“ผู้ว่าฯ สตง.” โต้ข่าวร่ำรวยผิดปกติ ปฏิเสธอยู่เบื้องหลังเงินบริจาคให้กลุ่มพันธมิตรฯ ท้าพวกหาเรื่องไปฟ้อง ป.ป.ช. ยันมีหลักฐานชี้แจงชัด ตอกกลับบุตรชายนั่งเลขานุการส่วนตัวผิด กม.ตรงไหน
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (9 มิ.ย.) คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวถึงกรณีที่ถูกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยบริจาคเงิน 100,000 บาท ให้กลุ่มพันธมิตรฯ ว่า เงินจำนวนดังกล่าวมีคนฝากผ่านตนเพื่อนำไปมอบให้กลุ่มพันธมิตรฯ เพราะไม่สะดวกที่จะบริจาคด้วยตนเอง จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปบริจาคแทน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ทราบว่าผิดกฎหมายอย่างไร เพราะไม่ใช่เงินส่วนตัว
ส่วนกรณีกลุ่มติดตามปฏิรูปการเมืองและต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุว่า คุณหญิงจารุวรรณมีความผิดปกติในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการร่ำรวยผิดปกติเกี่ยวกับที่ดิน คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ไม่ได้ร่ำรวยมาจากไหน ที่ดินผืนดังกล่าวได้มาตั้งแต่สามียังไม่ขอแต่งงาน โดยมีโฉนดที่ดินอย่างชัดเจน และขณะนี้โฉนดที่ดินดังกล่าวยังติดจำนองอยู่ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง เนื่องจากเอาไปจำนองกู้เงินเพื่อสร้างบ้าน คนที่ทำงานราชการมา 40 กว่าปีจะไม่ให้มีเงินเก็บบ้างเลยหรืออย่างไร แม้แต่บ้านที่อยู่กู้เงินมาสร้าง โดยธนาคารจะให้อัตราดอกเบี้ยพิเศษ ตนยังไม่รับ เพราะอยากให้ดำเนินการเหมือนลูกค้ารายอื่น
“ที่บ้านดิฉันก็ไม่ได้มีฐานะยากจน และไม่ถึงกับขี้ริ้วขี้เหร่ ใครจะเอาไปฟ้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ไป ดิฉันพร้อมชี้แจงให้ข้อมูลเพราะมันไม่มีอะไร ที่ผ่านมาเคยมีคนหิ้วเงินมาให้ตั้ง 100 ล้านบาท ดิฉันยังไม่รับ” คุณหญิงจารุวรรณ กล่าว
ส่วนกรณีที่ให้บุตรชายมาเป็นเลขานุการส่วนตัวนั้น คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า เหตุใดต้องมาตรวจสอบแต่ตนคนเดียว เพราะคนอื่นๆ ก็ทำกัน ไม่ว่าจะเป็นนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ให้บุตรสาวมาเป็นเลขานุการ รวมถึงนายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา ก็ให้น้องภรรยามาเป็นเลขานุการเช่นเดียวกัน ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องเลือกคนที่ไว้ใจได้ การให้โอกาสคนที่ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตผิดด้วยหรือ ซึ่งบุตรชายก็ไม่ได้ตกงานแต่อย่างใด เป็นถึงวิศวกร