“ชิมไปบ่นไป” จ่อปากเหว กกต.นัดชี้ “หมัก” ชงศาล รธน.

กกต.แจงขั้นตอนการลงมติ ก่อนเสนออัยการสูงสุดยื่นศาล รธน.ชี้ ยุบพรรคพลังแม้ว รับมือ “หมัก” เผลอละเมอยุบสภาหนีมรสุมรุมเร้า คดีชิมไปบ่นไปจ่อปากเหว กกต.นัดสรุปความเห็นก่อนชงศาล รธน.ตีความซ้ำ

วันนี้ (9 ก.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการการมีส่วนร่วม กล่าวถึงขั้นตอนหลังศาลฎีกา แผนกคดีเลือกตั้ง เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือให้ใบแดง กับ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ว่า คล้ายกับขั้นตอนการพิจารณายุบพรรคชาติไทย และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย โดย กกต.จะรอหนังสือแจ้งจากศาลฎีกาฯ จากนั้นเป็นหน้าที่ของ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน โดยหากพบว่ามีเหตุผลควรยุบพรรค ก็จะขอมติจากที่ประชุม กกต.เพื่อเสนอต่ออัยการสูงสุด ก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป

“ส่วนตัวเห็นว่า นอกจากจะนำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 103 มาพิจารณาแล้ว ควรมีการนำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 98 มาประกอบการพิจารณาด้วย เพราะหากหัวหน้าพรรค หรือคณะกรรมการบริหารพรรค ไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยกับการกระทำผิด ก็ไม่น่าจะมีความผิด” นายสุเมธ กล่าว

นายสุเมธ ยังยืนยันความพร้อมของ กกต.ในการจัดการเลือกตั้งใหม่ หาก นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา เนื่องจากสถานการณ์การเมืองรุมเร้า แต่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม เพราะงบจัดการเลือกตั้งไม่มีการตั้งงบประมาณไว้ ส่วนการเลือกตั้งใหม่ ที่ จ.เชียงราย แทน น.ส.ละออง ติยะไพรัช ที่ได้รับใบเหลือง จะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ขณะที่ต้องเลื่อนลำดับ ส.ส.สัดส่วนคนถัดไปของพรรคพลังประชาชน ขึ้นมาแทนนายยงยุทธ

นายสุเมธ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการพิจารณาคุณสมบัติของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กรณีจัดรายการ “ชิมไป บ่นไป” ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า ขณะนี้ กกต.แต่ละคนได้รับเอกสารจากประธาน กกต.แล้ว โดยคาดว่าประธาน กกต.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่การประชุมในสัปดาห์หน้า