“สมเกียรติ” สุดทนสภาลูกกรอก! มีแต่ผลประโยชน์ ปชช.พึ่งพาไม่ได้

“สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์” ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ จวกสภาลูกกรอก ไร้เหตุผล มีแต่เรื่องของผลประโยชน์ พึ่งพาอะไรไม่ได้ แฉ “ยี้ห้อย” ส่งคนสนิทนั่งคุม ธ.ก.ส.หวังฮุบผลประโยชน์กว่า 6 แสนล้าน ขณะเดียวกันจี้กองทัพแสดงจุดยืนร่วมปกป้องผลประโยชน์ของชาติ


วันนี้ (27 มิ.ย.) เวลา 21.40 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยช่วงแรกได้ย้ำถึงจุดยืนการต่อสู้ของภาคประชาชน โดยเฉพาะเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ต้องพึ่งระลึกถึงคุณค่าและประโยชน์การชุมนุมของพันธมิตรฯ ใช่เพียงฟังแต่ครูบาอาจารย์ที่ไม่เข้าใจ อ้างการชุมนุมของพันธมิตรฯ ก่อให้เกิดความวุ่นวาย อีกทั้งยังไม่มีประโยชน์อะไรหากจะให้เด็กหรือเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วม

จากนั้น นายสมเกียรติกล่าวตำหนิบทบาทหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฏรของนักการเมือง วันนี้พึ่งพาอะไรไม่ได้ เป็นสภาฯ ที่ไร้เหตุผล มีแต่ความเลวหราม มีแต่เรื่องของผลประโยชน์ ฉะนั้นแล้วอีกไม่นานสภาฯชุดนี้จะมีอันพังไปตามนายใหญ่ที่บงการอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ นายสมเกียรติยังแฉความไม่ชอบมาพากภายในธนาคราเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ผู้อำนวยการใหญ่ ธ.ก.ส.ที่กำลังจะหมดวาระ พยายามดิ้นจะต่ออายุโดยวางแผนกับฝ่ายการเมือง สหภาพแรงงานไม่พอใจลุกขึ้นมาต่อต้าน ไม่อยากให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นขึ้นใน ธ.ก.ส.อีก แต่ก็เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ฝ่ายการเมืองเห็นพ้องไม่ต่ออายุให้ผู้อำนวยการท่านเก่า จึงส่งลูกน้องนายเนวิน ชิดชอบ มานั่งในตำแหน่งดังกล่าวแทน

“ฝ่ายการเมืองกำลังจะเอาคนใกล้ชิดนายเนวิน มาคุม ธ.ก.ส.ซึ่งมีสินทรัพย์กว่า 6 แสนกว่าล้าน แล้วในขณะเดียวกันก็มีความพยายามเอาลูกน้องคนนี้ไปคุมธนาคารออมสิน ซึ่งมีสินทรัพย์กว่า 5 แสนกว่าล้าน ซ้ำรอยเมื่อครั้งที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำคนของตัวเองมานั่งแล้วแสวงหาประโยชน์ ปล่อยให้พี่น้องประชาชนกู้จนเกิดเป็นหนี้เสียในทุกวันนี้” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ ยังกล่าวถึงบทบาทของกองทัพต่อกรณีรัฐบาลยอมรับการขึ้นปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกของประเทศกัมพูชา ว่า ในพื้นที่แนวตะเข็บชายแดนที่เกิดปัญหา เป็นหน้าที่ดูแลรับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 แต่ภายหลังมีการรุกล้ำดินแดนจากทหารกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง กองบัญชาการกองทัพไทย และกองกำลังสุรนารี ยื่นหนังสือให้กองทัพภาคที่ 2 ดำเนินการทักท้วง แต่กองทัพภาคที่ 2 ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร รอฟังคำสั่งจากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหม

ทั้งนี้ ความอดทนของผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีทนไม่ไหว ยื่นหนังสือถึงสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อเร่งดำเนินการทักท้วงไปยังรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งครั้งนี้เองที่คำทักท้วงของกองทัพต้องหยุดชะงัก เมื่อเจอประกาศิตสั่งปิดปากจากนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ทำเอากองทัพมึนกันไปยกใหญ่ทีเดียว

ขณะเดียวกัน นายสมเกียรติได้ตั้งข้อสังเกตภายหลังอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมายได้ตอบคำซักถามของศาลปกครองระบุ ดินแดนไทยถูกรุกราน แล้วการที่นายนพดล ยกเมฆขึ้นมากล่าวอ้างทั้งในสภาฯ และสื่มวลชนว่า ไทยไม่เสียดินแดน ท่านจะแก้ต่างและตอบสังคมอย่างไร ตอบสังคมไม่เสีย แต่ทำไมไปศาลถึงตอบว่าเสีย โศกนาฏกรรมครั้งนี้ถือเป้นความโชคร้ายที่ประชาชนได้รัฐบาลที่ชั่วช้า กำลังขายชาติขายแผ่นดิน