“สนธิ” นัดระดมพลหน้า สตช. 10 โมงวันนี้ แสดงพลังไม่เอาตำรวจรับใช้นักการเมือง รับใบสั่งกลั่นแกล้ง ปชช. เตรียมทำบัญชีรายชื่อเช็กบิลย้อนหลัง ระบุการเมืองใหม่ทำหลายคนเดือดร้อน เพราะรู้ทันช่องทางกอบโกย ย้ำแนวทางใหม่ ต้องแบ่งปันผลประโยชน์เป็นธรรม หมดยุคขูดรีดให้คนไม่กี่กลุ่มร่ำรวย ชูพี่น้องพันธมิตรฯ คือผู้สร้างการเมืองใหม่ นักเลือกตั้งพันธุ์เก่าต้องกวาดทิ้ง ย้ำสภาโจรต้องหมดไป
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. วันที่ 6 ก.ค.ว่า การเคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในเวลา 10.00 น.วันนี้(7ก.ค.)จะเป็นการไปแสดงความรู้สึกต่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ใน สตช. และประกาศเจตนารมณ์ในการชุมนุมด้วยสันติ อหิงสา จึงขอให้พี่น้องไปกันให้มากๆ ให้เขารู้ว่าประชาชนเกลียดตำรวจมากแค่ไหน ซึ่งในที่นี้หมายถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ไม่เกลียดตำรวจชั้นผู้น้อย
“เราเกลียดนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นเครื่องมือให้นักการเมืองมากลั่นแกล้งประชาชน สำคัญมากพี่น้อง เป็นโอกาสเดียวที่พี่น้องจะได้ไป อย่างน้อย 1 คน ก็เป็นการแสดงเจตนารมณ์ของตัวเองว่าที่ฉันมา เพราะฉันไม่พอใจ นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในกรม แล้วรับคำสั่งนักการเมืองมากลั่นมาแกล้งประชาชน ตำรวจชั้นผู้น้อยไม่เกี่ยว งานนี้ เพราะเป็นผู้อยู่ใต้บัญชาและรับคำสั่งที่ไม่ชอบธรรมจากผู้หลักผู้ใหญ่ของเขา เราต้องไปให้เขาเห็นว่านี่คือส่วนหนึ่ง เรายังมีประชาชนอยู่ทั่วประเทศที่รับฟังเราอยู่ ที่ไม่เอาตำรวจ ที่เป็นเครื่องมือของนักการเมือง”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า การเคลื่อนขบวนไป สตช.วันพรุ่งนี้ จะให้ยิ่งใหญ่กว่าวันที่ไป กกต. ขอให้พี่น้องนึกถึงวันที่ 25 พ.ค. ที่เราเดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาสะพานมัฆวาน มีกุ๊ยมาไล่ทำร้ายเรา โดยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั่งเฉยๆ บางคนมีส่วนอยู่เบื้องหลังกุ๊ยพวกนั้นด้วย เราต้องไปให้เขารู้ว่าเรารู้ทันเขา
นายสนธิ กล่าวอีกว่า ในวันข้างหน้าจะเตรียมรายชื่อนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ใครบ้างที่รับใช้การเมือง และรับใช้อย่างไรบ้าง แล้วแจกให้พี่น้องเอาไปติดฝาบ้าน ให้ลูกให้หลาน เพื่อนฝูงพ่อแม่พี่น้องได้ทราบว่า นายตำรวจตั้งแต่ยศ พล.ต.อ.ลงมาถึง พ.ต.อ.มีใครบ้าง รับใช้ใครบ้าง คนบางคนเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่มาหาเรื่องเรา เป็นใครที่ไหน ในที่สุดก็เป็นเด็กของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และจะเปิดเผยชื่อให้หมดว่าใครได้ดีเพราะใคร
“จำไว้เลยว่า ทุกอย่างมันเป็นอนิจจัง มีการเปลี่ยนแปลง และถ้าสังคมเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ มีโอกาสเมื่อไหร่จะเช็กบิลตำรวจตามรายชื่อที่ให้ไว้ในเร็วๆ นี้ ไม่มีอะไรเจ็บปวดและน่ากลัวเท่าการเช็กบิลของประชาชน คนพวกนี้วันหนึ่งจะรู้สึกถึงความขมขื่นในชีวิต เมื่อตัวเองแก่ลงก็ยังมีคนจำได้ เมื่อตัวเองเกษียรแล้วก็ยังมีคนพูดถึงชื่อตัวเองอีก ต้องสั่งสอนให้เขารู้จักเจ็บปวด ให้ลูกให้หลานเขารู้จักเจ็บปวดด้วยว่าพ่อเขาทำเวรกรรมกับประชาชนเอาไว้”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า ขอเตือนนายตำรวจหลายๆ คนทั้งที่เปิดเผยและทำตัวเป็นอีแอบ ตนรู้หมดว่าใคร แล้วถึงวันนั้นจะขอฉันทามติพี่น้องว่าจะอนุญาตให้นายสนธิเช็กบิลแทนพี่น้องหรือเปล่า
นายสนธิ กล่าวถึงแนวทางการเมืองใหม่ว่า เพียง 2 วันเท่านั้นที่พันธมิตรฯ พูดถึงการเมืองใหม่ ก็มีคนกระโดดโลดเต้น ยังกะมดอยู่ในกระทะร้อนๆ เดือดร้อนกันไปหมด ที่เดือดร้อนมากที่สุดคือพรรคพลังประชาชน พอเรารู้วิธีทำมาหากิน วิธีผูกขาดทางการเมือง วิธีลงลงทุนทางการเมือง แล้วเข้ามามากอบโกยทรัพยากร จึงกลัวกันไปหมด
“สั้นๆ ง่ายๆ การเมืองใหม่คืออะไร การเมืองใหม่คือการเอาผลประโยชน์ของชาติทั้งหมดมาวางต่อหน้าประชาชนทั้งหมด โดยไม่แบ่งแยกแล้วมาแบ่งผลประโยชน์ตรงนั้นให้กับพวกเราทั้งหมด โดยเท่าเทียมกันมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จะไม่มีใครได้มากที่สุด และไม่มีใครได้น้อยที่สุด นี่คือการเมืองใหม่” นายสนธิกล่าว
นายสนธิ กล่าวต่อว่า การเมืองใหม่หมายความว่า ถึงเวลาแล้วที่นักลงทุน กิจการพันล้านหมื่นล้านหมดยุคแล้วที่จะทำกำไรร้อยละ 100 แต่การเมืองใหม่จะบอกว่าถ้าคุณลงทุน100 บาท เอากำไรสัก 15 บาท ก็พอแล้ว ไม่ใช่กำไร 100-200 บาทในการลงทุน 100 บาท นี่คือการเมืองใหม่ เราจะถามว่ากำไรร้อยละ 15 คุณจะเอาไหม ถ้าไม่เอาก็ไม่ต้องมาลงทุน มีคนอื่นที่พร้อมจำเอากำไร 15 เปอร์เซ็นต์เขามีความสุขแล้ว สรุปนี่คือการเมือบใหม่ ส่วนโครงสร้างเป็นอย่างไรค่อยว่ากันทีหลังได้
“การเมืองใหม่จะไม่มีการขูดรีดราคาน้ำมันแบบนี้ การเมืองใหม่จะราคาบ้านแพงบ้าเลือดแบบนี้ การเมืองใหม่จะไม่ต้องให้ประชาชนจ่ายค่าสาธารณูปโภคแบบบ้าเลือดแบบนี้ การเมืองใหม่จะไม่ให้คนที่ออมทรัพย์แล้วฝากเงินในธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ ข้าราชการที่เกษียณ์แล้ว คนที่เก็บเงินเก็บทอง ฝากธนาคารได้ดอกเบี้ยแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ธนาคาเอาไปปล่อยกู้ได้กำไร 9-10 เปอร์เซ็นต์ กำไรตั้ง 8 เปอร์เซ็นต์ เป็นไปได้ยังไงพี่น้อง”
นายสนธิ กล่าวอีกว่า การเมืองใหม่คนฝากเงินต้องได้ 5-6 เปอร์เซ็นต์จึงจะอยู่ได้ ข้าราชการที่เกษียณสะสมเงินทั้งชีวิตมีเงินอยู่ 5 แสนบาท ฝากแบงก์ได้ปีละ 2 เปอร์เซ็นต์ คือ 1 หมื่นบาท เฉลี่ยเดือนละ 900 บาท จะเอาไปทำอะไร เติมน้ำมันถังหนึ่งยังไม่ได้เลย
“การเมืองใหม่ เป็นการเมืองที่ยุติการขูดรีด แล้วพวกเราต้องมาแบกรับถูกขูดรีดกันทุกคนแล้วให้คนกลุ่มไม่มากข้างบนนั้นร่ำรวยเอา การเมืองใหม่หมายความว่า ทาวเฮาส์หลังหนึ่ง ควรจะขายกันที่ 9 แสนบาท หรือ ล้าน 5 แต่ดันมาตั้งราคามาตั้ง 2 ล้าน 8 แสน 5 หมื่นบาท หรือ 3 ล้านบาท ลูกหลานเราในอนาคต ดาวน์บ้านผ่อนบ้าน 15 ปีก็ควรจะหมด ไม่ฝช่ผ่อน 30-50 ปี มันบ้ากันไปแล้ว”
นายสนธิย้ำว่า การเมือใหม่ที่สำคัญที่สุด คือพี่น้องที่มาอยู่ที่นี้ เป็นคนที่สร้างการเมืองใหม่ ไม่มีการเมืองที่ไหนในโลกนี้ ที่ประชาชนจ่ายเงินมาให้แกนนำขึ้นมาพูดบนเวทีให้ฟัง มีที่นี่ที่เดียว ถ้ามองเป็นพรรคการเมือง นี่คือพรรคมวลชนที่แท้จริง ไม่ใช่พรรคมวลชนของ “เป็ดเหลิม” นี่คือพรรคที่มีมวลชนอยู่ทั่วประเทศ คนจะมารวมกันอยู่ 43 วัน 43 คืนไมได้ ถ้าไม่ใช่เพราะการเมืองใหม่ ที่แต่ละคนมุ่งมั่นเอาประเทศไทยคืนมาแล้วเปลี่ยนประเทศให้ดีขึ้น
คนที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นพี่น้องที่นั่งอยู่ที่นี่ และที่นั่งอยู่ที่บ้านดูเอเอสทีวีไม่ยอมหลับนอน คนพวกนี้ต่างหากที่จะเปลี่ยนแปลง รวมถึงคนที่กระบี่ที่ขับไล่ ร.ต.อ.เฉลิม คนพวกนี้ที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ไม่ใช่คนอื่น ไม่ใช่คนอย่างเฉลิม คนอย่างบรรหาร ศิลปอาชา คนอย่างเสนาะ เทียนทอง พวกนั้นเป็นวัตถุโบราณที่ชำรุดทางการเมือง ที่ต้องเอาไปทิ้งขยะ อีกไม่นานเราต้องกวาดคนพวกนี้ให้ตกเวทีประวัติศาสตร์ เอาไปทั้งขยะเสีย
แล้วไม่ใช่เฉพาะคนอย่างเฉลิม บรรหาร เสนาะ แต่รวมถึงคนอย่างสุวัจน์ ลิปตพัลลภ สุวิทย์ คุณกิตติ พินิจ จารุสมบัติ ต้องเอาไปทิ้งให้หมด หมดยุคของการเข้ามาตอหลดตอแหล สร้างภาพ อ้างว่าเข้ามาเพราะประชาชนเลือกมา หมดยุคของการที่จะบอกว่า “ประชาชนเลือกผมมา” เพราะประชาธิปไตย ไม่ใช่เฉพาะเลือกการเลือกตั้ง แต่ประชาธิปไตยมีมากกว่านั้น
ถ้าประชาธิปไตยมีเฉพาะการเลือกตั้งและเสียงข้างมาก ถ้าโจรเข้ามาในสภาได้ แล้วยกมือกันลงมติให้ไปปล้นธนาคาร มันก็บอกมันเป็นประชาธิปไตย เหมือนโจรที่ยกมือเพื่อยกดินแดนให้เขมรในสภา
“เพราะฉะนั้นแล้ว อย่าไปสับสนกับเรื่องโครงสร้างการเมืองใหม่ อีกหน่อยจะเห็นชัด แต่ให้เข้าใจภาพรวมก่อน ถ้าคนถามว่าการเมืองใหม่คืออะไร เราก็บอก การเมืองใหม่จะไม่มีโจรเข้าไปนั่งในสภา แล้วยกมือขายดินแดนไทยให้กับเขมรไป พูดแค่นี้เขาเข้าใจแล้ว นี่คือการเมืองใหม่ครับ” นายสนธิกล่าว