เลขาธิการ ครม.รูดซิปปากบันทึกการประชุม ครม.ฉบับปราสาทพระวิหาร อ้างอันตรายศาลสั่ง พบพิรุธหลังมุบมิบลงนามร่วมจัดฉากเปิดแถลงข่าวอย่างลุกลี้ลุกลี้ ขณะที่โฆษกรัฐบาลหมกเม็ดตอบคำถามสื่อถึงรายละเอียด
วันนี้ (11 ก.ค.) จากกรณีที่ฝ่ายค้าน โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พยายามสืบค้นหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องถอดถอน นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า การค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวกับการลงนามร่วมขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยเฉพาะจากเว็บไซต์ของทำเนียบรัฐบาลนั้น ไม่พบข้อมูลมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวในรายงาน แต่กลับมีมติคณะรัฐมนตรีเรื่องอื่นๆ ปรากฏเป็นปกติ ทั้งนี้ หากจะใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร เพื่อเรียกหาหลักฐานก็ไม่สามารถที่จะกระทำได้ เพราะการจะใช้ พ.ร.บ.นี้ จะต้องเรียกหาสิ่งที่มีอยู่ แต่มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องประสาทพระวิหาร ไม่มีการบันทึกไว้ จึงไม่สามารถดำเนินการตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารได้
ด้าน นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธที่จะพูดหรือให้ข้อมูลใดๆเกี่ยวกับบันทึกการประชุม หรือมติคณะรัฐมนตรีเรื่องปราสาทพระวิหาร ว่า มีหรือไม่ โดยอ้างว่าศาลสั่งห้ามพูด เพราะเป็นอันตราย
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการหารือถึงประสาทพระวิหาร และมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2551 เรื่องการลงนามยินยอมให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่มีพื้นที่ทับซ้อนกับไทย และในวันที่ 18 นาย นพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ลงนามร่วมกับกัมพูชาในเรื่องดังกล่าวที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าทำการบันทึกภาพ อ้างว่าไม่สะดวก สร้างความสงสัยให้กับสื่ออย่างมาก
กระทั่งลงนามเสร็จสิ้น นายนพดล ได้เปิดตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาลแถลงข่าวร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมายระหว่างประเทศ เจ้ากรมแผนที่ทหาร ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ได้ลงนามยินยอมให้กัมพูชาขอขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรกดโลกเรียบร้อย โดยยืนยันตัวปราสาทพระวิหารทั้งหมดเป็นของกัมพูชา ที่ไทยแพ้คดี โดยศาลโลกตัดสินให้ตัวประสาทเป็นของกัมพูชาทั้งหมดตั้งแต่ปี 2405
ต่อมาในวันที่อังคารที่ 24 มิถุนายน 2551 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ทั้ง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ออกมาเปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการหารือถึงประเด็นประสาทพระวิหาร ซึ่งในที่ประชุม โดยนายกรัฐมนตรีทักท้วงให้มีการปรับเปลี่ยนจากคำว่า “แผนที่” เป็น “แผนผัง” เพื่อไม่ให้คาบเกี่ยวกับเรื่องของดินแดน และได้มอบหมายให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ร่างมติคณะรัฐมนตรีให้เรียบร้อย และนำกลับเข้ามาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไป ก่อนที่จะทำหนังสือเวียนให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกครั้งที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการแถลงเกี่ยวกับประเด็นประสาทพระวิหาร สื่อมวลชนจะพยายามซักถามถึงมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เพราะไม่เคยมีการเปิดเผยแม้จะมีการประชุมมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งลงนามร่วมกับกัมพูชาไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน