ผู้จัดการออนไลน์ – สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์มีมติเอกฉันท์ประกาศจุดยืนร่วมสู้พันธมิตรฯ ต้านรัฐบาลสมัครที่หมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ ระบุชัดพร้อมดำเนินยุทธศาสตร์อารยะขัดขืนเช่น เปิดให้ปชช.โดยสารรถเมล์-รถไฟฟรี ตัดน้ำ-ไฟหน่วยราชการ หรือ ถ้ารัฐบาลใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมก็พร้อมตอบโต้ด้วยการนัดหยุดงาน
ในการประชุมสุดยอดผู้นำแรงงานของสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ในวันนี้ (17 มิ.ย.) ที่เริ่มการประชุมตั้งแต่ช่วงเช้า ในช่วงบ่ายได้มีการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 เรื่อง แสดงจุดยืนและแนวทางปฏิบัติการเข้าร่วมต่อสู้ร่วมกันพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อันมีเนื้อหาว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจนกว่าจะได้รับชัยชนะ โดยให้เหตุผลว่ารัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวชนั้นหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศแล้ว
ทั้งนี้แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่าหากรัฐบาลใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม สรส. พร้อมจะปฏิบัติการตามยุทธศาสตร์ “อารยะขัดขืน” ตามมาตรการที่เหมาะสม เช่น อาจเปิดบริการรถไฟ ขสมก. หรือ บขส. ฟรีแก่ประชาชนโดยทั่วไป งดจ่ายไฟฟ้า-ประปาให้หน่วยงานของภาครัฐ และอาจถึงขั้นนัดหยุดงานโดยทันที
โดยรายละเอียดของแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวมีดังนี้
แถลงการณ์สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ฉบับที่ 2 เรื่อง แสดงจุดยืนและแนวทางปฏิบัติการเข้าร่วมต่อสู้ร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามที่สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ได้ประกาศจุดยืนในการเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และได้ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นมาที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลยุติการล้มล้างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เพราะการแก้ไขด้วยความรีบเร่งตามแนวทางที่รัฐบาล ส.ส. และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นแก้ไขโดยมีเจตนาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มบุคคลที่อยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ ที่ทุจริตการเลือกตั้งและมีการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะนโยบายการขายสมบัติชาติ แปรรูปรัฐวิสาหกิจ จากการตรวจสอบของ คตส. รวมทั้งสิ้นประมาณ 180,000 ล้านบาท พบว่าเป็นการทุจริตคอร์รัปชั่นเกี่ยวกับนโยบายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจกว่า 110,000 ล้านบาท จากผลงานในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลล้มเหลวโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน ผู้ใช้แรงงาน รัฐบาลปล่อยให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลง ราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ปรับราคาสูงขึ้นมาอย่างมาก ทำให้รายได้ของผู้ใช้แรงงานไม่พอกับรายจ่ายได้รับความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า รวมทั้งการกลั่นแกล้งโยกย้ายข้าราชการประจำ แทรกแซงการทำงานขององค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรม แทรกแซงสื่อ เพื่อช่วยเหลือบุคคลในระบอบทักษิณที่ทุจริต ฉ้อฉล และประกาศปราบปรามประชาชนผู้ชุมนุมร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปรากฏชัดว่ารัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวชคือรัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบทักษิณ จึงหมดความชอบธรรมที่จะบริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป ในการประชุมสุดยอดผู้นำแรงงานของ สรส.ในวันที่ 17 มิถุนายน 2551 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะยืนยันการชุมนุมร่วมกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและพร้อมที่จะปฏิบัติการร่วมตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนัดหมาย ตามยุทธศาสตร์ “อารยะขัดขืน” ตามมาตรการที่เหมาะสมอย่างเฉียบขาดต่อไป เช่น การประชุมใหญ่วิสามัญ การให้บริการในการเดินทางฟรีแก่ประชาชน ในการเดินทางโดยรถไฟ ขสมก. บขส. หรือจะงดจ่ายไฟฟ้า-ประปาให้แก่หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น และจะนัดหยุดงานพร้อมกันโดยทันที หากรัฐบาลใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมเพราะการชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ตามรัฐธรรมนูญ และขอประกาศให้สมาชิกและครอบครัวเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ และกิจกรรมทุกกิจกรรมในการต่อสู้กับรัฐบาลจนกว่าจะได้รับชัยชนะ เพราะเห็นว่ารัฐบาลนี้หมดความชอบธรรม เพราะได้อำนาจรัฐมาโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่งรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 สรส.ในฐานะประชาชนจึงมีสิทธิต่อต้านได้ตามมาตรา 69 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติ และรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงแถลงมาเพื่อให้สมาชิกทราบ และรอฟังสัญญาณเพื่อปฏิบัติการจาก สรส.ต่อไป สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) |