“สมเกียรติ” จี้ “ทหาร” สู้เพื่อในหลวง ปลื้มศาลที่พึ่งสุดท้าย ปชช.

“สมเกียรติ” จี้ทหารยืนข้างพระราชบัลลังก์ออกโรงปกป้องสถาบัน อย่ามั่วแต่ตีกอล์ฟแล้วปล่อยให้ประชาชนคุ้มภัย เผยคนศรีสะเกษฮือรุกปกป้องแผ่นดินเขาพระวิหาร แต่กลับถูกทหาร-ตำรวจ ขัดขวาง ชี้ชัดเหมือนเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรยศแผ่นดิน มั่นใจศาลเป็นที่พึ่งสุดท้าย หยัน “สภาขี้หมา” แค่อำนาจบริหารซ่องโจร-ถูกอำนาจเงินซื้อไว้หมดแล้ว

วันนี้ (28 มิ.ย.) เวลา 22.40 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า ในอดีตที่นายวีระ มุกสิกพงศ์ ไปกล่าวหมิ่นพระบรมเดชาณุภาพที่จังหวัดบุรีรัมย์ ทหารพระราชาในขณะนี้ได้ยื่นหนังสือดำเนิคดีจนทำให้ นายวีระต้องติดคุกทัน แต่เมื่อมาถึงวันนี้ ทหารกลับไม่ทำอะไรเลย

“พลเอกในประเทศไทยมีเยอะแต่ไม่ทำอะไรเลย มัวแต่ตีกอล์ฟ หรือจะชอบฟังคำว่า หลับเถอะทหารกล้า ฟาร์มสุนัขของจำลองจะคุ้มภัย หรือว่าทหารจะทำหน้าที่เป็นอยู่อย่างเดียวคือการไปซื้อถังแดงมาครอบหลักเขตแดนกันแน่โดยที่ไม่ทำอะไรเลย” นายสมเกียรติกล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า วันนี้ได้รับรายงานจากคนไทยผู้รักชาติ นำโดยคุณวัชร สอดพุด สหพันธมิตรองค์กรเครือข่ายในจังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดใกล้เคียงได้ เขาไปยึดพื้นที่บริเวณเขาพระวิหารด้วยการสร้างบ้านทรงไทยชื่อ ที่นี่ประเทศไทย แต่ก็เขาไปในพื้นที่ได้ไม่มาก เพราะถูกทหารตำรวจเขามาขัดขวางเอาไว้ ซึ่งผมเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่า พื้นที่ของคนไทยทำไมคนไทยถึงเข้าไปไม่ได้

ทั้งนี้ กลุ่มผู้รักชาติได้มีข้อเรียกร้อง 3 ขอด้วยกัน คือ 1.ให้ประเทศกัมพูชาถอดกุญแจที่ล็อกทางเข้าเขาพระวิหารออกไป 2.ให้ชาวกัมพูชาที่มาตั้งแผงขายของ และวัดสิขาภูมิที่เป็นของกัมพูชา ออกจากพื้นที่ไทย และ 3.ให้ยึดนโยบายของศาลปกครองในการดำเนินการต่างๆ แทนมติของคณะรัฐมนตรีเดิม

“ทหารไทยนอกจากหุบปากแล้วยังไม่ยอมให้ไทยเขาไปบนแผ่นดินไทย เสมือนเป็นเผ่าพันธ์ผู้ทรยศ ผู้เนรคุณแผ่นดิน” นายสมเกียรติกล่าว

นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังตั้งขอสังเกตในเรื่องที่ครูของโรงเรียนในพื้นที่การชุมนุม ไปยื่นฟ้องการชุมนุมของพันธมิตรว่าสร้างความเดือดร้อนให้เด็กนักเรียนว่า น่าจะเป็นครูที่ไม่รู้จักหน้าที่ครูที่แท้จริง ซึ่งบุคคลที่ไปยื่นฟ้องดังกล่าวก็เป็นชาวศรีษะเกศ และความจริงแล้วครูๆ ดีมีอีกเป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากครูที่ขายชาติ

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้กระบวนการตุลาการของประเทศไทยกำลังทำงานได้อย่างดี ซึ่งตามทฤษฎีของประเทศฝรั่งเศส อำนาจที่แบ่งออกเป็น 3 อย่างคือ 1 อำนาจบริหาร ซึ่งในประเทศขณะนี้น่าจะเป็นอำนาจบริหาร ซ่องโจรมากกว่า 2 อำนาจนิติบัญญติ หรือจะเรียกว่ารัฐสภาขี้หมาก็ว่าได้ โดยทั้ง 2 อำนาจนี้ได้ถูกอำนาจเงินคลอบงำไว้หมดแล้ว เหลือเพียงอำนาจตุลาการเท่านั้นที่จะเป็นที่พึ่งของประชาชน

“วันที่กระบวนการตุลาการได้ทำงานดี ด้วยความเคารพอย่างสูง คำตัดสินของศาลปกครองในวันนี้ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือ การที่มติในครั้งนี้ เพราะเห็นว่า พื้นที่ทับซ้อนกว่า 789 ตารางกิโลเมตรยังปักปันไม่สำเร็จ แล้ว ครม.จะมีมติเรื่องนี้ออกมาได้อย่างไร” นายสมเกียรติกล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมา ศาลมีคำสั่งออกมาถึง 6 ครั้ง อาทิเช่น การที่ศาลมติให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโฆษะ และกกต.จะต้องคืนเงิน 1600 ล้าน 2.การศาลมีมติจำคุก ก.ก.ต. ทั้ง 3 คน 4 ปี พร้อมเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง 10 ปี 3. คือการตัดสินคดียุบพรรค ทรท.ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 0 และเพิกถอนสิทธิคณะกรรมการบริหารพรรค 111 คน แล้ววันนี้ศาลปกครองก็มีการตัดสินคุ้มครองเขาพระวิหารอีก

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า การที่ศาลมีมติออกมาแต่ละครั้งเป็นที่พึ่งของประชาชนได้อย่างดี และอย่างให้จับตาในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการตัดสินคดี นายยงยุทธ ติยะไพรัตนย์ ในวันที่ 8 กรกฏาคมนี้ ซึ่งศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษา โดยประชาชนจะต้องอีกและช่วยกันต่อไป เพราะเราคือทหารพระราชา และทหารพระราชินี