“ดร.ภูวดล” เปรียบรัฐบาลลูกกรอก ไม่ต่างอะไรกับพวกม็อบกุ๊ยป่วนข้างเวทีพันธมิตรฯ ไม่สนแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน แถมแต่งตั้ง รมต.ลูกเมียน้อยบริหารประเทศ ขณะเดียวกัน จวก “แม้ว” คิดขายแผ่นดิน แนะขายที่นาบ้านเกิดจะดีกว่า ด้านม็อบถ่อยทนฟังไม่ได้ ระดมขว้างสิ่งของใส่ผุ้ชุมนุมอย่างบ้าคลั่ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย
เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (25 พ.ค.) ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ว่า การชุมนุมเกิดขึ้นอีกครั้งก็เพราะความชั่วช้าของนักการเมืองบางคน ที่ไม่ลดลง และยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอยู่อย่างข้าวยากหมากแพง
โดยเฉพาะรัฐบาลโดยการนำของ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศไม่ต่างอะไรไปกว่าพวกกุ๊ยที่มาป่วนการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในวันนี้ อีกทั้งยังกล้าแต่งตั้งนายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งๆ เคยกล่าวจาบจ้วงหลบหลู่สถาบันเบื้องสูงอย่างชัดเจน มีเสนาบดีคลองหลอด เอาลูกเข้ามาเป็นใหญ่ โชว์ผลงานทั้งๆ ที่ไม่มีความเหมาะสม
“ผมไม่เข้าใจเหมือนกัน ทำไม นายสมัคร ถึงเลือกลูกมีปัญหา ลูกเมียน้อย อย่าง นายจักรภพ มาเป็นเสนาบดีบริหารประเทศ นายจักรภพ มีปัญหา ตั้งแต่เด็กๆ ทำงานอะไรก็มีแต่ปัญหา วันหนึ่งอาจจะไปตายอยู่คาแข้งขาใครก็ได้” ดร.ภูวดล กล่าว
ดร.ภูวดล ยังกล่าว ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำกลุ่มทุนจากประเทศตะวันออกกลางมาดูการทำนาข้าวที่ จ.สุพรรณบุรี โดยฝากถามถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ทำไมไม่นำนักลงทุนเหล่านั้นขึ้นไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อดูการทำนาที่นั้น หาก พ..ต.ท.ทักษิณ คิดจะขายก็ควรขายแผ่นดินที่นาที่ จ.เชียงใหม่ และลองดูสิว่า คนเชียงใหม่คิดกันอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ คิดกันอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังจะสร้างความแตกแยก เราจะต้องร่วมแรงแรงร่วมใจกันสู้เพื่อความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ ดร.ภูวดล กล่าวปราศรัยอยู่นั้น ม็อบถ่อยที่ออกมาต่อต้านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ตะโกนด่าทอ และขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหิน เข้าใส่ผู้ชุมนุมอย่างบ้าคลั่ง โดยที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้ประชาชนที่นั่งฟังการปราศรัยอยู่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ลุกขึ้นตอบโต้ ตะโกนด่า พร้อมทั้งหยิบขวดน้ำข้วางกลับออกไป
