“ภูวดล” ชี้ไทยหมดหวังพึ่งระบบรัฐสภา

“ภูวดล” ชี้บทสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และ รมต.ทั้ง 6 คน ตอกย้ำว่าไทยหมดความหวังที่จะดำรงคงอยู่ด้วยระบบรัฐสภาที่ควรเป็น ระบุเกือบทศวรรษที่ “ระบอบทักษิณ” ครองเมือง ไทยกลายเป็นประเทศคอร์รัปชันสูงที่สุดในโลก ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยอามิจสินจ้างเท่านั้น

วันนี้ (27 มิ.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า จากบทสรุปของการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทั้ง 6 คนในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าประเทศนี้ไม่มีความหวังที่จะดำรงคงอยู่ด้วยระบบรัฐสภาที่ควรเป็นอยู่ในปัจจุบันได้แล้ว เพราะระบอบทักษิณได้ใช้เงินซื้อทุกอย่างไปหมดแล้ว ทำให้ประเทศไทยในวันนี้ อยู่ด้วยระบอบคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการคอร์รัปชันสูงที่สุดในเอเชียหรือในโลกเลยก็ว่าได้ ต่างจากอดีตในรอบ 20 ปี ที่มี 3 ประเทศที่ถูกมองว่าคอร์รัปชันมากที่สุดคือ อินโดนีเชีย ฟิลิปินส์ และไทย แต่ในยุคนี้ยุคปี 2551 หลังจากระบอบทักษิณเข้ามาในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ไทยก็กลายเป็นประเทศที่คอร์รัปชั่นที่สุดในโลก

ดังนั้น การที่ประเทศของเราเป็นเช่นนี้เราอย่าหวังเลยว่าใครเขาจะเข้ามาลงทุน เพราะนักลงทุนไม่ว่าประเทศไหน ไม่มีใครชอบประเทศที่มีการคอร์รัปชั่นทั้งนั้น ส่วนคนที่มาลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในตอนนี้ ก็เป็นเพียงกลุ่มคนที่มาหาหินกับกลุ่มทุนระบอบทักษิณเท่านั้น นักลงทุนดี ๆ ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย เขาหนีออกจากประเทศไปหมดแล้ว เพราะลำพังความรู้และความสามารถไม่มีประโยชน์สำหรับประเทศนี้ เพราะทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยอามิจสินจ้างเท่านั้น

“การเมืองในประเทศไต้หวันหรือในเกาหลีใต้ รวมทั้งในฟิลิปินส์ที่แย่แล้ว ยังไม่เท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ เพราะการเมืองไทยในวันนี้ โสมมยิ่งงกว่าส้วมของกทม. ด้วยซ้ำไป ไม่ว่าจะเป็นระบอบรัฐสภาที่เจ๊งไปแล้ว ระบอบข้าราชการที่เต็มไปด้วยคอร์รัปชั่น โกงกินจนกลายเป็นเรื่องปกติของข้าราชการไทยหมดแล้ว ทุกวันนี้ เรามีแต่ ส.ส. ที่หากินกับเงินภาษีของประชาชน เป็นแบบนี้เราจะทนอยู่ได้ยังไง ทนอยู่กับข้าราชการคอร์รัปชันที่เบียดเบียนทรัพย์สินของหลวงเป็นของตัวเอง ถ้าพี่น้องทนไม่ได้ก็ต้องร่วมมือกันกำจัดออกไป เราไม่มีเวลามาทนอยู่แบบนี้อีกต่อไปแล้ว” ศ.ดร.ภูวดลกล่าว

ศ.ดร.ภูวดล กล่าวว่า ตนไม่ได้มาวิงวอนพี่น้องทุกคน แต่เชื่อในเหตุและผล สังคมแก้ปัญหาทุกอย่างได้ด้วยปัญญาของมนุษญ์ อย่าไปหวังพึ่งนักการเมืองที่เห็นแต่ประโยชน์ของตัวเอง เพราะทุกอย่างเตรียมการมาเรียบร้อยแล้วในการแบ่งผลประโยชน์ โดยเฉพาะการพิจารณางบประมาณของประเทศที่มีภาระซ่อนเร้นไว้เรียบร้อยแล้ว

“ตั้งแต่วันนี้ พี่น้องที่รักชาติ รักแผ่นดิน เทิดทูนพระมหากษัตริย์ จงจำไว้และสอนลูกหลานให้ปฏิเสธคนเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิทธิอันชอบธรรมของเราที่ เราสามารถลงโทษด้วยตัวเราเองได้ แม้ว่าตอนนี้จะมีการใช้สื่อในการบิดเบือนอย่างไร แต่คนไทยทั่วราชอาณาจักรพร้อมแล้ว ถ้ามีเสียงนกหวีดเมื่อไหร่ รับรองว่าประเทศนี้จะผลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือแน่นอน เพราะวันนี้การเมืองไทยกำลังจะถึงจุดเปลี่ยนแล้ว”