“เหลิม” ตีฝีปากโต้ ไม่ได้หนีกลับจากใต้ แค่ไม่อยากให้เกิดการปะทะ เพราะตัวเองเป็นคนน่ารัก ไม่ชอบใช้ความรุนแรง ชี้ ไม่เคยโกรธ แม้ถูกพันธมิตรฯ ตั้งฉายา “เป็ด” เพราะเป็นคนใจกว้างเหมือนแม่น้ำ แต่อ้างมีหลักฐานจ้างคนไปประท้วงที่กระบี่ เตรียมนำมาประจาน
วานนี้ (3 ก.ค.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการตอบโจทย์ ทางสถานีโทรทัศน์ทีวีไทย ทีวีสาธารณะ ถึงกรณีที่ถูกกลุ่มประชาชนขับไล่ ระหว่างเดินทางไป จ.ภูเก็ต จนต้องย้ายไปที่จังหวัดกระบี่ แต่ก็ถูกต่อต้านจนต้องหนีกลับมากรุงเทพฯ โดยไม่ได้ปฏิบัติงาน ว่า ไม่เป็นความจริงอย่างที่ข่าวเสนอ ตนไม่ได้หนีเพราะตนไม่ได้ทำผิดอะไร
ส่วนสาเหตุที่กลับมาก่อนโดยไม่ได้ทำงานก็เป็นเพราะเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมไปดักรอที่โรงแรมที่พักแล้ว ก็ก่อความวุ่นวายโดยจะบุกเข้าไปในโรงแรม จนชาวต่างชาติที่พักอยู่ที่โรงแรมก็หวาดกลัว รีบเช็กเอาต์ออกไปหมด อีกทั้งตนยังได้รับข่าวมาว่า หากยังไม่กลับวันรุ่งขึ้น เมื่อไปประชุมตามกำหนดการ กลุ่มคนดังกล่าวก็จะมาก่อความวุ่นวายอีก ตนจึงเห็นว่าอยู่ต่อก็มีแต่จะทำให้เกิดความวุ่นวายและอาจเกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นจึงกลับมาก่อนเพื่อป้องกันเรื่องรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะกลับมาแต่ก็ไม่ได้ละเฉยต่อเรื่องดังกล่าว เมื่อกลับมาก็สืบหาแกนนำที่จัดตั้งกลุ่มคนดังกล่าวแล้วว่าเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง รวมตัวกับผู้ที่กลัวจะเสียผลประโยชน์หากตนลงไปตรวจสอบการบุกรุกที่ดิน คนกลุ่มนี้จึงลงขัน รวมเงินกันจ้างคนมาก่อกวนเพื่อให้ตนลงตรวจพื้นที่ไม่ได้ ซึ่งหลักฐานนั้นตนมีแน่ตนให้คนรวบรวมไว้แล้ว และคาดว่าจะมาถึงมือตนในเย็นวันที่ 3 ก.ค.นี้ เมื่อได้หลักฐานมาแล้ว ตนก็จะนำไปฟ้องประชาชน และเสนอต่อสื่อประจานคนที่กระทำการนี้ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่า จะไม่ลงไปพื้นที่ภาคใต้อีก แต่หากลงไปแล้วยังมาชุมนุมยังอาจเกิดการเผชิญหน้าอีก ก็จะไม่ลงไป และเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาหนึ่งคนใต้ส่วนใหญ่จะออกมาต่อต้านผู้คนที่ชุมนุมเอง เพราะการที่ตนลงไป ก็ไปเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับภาคใต้ทั้งนั้น
ต่อคำถามว่า กลัวหรือไม่ว่าหนีกลับมาเช่นนี้จะเป็นการยอมแพ้ และทำให้ภาพพจน์ของความเป็น มท.1 จะไม่ดี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่กลัว เพราะตนเป็นรัฐมนตรี ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จะไปเอาชนะประชาชนไม่ได้ และโดยแท้จริงแล้วตนก็เป็นคนไม่ชอบเอาชนะหรือใช้ความรุนแรงอะไร “ผมอาจจะบุคคลิกแข็งไปนิดนึง แต่จริงๆ ไม่มีอะไร น่ารัก ผมน่ะ น่ารักจะตาย”
ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า จะยุติหรือไม่ เมื่อศาลแพ่งมีคำสั่งให้เปิดถนนและยุติเครื่องขยายเสียงบางช่วงเวลาแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คิดว่าคงไม่หยุด เพราะเห็นทางพันธมิตรฯ ก็บอกว่าจะไม่หยุด แต่อย่างไรก็ตามตนเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งยืนยันว่าจะไม่ใช่ความรุนแรงเด็ดขาด หากพันธมิตรฯ อยากชุมนุมต่อก็ทำไป ซึ่งในฐานะ รมว.มหาดไทยก็ไม่ได้กังวลเรื่องคนมาชุมนุม เพราะคนที่มาร่วมชุมนุมก็ไม่ได้มากอะไร การที่มีบางสื่อเสนอว่าเป็นแสนคนนั้นก็ไม่เป็นความจริง จำนวนคนมากสุดก็แค่ 3 หมื่นนิดๆ เท่านั้นในวันที่เขาเคลื่อนขบวนใหญ่ แต่วันอื่นๆ จำนวนก็ยิ่งน้อยลงไปอีก ที่กล้าบอกเช่นนี้ก็เพราะตนเป็นนักปราศรัยมาก่อน มองแค่แป๊บเดียวก็รู้แล้วว่าจำนวนคนเท่าไหร่
เมื่อถามต่อว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เคยสนิทสนมกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ แล้วจะยังมีโอกาสกลับไปดีต่อกันหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใช่ ตนกับนายสนธิ ชอบพอกัน แต่ก็เป็นน้ำแยกสายไผ่แยกกอ ไม่ได้กับมารวมกันอีก แต่ในฐานะคนคุ้นเคย ตนก็เคยยื่นมือไปหลายครั้งแล้ว แต่ฝ่าย นายสนธิ ก็ยื่นเท้ากลับมาทุกที แต่ก็ไม่อยากพูดมากนัก ประเดี๋ยวพรุ่งนี้จะถูกเขาออกข่าวด่าอีกหาว่าตนไม่มีราคา ส่วนฉายาว่า “เป็ดเหลิม” ที่ทาง นายสนธิ ตั้งให้ ตนก็ไม่ได้โกรธแค้นอะไร เพราะตนเป็นใจกว้างเหมือนกับแม่น้ำอยู่แล้ว