นายกฯ กลัวถูกซักฟอกทั้งนอกและในสภา เก็บเข้าลิ้นชักญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อ้างเวลาน้อย แถมเหน็บฝ่ายค้านกระเหี้ยนกระหือรือ โต้ข่าวกินค่าคอมมิชชันรถเมล์ อ้างมีแก็งขโมยน้ำมัน แหกปากร้อง ปชช.แจ้ง ตร.จับกลุ่มพันธมิตรทำผิด กม.
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สนทนาประสาสมัคร"
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ต่อกรณีการเปิดประชุมสภาวิสามัญว่า เป็นการเปิดเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและมีความจำเป็นเพื่อพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่คั่งค้าง แต่ที่ไม่ปกติคือทั้ง ส.ส.และส.ว.กระเหี้ยนกระหือรือสอดไส้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเข้ามาด้วย ทั้งที่บริหารงานได้เพียง 4 เดือนเศษ มีการออกข่าวข่าวว่ารัฐบาลกลัวถูกซักฟอก เพราะฝ่ายค้านฝีปากกล้า บอกได้เลยว่า ไม่มีอะไรต้องกลัว แต่ไม่มีความจำเป็นที่เปิดโอกาสให้เปิดอภิปรายในช่วงนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประโคมข่าวว่า รัฐบาลจะขูดเลือดประชาชน ด้วยการสั่งโละรถเมล์ร้อน 6,000 คัน โดยที่รัฐบาลจะได้ค่าคอมมิชชันคันละ 1 ล้าน ขออธิบายว่าขณะนี้รัฐบาลต้องแบกรับภาระหนี้ ขสมก.ปี 6,000 กว่าล้านบาท ขณะที่ราคาน้ำมันก็สูงขึ้น ทราบว่ามีลักลอบถ่ายน้ำมันไปขาย จึงจำเป็นต้องหันมาติดตั้งแก๊ส เพื่อแก้ปัญหาตรงนี้ เท่านี้พรรคประชาธิปัตย์ออกมาขยายความ อ้างว่ามีหลักฐานทุจริตใหญ่โตก็ว่ามา
“วันก่อนผมหยุดจ้องหน้าสื่อก็ตกเป็นข่าวใหญ่โต สื่อมวลชนรุมโขกรุมสับ เรื่องที่มาเพียงแค่นัดกินข้าวกับ 6 พรรคร่วมรัฐบาล แต่ทำไมสื่อมวลชนยกโขยงกันไปทำข่าวกันมากมายยังมีคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์บางฉบับ เขียนเหน็บแนม นำนายสมัครไปเปรียบเทียบนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี บอกได้เลยว่าคุณสมบัติไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ผมก็ลูกพระยา มีลูกสาวก็ 2 คน แต่กลับเหนือกว่าเพราะเป็นลูกแฝด” นายสมัครกล่าว
ในช่วงท้ายนายสมัคร ได้หยิบคำถามที่อ้างว่ามาจากทางบ้านมาถาม ถึงการชุมนุมที่ยืดเยื้อของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในทำนองว่าทำไมสร้างความเดือดร้อนและกลับไม่มีการดำเนินคดี โดยนายสมัครได้เรียกร้องให้ประชาชนเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อตำรวจเพื่อยื่นฟ้องเอาผิดต่อพันธมิตรฯ
คำต่อคำ “หมัก” ขาสั่นแจงไม่ให้อภิปราย-ไขสือใต้โต๊ะรถเมล์ 6 พันล้าน
คำถาม-คำตอบในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ที่เกี่ยวกับเอเอสทีวีและพันธมิตรฯ
-อยากให้ดำเนินการกับเอเอสทีวี ใช้ถ้อยคำหยาบคาย โจมตีนายกฯ ทุกวัน ขอให้ดำเนินการโดยเร็ว ก็ไม่สบายใจ
ก็จะเรียนให้ทราบนะครับ ท่านรัฐมนตรีฯ มหาดไทย ท่านดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่ แล้วท่านแถลงแล้วนะครับ ไม่ได้สั่งปิด แต่ว่าจะดำเนินคดีเพราะไอ้ความหยาบคาย หมิ่นประมาทคนอื่นเขา เคเบิลทีวีทั้งหลายถ้าใครดูอยู่ ก็ฟังไว้ก็แล้วกันครับว่า คุณถ่ายทอดอันนั้นไป คุณก็ทำผิดด้วย เขาก็จะฟ้องคุณ เท่านั้นครับ เขาไม่ได้สั่งปิดคุณนะ คุณไม่ถอด คุณก็เอาไว้อย่างนั้นก่อนแล้วกัน ให้ทำลายลักษณ์อักษร เขาก็คงทำไปให้ล่ะครับ เขาก็คงเตือนไปให้ เพราะว่าไปอยู่บนสายไฟฟ้าเขาด้วย ไปทำความผิด เพราะงั้นถ้าคุณถ่ายทอดคุณจะผิดด้วย เขาเตือนเท่านั้นล่ะครับ แล้วเขาจะดำเนินคดี ทั้งเจ้าตัวต้นฉบับ ก็ดำเนินคดี ถ้าใครทำผิดแล้วดำเนินคดีจะก่อให้เกิดอะไรขึ้น ก็ไม่มีปัญหาล่ะครับ คนที่ดำเนินการก็ต้องรับผิดชอบ ก็ดำเนินการแล้วนะครับ
-อยากให้รัฐบาลออกกฎหมายตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินพวกแกนนำที่ประท้วง
อ๋อ... ครับๆๆ แบบเดียวกับสอบรัฐมนตรีเหรอครับ เขาไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้นี่ครับ เขาก็ไม่ได้มาจากเลือกตั้งตรงไหน พวกผมนี่ล่ะครับมาจากเลือกตั้ง ถูกขึ้นทะเบียนเรียบร้อยหมดเลย ตรวจสอบหมดเลยครับ ไอ้โน่นผิด ไอ้นั่นซุก ไอ้นี่ซ่อน โดนหมดล่ะครับ นี่กำลังโดนอีก 2 รัฐมนตรีนะครับ ก็ขอเรียนให้ทราบไว้เท่านั้นเอง
มีคนถามคำถามครับ บอกว่า แล้วยังไง ยังไม่โปรดเกล้าฯ รัฐมนตรีแต่งตั้งแล้ว ก็ทางข้างในเขาบอกผมมาว่า คิดว่าผมจะปรับตรงนี้ ก็เขาจะสู้ถึงศาลนี่ครับ ผมก็เลยยังล่ะครับ ต้องกราบเรียนไว้ข้างใน ก็ต้องเวลาโปรดเฝ้า รัฐมนตรีจะได้ทำงาน ทีแรกก็นึกจะทำเสียให้เสร็จหมด ก็คดีความจะต้องดำเนินการต่อไปนะครับ
ไอ้นี่ก็เรียนตอบคำถามว่าไปตรวจสอบเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่ขึ้นทะเบียนครับ ชื่อเสียงใครอยู่ยังไงก็ไม่ทราบ ทั้ง 5 ท่านเลือกตั้งกันเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ผมเนี่ยเลือกตั้ง 23 ธันวาฯ ปีกลายนี้ ต้องไปขึ้นทะเบียน ต้องไปลงทะเบียน กกต.ต้องไปให้ใบมา ถือใบไปสภา สภารับเสร็จแล้ว หูย กรอกอะไรอีกมากมายครับ เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ต้องไปเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ เสร็จแล้วก็เข้าสภา ยังทำอะไรไม่ได้อีก ต้องยื่นคำแถลงนโยบาย เสร็จ นั่นล่ะครับ ถึงจะเซ็นหนังสือทำอะไรต่ออะไรได้ พิธีกรรมเยอะครับพวกผมน่ะ แต่ว่าพวกที่เขามากันตามใจชอบอย่างนั้นตรวจสอบไม่ได้หรอกครับ แต่ก็คงพอเห็นนะ ก็ตรวจทางโทรทัศน์ได้ครับ ถ้าไปทำความผิดอะไรนะครับ
-โห ทำไมสื่อนิยมข่าวม็อบมาก
จะนำเสนอข่าวเป็นประโยชน์ ไม่ได้หรอกครับ ไม่ได้เลย เขาบอกข่าวต้องเป็นข่าวครับ นะ ข่าวต้องเป็นข่าว ไม่งั้นคงไม่กล้าว่าสื่อหรอกครับ เดี๋ยวพันธมิตรฯ เล่นงานผมอีก เขาชอบเสนอข่าวก็เรื่องของเขานะครับ
-จะต้องรวมประชาชนกี่คนที่จะยื่นศาลต่อพวกชุมนุม เพราะเดินทางติดขัดลำบาก ทั้งเด็ก ผู้ปกครอง
ก็ลองฟ้องดูสิครับ จริงๆ แจ้งความตำรวจ ตำรวจฟ้องให้ครับ แจ้งความดีกว่าครับ อย่าไปทำเองเลยครับ นะ แจ้งความแล้วตำรวจดำเนินการให้ ก็ยินดีครับ ถ้าหากมันติดขัดกีดขวางนะ
-เมื่อไหร่จะเลิกประท้วงกันเสียที
ต้องไปถามที่สะพานมัฆวานฯ นะครับ ถามผมไม่ได้หรอกครับ ผมเนี่ยเพียงแต่บอกว่าคุณทำผิดกฎหมาย คุณอยู่ตรงนี้ไม่ได้ เท่านั้นล่ะครับ เท่านั้น ไปพูดเท่านั้นล่ะครับ โอ้โห ทำไมผมถึงต้องไปพูดเมื่อวันเสาร์ก่อน ก็ข่าวมาบอกว่าจะล้อมทำเนียบฯ จะยึดทำเนียบฯ ผมก็ต้องไปพูดว่าอย่าทำอย่างนั้น พูดเท่านั้น โอ๊ย เอาเข้าเลย เป็นทำนองว่านายสมัคร ประกาศสงคราม จะเอาให้ตาย จะหักล้าง ตำรวจบอกไม่เคยพูดสักคำเดียวว่าจะเป็น 5 โมงเย็น พูดเอง เออเอง ประกาศบอกว่า 5 ตำรวจขีดเส้นตาย โอ้โห กระโดดกันออกมาเป็นฝอยๆๆๆ นักวิชากง นักวิชาเกิน ล่อกันหมดเลย แพ้แล้ว รัฐบาลจะสลายม็อบ รัฐบาลแพ้แล้ว แล้วจะทำไงครับ ผมก็ต้องถอยออกมา มอบให้ตำรวจดำเนินการ พอดีเขาได้รับโปรดเกล้าฯ ทำหน้าที่เต็มที่ ว่าคุณรับไปดูแลแล้วกัน คุณช่วยดูไป หนักหนายังไงก็บอกมาอย่างนั้น ก็ต้องอย่างนี้ล่ะครับ เขาเรียกภาษาสำนวนไทยไว้วันละคำ เขาเรียกว่า ก็คาราคาซังกันอยู่อย่างนี้ล่ะครับ คาราคาซังกันอยู่อย่างนี้ บ้านเมืองจะไปยังไง ที่เสียหายแน่นอนคือเรื่องท่องเที่ยว เสียหายแน่นอน ใครเขาจะอยากมา มีเรื่องไอ้พรรค์นี้อยู่กลางเมือง อะไรต่างๆ ธุรกิจการค้าเสียหายครับ ความไว้วางใจทำอะไรต่างๆ ก็พูดกันแล้วครับ จะปฏิวัติกันอีกแล้ว เรียกร้องกันอย่างโน้นอย่างนี้ จะเอากันอีกแล้ว แล้วจริงไหมครับ ผมเป็นหัวหน้ารัฐบาลผมต้องบอกเป็นไปไม่ได้ครับ เป็นไปไม่ได้เลย บ้านเมืองควรจะสงบเรียบร้อย แต่ก็ก่อการกันอย่างนี้ บรรดาสื่อสารทั้งหลายเขาคงรายงานทั้งสองซีกล่ะครับ แต่ทางม็อบตื่นเต้นเขาคงรายงานที่ตื่นเต้นมากกว่า ทางผมก็จืดชืดไม่ค่อยมีอะไรนะ