ
“ผมอยากเรียกร้องไปที่ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ช่วยเปิดเผยเอกสารดังกล่าวออกมา เพราะเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และไม่ถือเป็นความลับแล้ว เนื่องจากเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 สุดท้ายเรื่องก็ต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาอยู่ดี”
ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวด้วยว่า ในเรื่องนี้ยังไม่มีการตัดนายกฯออกจากการพิจารณาว่าจะถอดถอนออกจากตำแหน่ง เพราะอยู่ในฐานะที่ต้องรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว แต่การยื่นถอดถอนต้องมีเอกสารที่ชัดเจนว่านายกฯเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานใด ซึ่งสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนว่าจะถอดถอนใครเพิ่มบ้าง