ฝ่ายค้านดักคอ “ปู่ชัย” หวั่นเอ็นบีที.ตัดช่วงอภิปรายเข้ารายการข่าว หวั่นซ้ำรอยอภิปรายของ ส.ว. ปธ.สภาลงเหว แขวะอยากให้ถ่ายทอดต่อเนื่องต้องซื้อทีวีของสภา ส.ส.สาก ชิงทำคะแนนแต่ไก่โห่ ต้องเอ่ยยศ “พันตำรวจโท” ของนายใหญ่ทุกครั้ง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง บรรยากาศการประชุมสภาก่อนเริ่มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
วันนี้ (24 มิ.ย.) การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 13.30 น.โดยมี นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ซึ่งวาระสำคัญคือญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี 7 คน ของพรรคฝ่ายค้าน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีส.ส.ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านทยอยเดินทางมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียง โดยในส่วนของฝ่ายค้านได้เตรียมเอกสารสำหรับการอภิปรายมาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะประเด็นปราสาทเขาพระวิหารที่จะเป็นไฮไลต์สำคัญในการอภิปรายวันนี้
ทันที่การประชุมเริ่มขึ้นบรรยากาศก็เริ่มดุเดือดทันที เมื่อ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ขอหารือกับประธานสภา ถึงการถ่ายทอดสดการประชุมของสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ที่เกรงว่าอาจจะเหมือนกรณีการอภิปรายของ ส.ว.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีปัญหาการถ่ายทอดที่มีการตัดไปเสนอข่าวเป็นระยะ ทำให้ประชาชนติดตามดูไม่ต่อเนื่องจึงไม่อยากให้การอภิปรายครั้งนี้เกิดปัญหาเช่นกัน เพราะทราบข่าวว่าจะมีการตัดเข้าข่าวรวม 4 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าผิดปกติจึงอยากให้เกิดความชัดเจนว่าจะมีการถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องยกเว้นกรณีถ่ายทอดข่าวพระราชสำนัก
อย่างไรก็ตาม ส.ส.พรรคพลังประชาชนได้ลุกขึ้นประท้วงการอภิปรายของนายองอาจ ว่าไม่ควรเอาเรื่องนี้มาเล่นเกม ทำให้กรมประชาสัมพันธ์ต้องเสื่อมเสีย ขณะที่นายชัยได้พยายามไกลเกลี่ยว่าเรื่องนี้รัฐมนตรีรับที่จะไปดูแลแล้ว แต่นายองอาจถามจี้ว่า อยากทราบว่ารัฐมนตรีคนไหนดูแล เพราะขณะนี้ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนรับผิดชอบดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ทำให้นายชัยยอมรับว่าตนก็ไม่รู้ว่าใครรับผิดชอบ รู้อย่างเดียวว่ารัฐบาลชุดนี้ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้รับผิดชอบ และคิดว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อย ขณะที่นายองอาจยังคงพยายามจี้ถามว่า ประธานสภาจะต้องชัดเจนในเรื่องนี้ไม่ใช่บอกเพียงว่า “น่าจะเรียบร้อย” ต้องระบุว่าเรียบร้อยอย่างไร ทำให้นายชัยกล่าวสวนว่า ถ้าอยากให้ชัดเจนการอภิปรายงบประมาณก็ควรจะจัดงบประมาณมาก้อนหนึ่งซื้อสถานีโทรทัศน์สำหรับสภาจะได้ถ่ายทอดได้เต็มที่
ด้าน ร.ต.อ.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนอยากให้ใครที่จะอภิปรายพาดพิงถึงอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะต้องเอ่ยยศให้ครบถ้วน ไม่ใช่เอ่ยแค่ “ทักษิณ” อย่างเดียวๆ เพราะท่านเป็นทหาร และได้ยศ “พันตำรวจโท” ได้มาจากการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง ใครไม่มีสิทธิ์จะไปถอดยศท่านได้ ถ้าจะปลดต้องให้ในหลวงทรงโปรดเกล้าปลดจากตำแหน่งเท่านั้น ปรากฏว่าได้รับเสียงโห่จากสื่อมวลชนจำนวนมากที่ติดตามเสนอข่าวการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ประชุมสภาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการหารือและประท้วง จากนั้นได้เริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระ โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านได้อ่านญัตติดังกล่าว