“ประสพสุข” เชื่อรัฐบาลไม่เบี้ยวแจงญัตติ 61 ส.ว.ล่วงหน้า สอนเชิงลูกกรอกใช้โอกาสชี้แจงแนวทางแก้ปัญหารุมเร้า พร้อมปฏิเสธความขัดแย้งในสภาสูงแค่ความเห็นต่าง
วันนี้ (13 มิ.ย.) นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลระบุว่าไม่สามารถเปิดอภิปรายรัฐบาลทั้ง 2 สภาเนื่องจากเวลาไม่เพียงพอว่า เป็นเรื่องของสภาต้องไปถามนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ใช่เรื่องของวุฒิสภา ส่วนการยื่นญัตติของ 61 ส.ว.เพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลนั้นทางวุฒิสภาได้กำหนดไว้แล้วว่าจะอภิปรายในวันที่ 23 มิ.ย. ซึ่งได้ประสานไปยังรัฐบาลแล้วกำลังรอคำตอบจากรัฐบาลว่าพร้อมหรือไม่อย่างไร ขณะนี้ยังไม่ตอบกลับมา ซึ่งขณะนี้ยังมีเวลาอยู่ เพราะเวลาจะตอบรัฐบาลก็ต้องเตรียมข้อมูลก่อนไม่ใช่ว่าจะตอบได้ทันที คาดว่าภายสัปดาห์หน้าคงจะให้คำตอบได้
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่เรื่องกรอบเวลาที่ใกล้จะปิดสภาอาจจะพิจารณาญัตติไม่ทัน นายประสพสุข กล่าวว่า ไม่น่าเป็นห่วงเพราะคิดว่ารัฐบาลต้องมาตอบอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลเตรียมเสนอปิดสภาในวันที่ 27 มิ.ย.เกรงว่าจะไม่ทันพิจารณา ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า วันที่กำหนดไว้ คือวันที่ 23 มิ.ย.ยังไงก็ก่อนวันที่ 27 มิ.ย.อยู่แล้ว เชื่อว่ารัฐบาลต้องมาตอบเพราะอยากจะชี้แจงถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนว่าจะทำอย่างไร
เมื่อถามว่า กรณีที่มีทนายความของนักการเมืองนำเงิน 2 ล้านยัดกล่องขนมให้เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาในฐานะที่เคยเป็นผู้พิพากษามาก่อนเห็นอย่างไร นายประสพสุข กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนนำไปวางไว้ว่ามีวัตถุประสงค์อย่างไร ตอนนี้ยังเร็วไปที่จะให้ความเห็น แต่ถ้าเป็นการมอบเงินให้ศาลจริงก็จะทำให้ศาลเสียหาย และถือเป็นการละเมิดอำนาจศาล
นายประสพสุขยังได้ปฏิเสธถึงความขัดแย้งในวุฒฒิสภาว่า แต่ละคนสามารถมีความเห็นแตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช่เรื่องขัดแย้ง ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามว่ามีภาพความขัดแย้งของ ส.ว.สรรหาและ ส.ว.เลือกตั้ง นายประสพสุข กล่าวว่า เท่าที่ตนดูไม่มีภาพนี้แน่นอน เมื่อถามย้ำว่าเหตุใดในการยื่นญัตติในการขอเปิดอภิปรายทั่วไปที่ผ่านมาไม่มีการประสานไปยัง ส.ว.กลุ่มอีสานใต้ นายประสพสุข กล่าวว่า กลุ่ม ส.ว.ดังกล่าวคงเร่งรีบดำเนินการ ซึ่งคงเห็นว่า ส.ว.ท่านใดจะลงชื่อหรือไม่ลงชื่อก็ได้
เมื่อถามว่ามีพรรคพลังประชาชนระบุว่า ส.ว.สรรหาให้การสนับสนุน คมช.และเผด็จการ นายประสพสุข กล่าวว่า คงไม่ใช่เพราะเราเป็นตัวแทนของปวงชนชาวไทย เราสนับสนุนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้
