xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรฯ รอประเมินศึกซักฟอก ก่อนชี้วันเป่านกหวีดครั้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ
“พันธมิตรฯ” แจกเอกสารแจงเจตนารมณ์การเคลื่อนไหวมุ่งสร้างการเมืองใหม่ ขจัดวงจรอุบาทว์ประชาธิปไตยแบบตัวแทน เผยเตรียมประเมินผลการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลศุกร์นี้ ประกอบกับคำสั่งศาลปกครองกรณีเขาพระวิหาร ก่อนกำหนดวันดีเดย์เป่านกหวีดครั้งสุดท้าย

วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 18.15 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ตนได้จัดทำเอกสารเรื่องการเมืองใหม่ภายใต้การต่อสู้ของพันธมิตรฯ โดยจะแจกให้แกสื่อมวลชนในวันนี้ ซึ่งมีการตีความการเคลื่อนไหวของเราไปต่างๆ นานา มีทั้งที่ตรงกับเจตนารมณ์ของเราบางส่วนและไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของเรา อาทิ มีการระบุว่าเป็นการสร้างเงื่อนไขที่ทำให้เกิดรัฐประหาร ดังนั้นเราจึงจัดทำเอกสารเพื่อแจกแจงถึงที่มาที่ไปเพราะระบบรัฐสภาและระบบเลือกตั้งมีขีดจำกัด ดังนั้น ระบบการเมืองใหม่จึงมีความจำเป็นโดยมีหลายรูปแบบและมีหลายวิธีการ ซึ่งในเบื้องต้นเราจะพูดถึงเพียงหลักการและความจำเป็นเร่งด่วนว่าเวลานี้ถึงเวลาแล้วหรือยัง กลุ่มพันธมิตรเป็นเพียงผู้จุดประกายการเมืองใหม่

สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น หากดูเนื้อหาบนเวทีของกลุ่มพันธมิตรในบางประเด็น เช่น กรณีเขาพระวิหาร การปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯ ดูจะมีประเด็นมากกว่าการอภิปรายในสภาด้วยซ้ำ หรือแม้แต่กรณีสินบนตุลาการก็ตาม ส่วนหน้าที่ที่จะทำเรื่องการเมืองใหม่ให้ชัดเจนนั้น คงต้องให้นักวิชาการและมหาวิทยาลัยรับไปดำเนินการต่อ เพื่อฝ่าข้ามวงจรอุบาทว์ทางการเมืองไปให้ได้

สำหรับการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ในวันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่แกนนำทั้ง 5 คนจะมีการหารือกัน ซึ่งหลายคนก็เห็นว่าอาจจะเป็นต้องเป่านกหวีดอีกครั้งหรือดีเดย์นัดชุมนุมใหญ่อีกครั้ง ส่วนจะเป็นเมื่อไหร่อย่างไรนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในคืนนี้

สำหรับการเดินทางไปศาลปกครองพรุ่งนี้นั้นจะมีการนัดไต่สวนฉุกเฉินกรณีเขาพระวิหาร ซึ่งเราได้มีการซักซ้อมและศึกษาข้อมูลกันอย่างดีแล้ว ซึ่งเราพร้อมให้การต่อศาลอย่างเต็มที่

ส่วนการคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งหนึ่งจะมีรูปแบบเป็นอย่างไร นายสุริยะใส กล่าวว่า แกนนำหลายคน บอกว่าจำเป็นต้องเป่านกหวีดครั้งใหม่ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ และระดับความกดดันจะต้องสูงขึ้นไปอีก แต่รูปแบบจะเป็นอย่างไรนั้น ขอให้รอฟังจากแกนนำในวันนี้

เมื่อถามว่า เท่ากับเป็นการแตกหักใช่หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า ใช้คำว่า “จุดชี้ขาด” จะดีกว่า อย่างไรก็ตามคงต้องรอดูผลไต่สวนฉุกเฉินของศาลปกครองในวันพรุ่งนี้ รวมทั้งการลงคะแนนไว้วางใจหรือไม่วางใจนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 27 มิ.ย.ด้วย เพราะโดยพฤตินัยแล้ว กรณีเงินสินบน 2 ล้านบาทนั้น ก็เป็นเพียงทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งทั้ง 3 คนถูกจำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญา หรือกรณีการปลดคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ของนายไชยา สะสมทรัพย์ ซึ่งศาลปกครองมีคำพิพากษาให้ทำหน้าที่ต่อไป ทั้งหมดนี้หากปล่อยให้ดำเนินการต่อไป จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหายมากกว่านี้ ดังนั้นกลุ่มพันธมิตร จึงต้องเดินหน้าเพิ่มแรงกดดัน

เมื่อถามว่า มติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้ (27 มิ.ย.) จะเป็นตัวกำหนดท่าทีของพันธมิตรด้วยหรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า หากไม่พลิกโผ พรรคร่วมรัฐบาลคงจะโหวตไว้วางใจ แต่อาจจะสวนกระแสความรู้สึกของประชาชน ซึ่งหากมีการโหวตไว้วางใจแต่อธิบายประชาชนไม่ได้ ระบบรัฐสภาก็จะพัง ความไม่เชื่อมั่นความไม่ไว้วางใจก็จะตามมา สุดท้ายประชาชนก็จะลุกฮือมากขึ้น อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผลไต่สวนของศาลในวันพฤหัสบดีนั้น จะถูกนำไปเป็นเหตุผล ในการตัดสินใจของพรรคร่วมรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเอกสารเรื่องการเมืองใหม่ภายใต้การต่อสู้ของพันธมิตรฯนั้น โดยเนื้อหาสรุปว่า เป็นการชูธงร่วมสร้างการเมืองใหม่ของทั้ง 5 แกนนำ ต่อมวลชนและต่อสาธารณชน ถือเป็นการยกระดับการต่อสู้ของแกนนำและมวลชน ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพูดและเสนอก่อนที่ทุกอย่างจะสาย การเมืองใหม่ในความหมายของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการเมืองที่เอาประชาชนเป็นศูนย์กลางลดอำนาจหน้าที่ของตัวแทนหรือผู้แทนลง เพิ่มบทบาทและอำนาจให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น ส่วนรายละเอียดหรือโมเดลของการเมืองใหม่จึงจำเป็นที่ผู้รู้ นักวิชาการ สถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย และภาคส่วนต่างๆ จะนำไปขยายผล สงครามครั้งสุดท้ายในการโค่นล้มระบอบทักษิณ จึงเป็นเพียงระยะผ่านสู่สงครามอันศักดิ์สิทธิ์คือการร่วมกันสร้างการเมืองใหม่ให้ปรากฏจริงๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น