“สมศักดิ์” จวกคนในรัฐบาลหุ่นเชิดจอมปลอม “เหลิม” หนีหัวซุกหัวซุนยังอ้างรอดได้เพราะมีคนรัก “นพเหล่” รู้ไม่จริงเรื่องเขาพระวิหาร ขณะ “สมัคร” พูดจาไม่อยู่กับร่องกับรอย เผยข้าราชการส่วนใหญ่ไม่เอารัฐบาลนี้แล้ว สับการเมืองแบบตัวแทน ยับยั้งขายชาติไม่อยู่ หนุนการเมืองใหม่ มีธรรมาภิบาลถ่วงดุล
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วันที่ 4 ก.ค.เวลาประมาณ 23.00 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ทุกคนที่มาที่นี้ได้ความรู้กว่าการเรียนในมหาวิทยาลัย ซึ่งความรู้นี้เราต้องเอาไปใช้ให้ประโยชน์ เอาไปเปลี่ยนแปลงประเทศแล้วสอนลูกหลานต่อไป การที่ประเทศเรามีปัญหาในวันนี้ เพราะมีความรู้จอมปลอม โดยเฉพาะคนในรัฐบาลนี้หลายคน อย่างเช่น ร.ต.อ.เฉลิม ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วไม่ไมีความรู้อะไรเลย จะมีก็แต่ยกตนข่มท่านไปวันๆ
กรณีที่หนีออกมาจากโรงแรมที่กระบี่ได้ ยังมีหน้ามาบอกตัวเองว่าเป็นคนดี มีคนคอยช่วยเหลือ ทั้งๆ ที่ถูกคนไล่จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้มีความรู้อะไรเลย ซึ่งปกติรัฐมนตรีทั่วโลกเวลาเขาไปไหนต้องได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี แต่ถ้าไปไหนแล้วโดนไล่แบบนี้ ถ้าเขาเข้าใจประชาธิปไตยจริงลาออกไปนานแล้ว
กรณี นายนพดล ปัทมะ อีกคน ที่ยืนยันมาตลอดว่า ปราสาทพระวิหารเป็นของเขมรมาแล้ว 45 ปี การลงนามครั้งนี้เราไม่เสียอะไรเลย แต่วันนี้ศาลสั่งระงับไม่ได้ดำเนินการ บอกให้เห็นว่าคนแบบนี้ คนที่เรียนทุนมหิดล จบเนติบัณฑิตจากอังกฤษ ได้ทุนในหลวง แต่ไม่รักประเทศ เรื่องความรู้เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่ทำไม่ได้บ่งบอกว่ามีความรู้เลย นายสมัครก็เช่นกัน มาบอกว่าให้เคารพศาลโลก เพื่อราชอาณาจักรไทย หนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกในเดือนกรกฎาคมนี้ ก็ยืนยันว่าทำถูกต้อง
นอกจากนั้น สื่อเองบางสื่อไม่ได้เป็นสื่อ วันนี้ มีคอลัมน์ที่เขียนโดยเบญจมาศ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งมีคุณยายอายุ 86 ปีเอามาให้ดู เนื้อหาเขียนว่าแกนนำพันธมิตรฯ อย่าง พล.ต.จำลองแกล้งโง่ เพราะการยกปราสาทพระวิหารขึ้นเป็นมรดกโลกไม่ได้ทำให้เราเสียดินแดน แต่กลับแกล้งโง่หวังล้มล้างรัฐบาลอย่างหน้ามืดตามัว ซึ่งเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าความรู้เป็นเรื่องสำคัญ ขนาดคนอายุ 86 ปี อ่านแล้วยังเข้าใจเลย คนเข้าใจว่าเป็นหนังสือพิมพ์แล้วจะเชื่อทั้งหมด แต่การอ่านต้องใช้สติ อย่าเชื่อเพราะว่าน่าเชื่อ แต่ต้องอ่านอย่างมีเหตุผล เพราะคนเขียนอาจจะไม่รู้จริง ไร้จริยธรรม หรือรับเงินใครมาก็มี ที่พูดมาก็เพื่อให้เห็นว่าบริโภคอะไรต้องไตร่ตรอง เพราะบางครั้งเป็นยาพิษ แต่อ่านอย่างมีสติปัญญา
“นายกฯ สมัครเองออกมาพูดว่า ธนาคารจะเจ๊ง ทหารจะปฏิวัติ วันนี้บอกว่าจะมีคนมาจับหลังจากลงเครื่องบิน ขนาดเป็นนายกฯ และเป็นถึงรัฐมนตรีกลาโหม ยังมาพูดให้คนอื่นเขาไม่มั่นใจในประเทศอีก แล้วยังมาพูดว่าพันธมิตรฯ ทำเศรษฐกิจของประเทศพังอีกด้วย”
ส่วนข้าราชการทุกวันนี้ อนุมานได้ว่าลึกๆ แล้ว เขาไม่ต้องการรัฐบาลแล้ว มีแต่อยากจะมาร่วมกับเรา แต่ยังมีตำรวจชั้นผู้ใหญ่บางนายเท่านั้น ที่ยังไม่เอากับเรา ดังนั้น 10 โมงเช้า วันจันทร์นี้ เราจะไปเยี่ยมสำนักงานตำรวจแห่งชาติกัน ไปให้รู้ว่าตำรวจจะอยู่กับประชาชนหรือว่าอยู่กับรัฐบาลชั่ว สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะข้าราชการไทยไม่มีสหภาพแรงงาน ซึ่งทั่วโลกเขามี ทำให้เราเห็นแรงงานออกมาเปิดโปงการคอร์รัปชั่นในหลายประเทศ แต่เราเคยชินกับการถูกขูดรีด เลยไม่กล้าทำอะไร
นายสมศักดิ์ กล่าวถึงการเมืองใหม่ว่า วันนี้เรามีปัญหาเรื่องตัวแทน ที่ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชาชนแต่เป็นตัวแทนของนายทุน ซึ่งการที่นายนพดล จงใจขายชาติ ครม.จงใจขายชาติ ด้วยการลงนามรับรองการขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก และ ส.ส.จำนวน 278 คน ก็ลงมือไว้วางใจนายนพดล ทั้งๆ ที่ฝ่ายค้ายยกข้อมูลขึ้นมาอ้างแล้ว ชี้แจงไม่ได้ ก็ยังยกมือรับรองว่าถูกต้อง แบบนี้ ตามกฎหมายถือว่ามีความผิด เพราะจงใจเจตนาขายชาติ ถ้าเตือนแล้วยอมรับ ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว แต่นี่เพราะศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองไว้จึงดำเนินการต่อไม่ได้ ซึ่งแสดงได้ว่าไม่ได้มีจิตสำนึกเลย
นอกจากนี้ การเมืองที่ดีต้องมีความชอบธรรมมาถ่วงดุล หรือที่เรียกว่า ธรรมาภิบาล ที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบและตรวจสอบได้ โดยให้อำนาจประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญเองก็ต้องมุ่งรับใช้ประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่คนบางคนเท่านั้น
“เวลาเราจะไปไหน ต้องถามว่า ประเทศมีปัญหาอะไร วันนี้คนยากจนมีเยอะ คนจนกระจาย คนรวยกระจุก โจทย์เรื่องนี้ คือ การกระจายรายได้ ด้วยการปฏิรูปภาษี ที่ดินทำกิน ปฏิรูปรายได้ คนทำธุรกิจไม่ต้องกลัว เพราะเมื่อคนมีรายได้แล้วก็จะใช้จ่ายซื้อของ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้หมุนเวียนได้ และสิ่งที่ต้องนำมาเป็นหลัก คือ เศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งรัฐบาลนี้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิง มีแต่จะเอาคาสิโนมามอมเมาประชาชน นอกจากนั้นต้องสร้างการศึกษาให้ทั่วถึงด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว