“ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” ชี้ การชุมนุมพันธมิตรฯ วันนี้ทำให้สังคมเรียนรู้ประชาธิปไตยมากขึ้น วอนรัฐบาลอย่าปล่อยข่าวมือที่สาม ถ้ามีจริงต้องจัดการไม่ใช่ป่าวประกาศให้ประชาชนกลัว ด้าน“อชิรวิทย์” เชื่อ “หมัก” ประสบการณ์เยอะ แก้ปัญหาการชุมนุมได้ไม่ยาก แนะหาคนกลางช่วยไกล่เกลี่ย
วันนี้(20 มิ.ย.) รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ในรายการถามจริง ตอบตรง ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ถึงกรณีการย้ายที่ชุมนุมมาอยู่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันนี้ว่า หากมองในระยะยาวแล้ว สิ่งที่พันธมิตรฯ ทำในวันนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะเกิดกระบวนการเรียนรู้ในระบอบประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะเราจะเห็นได้ว่าประเทศที่เป็นระบอบประชาธิปไตยส่วนใหญ่ก็มีการประท้วงกันทั้งนั้น เช่นในญี่ปุ่น มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีบ่อยมาก แต่เศรษฐกิจของประเทศเขาก็ยังดีอยู่
ดร.ปณิธาน กล่าวด้วยว่า ทางออกของตอนนี้ ตนมองว่าเมื่อพันธมิตรฯ มีการปักหลักฐานที่ตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ควรเร่งที่จะเจรจากับรัฐบาลเพื่อหาข้อยุติ ซึ่งวิธีที่ตนคิดว่าน่าจะดีที่สุดก็คือ ตั้งคณะกรรมการหรือคนกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ เป็นตัวกลางเพื่อรวบรวมความคิดของทั้งสองฝ่ายแล้วหาทางออกให้ แต่ที่สำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือ อย่าให้เกิดการปล่อยข่าวลือออกมา ทั้งข่าวมือที่ 3 ข่าวการตระเตรียมอาวุธ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะหากเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นจริง เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ที่จะต้องจัดการเลย ไม่ต้องมาบอกให้ประชาชนแตกตื่นก็ได้
ด้าน พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การที่พันธมิตรฯ กล่าวว่าเหตุการณ์ในวันนี้ถือเป็นชัยชนะนั้น ตนไม่เห็นด้วย เพราะสิ่งที่ตนเห็นวันนี้ก็คือไม่มีใครชนะ มีแต่คนแพ้ ซึ่งคนแพ้ก็คือคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นในขณะนี้เมื่อพันธมิตรฯ มีการตั้งป้อมตั้งเวทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะต้องรีบดำเนินการเจรจาภายใน 7 วัน และการเจรจานั้นตนก็คิดว่าควรจะหาคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับนับถือ เช่น นายโคทม อารียา อดีต ส.ส.ร. นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส หรือ นายอานันท์ ปัญยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเชื่อว่าการเจรจาน่าจะสามารถทำได้เพราะถึงอย่างไรก็เป็นคนไทยด้วยกัน ตนเชื่อว่าคนไทยอย่างไรก็พูดคุยกันได้
ต่อคำถามว่าประเมินว่ารัฐบาลจะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวว่า นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีประสบการณ์ทางการเมืองค่อนข้างสูง น่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้ไม่ยาก ส่วนจะแก้ปัญหาด้วยวิธีการใดนั้นตนคิดว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าจะดำเนินต่อไปอย่างไร ซึ่งคาดว่าในสัปดาห์นี้ก็น่าจะรู้ผล แต่ถ้าให้ตนคาดก็คิดว่าน่าจะเป็นการเจรจากันเพราะจะเป็นวิธีที่คลี่คลายปัญหาได้ดีที่สุด
