xs
xsm
sm
md
lg

จับตา “รบ.ลูกกรอก” ปลุกเมกะโปรเจกต์น้ำ กว่าแสนล้าน!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี
จับตา “หมัก” เยือนจีน ส่อฮั้ว!! เอกชนจีนฟื้นฟูแหล่งน้ำไทย อ้างเครื่องมือ-อุปกรณ์เก่า เมินหน่วยงานทหาร ขณะเดียวกัน ผ่าน “โครงการผันน้ำยวมตอนล่าง-ภูมิพล” 4.3 หมื่นล้าน พร้อมเตรียมปลุกผี 6 โครงการเก่า 1.5 แสนล้าน รอถกอีก 2 สัปดาห์

วันนี้ (9 มิ.ย.) พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชตรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อ้างระหว่างเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ครั้งที่ 2/2551 ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่า จะเดินทางไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เพื่อเจรจากับผู้นำของจีนให้หาผู้เชี่ยวชาญในการขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนของจีนเข้ามาประมูลงาน หรือเป็นบริษัทร่วมทุนในการฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติในประเทศไทย เป็นโครงการขุด ลอก แหล่งน้ำธรรมชาติ เนื่องจากอุปกรณ์ของกรมชลประทานมีสภาพที่เก่ามาก และเอกชนจีนก็มีความพร้อมในด้านนี้อย่างมาก

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เห็นว่า โครงการขุด ลอก แหล่งน้ำธรรมชาติ จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะต้องตักดินที่ตื้นเขินกว่า 100-110 ลูกบาศก์เมตร ออกจากแหล่งน้ำตามที่กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานว่า มีกว่า 6,607 แห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังมีความเห็นว่า ดินเลนที่ตักจากแหล่งน้ำเหล่านั้นจะนำไปไว้ในที่ดินว่างเปล่าเพื่อให้ดินเลนแข็งตัว โดยโครงการนี้มีงบประมาณที่จัดสรรไว้แล้ว 1.15 หมื่นล้านบาท

“นายกรัฐมนตรีขอให้ไปสำรวจโครงการโดยเร็ว แต่ทางกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่า ยังขาดเจ้าภาพร่วมในการขุดเจาะแหล่งน้ำ เช่น บึงบรเพ็ด บึงสีไฟ ฯลฯ ที่พบว่า มีตะกอน ทำให้เกิดความตื้นเขิน มีดินเลนทับถมจำนวนมาก ขณะที่เครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆของกรมชลประทาน เช่น เรือตักดินมีสภาพที่เก่าไม่สามารถใช้ได้ทันท่วงที” โฆษกรัฐบาลกล่าว

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ ยอมรับว่า ที่ประชุมไม่ได้พูดคุยถึงโครงการที่จะให้หน่วยงานของรัฐอื่นๆเข้ามาประมูลงาน โดยเฉพาะทหาร อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่า หากหน่วยงานทหารเข้ามาทำงานก็สามารถทำได้ แต่ก็คงไม่ทั้งหมด ดังนั้น นายกฯ จึงอยากให้ทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนเข้ามาทำงานร่วมกัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้ 2 รัฐบาลที่ผ่านมา จะให้หน่วยทหาร โดยเฉพาะทหารพัฒนาเข้ามาร่วมดำเนินการ เช่น การขุดสระ หรือขุดลอกแหล่งน้ำ เป็นต้น

พล.ต.ท.วิเชียรโชติ กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการจัดหาน้ำเพิ่มเติมด้วยการผันน้ำ นายกฯ ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมชลประทานไปเร่งศึกษาการผันน้ำ จากแม่น้ำเลย แม่น้ำชี และแม่น้ำมูล มารายงานใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะงบประมาณโดยรวม ความสามารถที่จะผันน้ำเข้ามาใช้ได้ปริมาณเท่าไร และแผนที่ระยะทางโดยละเอียด

ขณะที่ ที่ประชุมเห็นชอบโครงการผันน้ำอ่างเก็บน้ำยวมตอนล่าง-ภูมิพล ปริมาณน้ำ 2,182 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณ 43,898 ล้านบาท เพราะโครงการผ่าน EIA มาแล้ว จะเป็นการขุดอุโมงค์ยกระดับ ระยะทาง 61.85 กิโลเมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 9 เมตร

ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นายนพดล นพลัมภา เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง

แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการตามที่กรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำ ได้รายงานต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาแผนการจัดหาน้ำเพิ่มเติมด้วยการผันน้ำ จำนวน 7 โครงการ วงเงินงบประมาณ 150,400 ล้านบาท โดยเป็นโครงการของกรมชลประทาน 4 โครงการ และของกรมทรัพยากรน้ำ 3 โครงการ โดยโครงการที่ 2-7 ฝ่ายเลขานุการจะนำไปจัดทำรายละเอียด ประกอบด้วย 1.โครงการอ่างเก็บน้ำยวมตอนล่าง-ภูมิพล ปริมาณน้ำ 2,182 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณ 43,898 ล้านบาท จะสร้างประโยชน์ให้กับพื้นที่ชลประทาน 1 ล้านไร่ มีน้ำอุปโภคบริโภค750 ล้านลูกบาศก์เมตร ผลิตไฟฟ้าได้ 558 ล้านหน่วย ผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ (EIIR) 15.70% สามารถผลิตข้าวได้ 7 แสนตัน

2.โครงการน้ำเมย-ห้วยแขนง-เขื่อนภูมิพล ปริมาณน้ำ 1,782 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้งบประมาณ 15,912 ล้านบาท พื้นที่ชลประมาน 8.3 แสนไร่ ผลิตไฟฟ้าได้ 450 ล้านหน่วย EIIR 24.8% ผลิตข้าวได้ 6 แสนตัน 3. โครงการท่าแซะ-บางสะพาน ปริมาณน้ำ 191 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณ 4,530 ล้านบาท พื้นที่ชลประทาน 9 หมื่นไร่ ผลิตข้าวได้ 6 หมื่นตัน 4. โครงการอ่างเก็บน้ำงึม-ห้วยหลวง-ลำปาว ปริมาณน้ำ 2,580 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณ 76,760 ล้านบาท พื้นที่ชลประมาน 3.20 ล้านไร่ EIIR 16.58% ผลิตข้าวได้ 2.20 ล้านตัน

5.โครงการตาปี-สิชล ปริมาณน้ำ 130 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณ 2,100 ล้านบาท ใช้น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 6.โครงการเขื่อนรัชชประภา-ภูเก็ต ปริมาณน้ำ 180 ล้านลูกบาศก์เมตร งบประมาณ 7,200 ล้านบาท ใช้น้ำเพื่อการท่องเที่ยว ขณะที่โครงการที่ 7.การศึกษาการผันน้ำจากแม่น้ำเลย-แม่น้ำชี-แม่น้ำมูล นายกฯ ขอให้ไปศึกษารายละเอียดอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น