“ประพันธ์-พิเชฐ” แฉ “ระบอบทักษิณ” แทรกแซง-แทรกซื้อกระบวนการยุติธรรมมาตลอด เชื่อสินบน 2 ล้าน เกี่ยวโยงคดีที่ดินรัชดาฯ หรือใบแดง “ยุทธ” แน่นอน จี้ศาล-สภาทนายความ ลากคอคนผิดมาลงโทษเด็ดขาด อัด “พงศ์เทพ” เคยเป็นถึงอดีตผู้พิพากษา แต่กลับทำตัวต่ำรับใช้ระบอบทักษิณไม่เลิก
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สภาท่าพระอาทิตย์"
วันนี้ (12 มิ.ย.) นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตรองประธานวุฒิสภา กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ถึงกรณีที่มีทนายของนักเมืองเอาเงิน 2 ล้านบาท ไปติดสินบนศาลว่า ขณะนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองกำลังพิจารณาคดีสำคัญอยู่ 3 คดี คือ คดีคลองด่าน คดีที่ดินรัชดาภิเษกของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร และคดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช และยังมีอีกหลายคดีที่ คตส.และป.ป.ช.ส่งฟ้อง ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นขบวนการวิ่งเต้นแทรกแซง และแทรกซื้อกระบวนการศาลยุติธรรมที่มีมาโดยตลอดของระบอบทักษิณ คดีซุกหุ้นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เราได้รู้ได้เห็นว่าระบอบทักษิณได้ไปเสนอสินบนให้ใครบ้าง
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนคิดว่าแนวโน้มน่าจะคดีที่ดินรัชดาฯ หรือคดีใบแดงของ นายยงยุทธ เพราะเจ้าหน้าที่ศาลจำหน้าทนายได้ ซึ่งความจริงเจ้าหน้าที่ศาลไม่ควรนำเงินไปคืนเอาไว้เป็นของกลาง เป็นหลักฐานมัดตัว เป็นเงินใช้กระทำผิด เจตนาจะให้สินบน แต่ถ้าเอาไปคืนแล้วก็ควรแจ้งความดำเนินคดี เรื่องนี้ตนเชื่อว่าศาลสอบได้ไม่ยาก ซึ่งประธานศาลฎีกาก็ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนสอบเรื่องนี้แล้ว
“เรื่องนี้ถ้าเงียบเชื่อว่าต่อมาจะมีขบวนการทำลายความน่าเชื่อถือของศาล โดยการปล่อยข่าวศาลรับเงินกลายเป็นตุลาการภิวัฒน์ กลายเป็นเรื่องใหญ่ของบ้านเมือง ผมจึงอยากให้ศาลดำเนินการต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นแบบนี้บ้านเมืองก็หมดสิ้น ผมเป็นทนายความ ผมรู้ดีมีทนายจำนวนมากมีพฤติกรรมแบบนี้ สภาทนายความไม่ควรจะออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้ และขอให้สภาทนายความดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด”
อดีต สนช.ยังแสดงความเห็นที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีใครโง่ทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้เป็นการดิสเครดิตอดีตนายกฯ ทักษิณว่า น่าเสียใจที่นายพงศ์เทพเคยมีตำแหน่งใหญ่โตเป็นถึงอดีตผู้พิพากษา แต่กลับทำตัวต่ำรับใช้เป็นโฆษกส่วนตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ การพูดแบบนี้เป็นการพูดโดยไม่ใช้เหตุผล แค่ต้องการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น น่าละอายเมื่อเทียบกับตำแหน่งผู้พิพากษาในอดีตของนายพงศ์เทพ ตนเชื่อว่านายพงศ์เทพซึ่งเคยเป็นถึงอดีตผู้พิพากษานั้นรู้ดีว่าเรื่องเจตนาที่จะซื้อกระบวนการยุติธรรม ตลอดจนเจ้าหน้าที่ศาลนั้นเป็นเรื่องจริงและมีมานานแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ศาลจะต้องทำงานเชื่อมโยงกับผู้พิพากษา ในการถอดข้อความจากเทป จัดเก็บสำนวน เรื่องเหล่านี้เจ้าหน้าศาลเป็นผู้ดำเนินการทั้งสิ้น เรื่องแบบนี้เกิดทุกครั้งในศาลฎีกา เมื่อแทรกซื้อระดับสูงไม่ได้ก็ซื้อเจ้าหน้าที่ก่อน และถ้าไม่ช่วยก็จะมีการแบล็กเมล์ภายหลัง โดยมีเจ้าหน้าที่ตกเป็นเครื่องมือตกเป็นเหยื่อ ขบวนการแบบนี้มีมาโดยตลอด ซื้อเจ้าหน้าที่ศาล ตนขอย้ำว่าหลายคดีของระบอบระบอบทักษิณทำแบบนี้
นายประพันธ์ ยังกล่าวถึงข่าว กกต.ปั้นหลักฐานเท็จในคดีทุจริตการซื้อเสียงที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งศาลฎีกาแผนกของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินในวันที่ 8 ก.ค.ว่า ศาลรัฐธรรมนูญเคยตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยมาแล้ว ในการจ้างพรรคเล็กลงสมัคร มีการสร้างหลักฐานเท็จ ปลอมลายเซ็น ซึ่งคดีของนายยงยุทธก็เข้าข่ายแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นการได้อำนาจมาโดยมิชอบตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ ตนคิดว่าหากศาลตัดสินแล้วข้อเท็จจริงเปิดโปงออก เป็นการทำหลักฐานเท็จ นายยงยุทธ และกกต. รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องตกเป็นจำเลยในคดีอาญา รวมถึงความผิดเข้าข่าย พ.ร.บ.พรรคการเมือง กรรมการบริการพรรคมีส่วนรู้เห็น พรรคพลังประชาชนต้องถูกยุบ กระบวนการแทรกแซงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และศาฎีกาฯจึงเกิดขึ้น และที่ กกต.ยกสำนวนการเลือกตั้งไป 700 คดี มีการโยงไปถึงการโกงเลือกตั้ง ซึ่งอำนาจที่ได้มาของพรรคพลังประชาชน ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทั้งหมดนี้ตนขอให้ศาลควรจะน้อมรับพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างเคร่งครัด
ด้าน นายพิเชฐ กล่าวว่า นายพงศ์เทพบอกเป็นเรื่องตลก และไม่มีผลต่อรูปคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะคดีไปไกลแล้วนั้น ตนอยากให้ดูว่าที่ผ่านมาคดีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปได้หรือไม่ นายพงศ์เทพไม่รู้เลยหรือ ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่ารัฐมนตรีคนหนึ่งมีการนัดผู้พิพากษากินข้าวที่โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต ขณะเดียวกัน เหตุการณ์เรื่องเงิน 2 ล้านบาทที่นำไปวางให้เจ้าหน้าที่ศาลก็เป็นวันที่ 10 มิ.ย.วันเดียวกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะต้องไปรายงานตัวต่อศาลในคดีที่ดินรัชดาฯ ซึ่งอาจจะเป็นการอำนวยความสะดวกในชั้นศาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ศาล ส่วนข้างบนก็เจรจากันไป ตนคิดว่านายพงศ์เทพรู้ แต่แกล้งไม่รู้มากกว่า
อดีตรองประธานวุฒิฯ กล่าวด้วยว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ถูกศาลอุทธรณ์สั่งจำคุก 3 หนา อดีตกกต.มาแล้ว ยังมีกกต.กล้าทำแบบนี้อีก โดยเฉพาะ นายสมชัย จึงประเสริฐ ที่มีความเห็นแตกต่างในเรื่องสำนวนการเลือกตั้งทุกครั้ง ตอนนี้ตนเข้าใจแล้วว่าทำไม ทั้งนี้ขอให้ศาลฯ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย รับสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ให้ไว้กับศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกตรอง เมื่อคืน(11 มิ.ย.) อย่างเคร่งครัด