“ภูวดล” ปลุก “พลังมวลชน” ร่วมลุกฮือชี้ชะตาชาติบ้านเมือง เตือนระวังตกเป็นทาสเพราะยอมสยบต่อ “ระบอบแม้ว” ก่อนทุบสติ ขรก.-ทหาร ต้องเลือกข้างจงรักภักดีต่อสภาบัน-หมดเวลาเสแสร้งตบตาประชาชน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
วันนี้ 6 (มิ.ย.) เมื่อเวลา 23.40 น. ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงแนวทางแก้ไขวิกฤตของสังคมในปัจจุบันว่า ขณะนี้ประชาชนชาวไทยทุกคนเดินทางมาถึงทางแพร่ง โดยมีทางเลือกอยู่เพียง 2 ทาง คือ 1.เป็นประชาชนที่จงรักภักดีต่อสภาบันกษัตริย์ หรือทางเลือกที่ 2. คือ ยอมสยบต่อระบบทักษิณ ไปจนชั่วนิรันดร์
“ดังนั้น วันนี้ขออบรมข้าราชการทั้งหลาย ซึ่งเขาเหล่านั้นมี 2 ทางเลือกเช่นกัน เพราะอนาคตอันเลวร้ายในวันนี้ จะกำหนดชะตากรรมของท่านเอง ซึ่งทางเลือกที่หนึ่งก็คือ ท่านพร้อมหรือไม่ที่จะเป็นข้าราชการในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือจะเป็นข้าราชการในระบอบทักษิณ และไม่ว่าอนาคตจะไม่เป็นอย่างไร เราก็จะไม่มีทางกลับไปสู่ระบบเส็งเคร็งอีกแล้ว”
ส่วนแนวทางของประชาชนทั่วประเทศนั้น ดร.ภูวดล กล่าวว่า มี 2 ทางเลือก คือ จะเป็นพสกนิกรที่ดี หรือจะเป็นทาสที่จงรักภักดีของระบอบทักษิณต่อไป ก็เลือกเอา ที่สำคัญทหารไม่มีทางที่จะเสแส้รงอีกต่อไป เพราะต้องเลือกทางเดินว่าจะจงรักภักดีระบอบพระมหากษัตริย์ โดยกำจัดระบอบทักษิณ เพราะไม่มีเวลาที่จะเล่นเกมหลอกลวงประชาชนได้ต่อไปอีกแล้ว ฉะนั้นทุกกระทรวง ทบวง กรม และนิสิตนักศึกษา ถ้าจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จงแสดงตัวออกกมา และออกมาร่วมกันต่อสู้ได้แล้ว
“บรรพบุรุษแต่โบราณสอนเรามาให้มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ในขณะเดียวกัน ระบอบทักษิณเข้ามาเพียงแค่ 5 ปี แล้วเราไม่ปัญญาที่จะเอามาเปรียบเทียบเลยหรืออย่างไร ส่วนสุนัขรับใช้ก็เลิกขู่เข็ญประชาชนได้แล้ว ดังนั้นประเทศนี้จึงไม่มีทางเลือกอีกแล้ว เพราะถ้าต้องการเลือกรับทุนนิยมสามานย์ ก็จะเป็นทาสกันไปจนชั่วลูกชั่วหลาน ดังนั้นท่านไม่ต้องลังเลใจที่จะเข้าร่วมกันต่อต้านนักการเมืองเฮงซวย และผู้นำเฮงซวย เพราะเราต้องมีเกียรติยศ และความภูมใจในความเป็นไทย ซึ่งผมจะไม่ยอมให้คนพรรค์ถ่อยปกครองประเทศนี้อีกเป็นอันขาด และถ้าเราต่อสู้ชนะ คนในระบอบทักษิณ ก็จะถูกกวาดออกไป ซึ่งผมอยากจะรู้ว่านักการเมืองพันธุ์ชั่วจะหลงเลือกอยู่ในปี 2552 หรือไม่ จึงขอให้พ่อแม่พี่น้องอึด และสู้พวกเขาเหล่านั้นต่อไป” ดร.ภูวดล กล่าว