แกนนำพันธมิตรฯ ขอมติผู้ชุมนุม ดีเดย์วันชุมนุมใหญ่ เรียกร้องพี่น้องประชาชนที่เคยร่วมชุมนุมทั้งหมด กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก่อนจะเปิดเผยการทุจริตจัดซื้อรถ-เรือดับเพลง กทม.ที่มาที่ไปของรัฐบาลหุ่นเชิด “สมัคร” ภายใต้การชักใยของ “ทักษิณ” ที่ร่วมกันล้างความชั่วให้ตัวเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ปราศรัย
วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลาประมาณ 21.10 น.นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวขอมติจากเวทีพันธมิตรฯ ว่า ขอให้ผู้ร่วมชุมนุมที่เคยมาร่วมชุมนุมแล้วทั้งหมด หรือคนที่จบจาก ม.ราชดำเนิน ทั้งหมด กลับมารวมตัวอย่างพร้อมเพรียงกันอีกครั้ง ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งที่ประชุมเองก็เห็นด้วย โดยหลังจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ จะได้กำหนดวันเวลาอีกครั้ง
“คน 1 ล้านคน มารวมตัวกันที่นี้ เป็นการแสดงประชามติแบบไม่ต้องไปลงคะแนนเสียง แต่เป็นการลงมติที่เห็นตัวคนเป็นตัวๆ แถมเดือนได้ด้วย”
หลังจากสภาพันธมิตรฯ ลงมติเห็นชอบแล้ว นายสมศักดิ์ ได้กล่าวต่อถึงคดีทุจริตโครงการซื้อรถและเรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งเป็นถึงที่มาที่ไปของการที่นายสมัครเข้ามาเป็นหุ่นเชิดของทักษิณและนำไปสู้การแก้ไขรัฐธรรมนูญ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คตส.ได้ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ แล้วมีข้อสรุปว่า ได้ชี้มูลความผิดการจัดซื้อรถ เรือดับเพลิงแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณา โดยความมีอยู่ว่า การจัดซื้อรถและเรือดับเพลิงของกทม.ตั้งแต่ ขั้นตอนของการลงนาม MOU มีมูลเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำการอย่างมีเป้าหมายเดียวกัน และขัดต่อมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการระบุข้อมูลวิธีการที่ส่อไปในทางทุจริต โดยให้ราคาสูงเกินความจำเป็น สร้างความเสียหายต่อรัฐเป็นมูลค่ากว่า 1.9 พันล้านบาทเศษ
โดยมูลความผิดดังกล่าว เป็นความตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งมีโทษจำคุก 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือ พ.ร.บ. ฮั้วโดยคนที่กระทำความผิดต้องมีระวางโทษตั้งแต่ 5-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือปรับ 100,000-400,000 บาท
มาตรา 13 กำหนดว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ. นี้ ให้ถือว่าผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ มีโทษจำคุก 7-20 ปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 140,000-400,000 บาท
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า สมัยที่ นายสมัคร เป็นผู้ว่าราชการ กทม.ได้เห็นชอบอนุมัติการจัดซื้อดังกล่าวเป็นมูลค่ารวมประมาณ 6,687.498 ล้านบาท หรือประมาณ 133.7 ล้านยูโร แล้วได้นำเสนอความเห็นชอบต่อสภา กทม.และได้รับความเห็นชอบในที่สุดในวันที่ 20 สิงหาคม 2547 และได้รับการอนุมัติโดยนายโภคิน พลกุล รัฐมตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2547
โดยการลงนามดังกล่าว เป็นการลงนามก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม.ในวันที่ 29 สิงหาคม 2547 เพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งถือเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์ทิ้งทวน แถมยังโกงภาษีของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศด้วย
ทั้งหมดที่กล่าวว่าชี้ให้เห็นว่า ทำไม ทักษิณ ถึงเลือก สมัคร มาเป็นหุ่นเชิด เพราะทักษิณเองก็มีความผิดที่ คตส.ชี้มูล ทั้งคดีที่ดินรัชดาฯ การปกปิดข้อมูลของ เอสซีแอสเซท นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเล่นงาน คตส.ให้ตัวเองพ้นผิด
“ที่ไปที่มาของรัฐบาลหุ่นเชิด เกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างกำลังจะติดคุกด้วยกันทั้งคู่ แต่ตอนนี้เรื่องนี้กำลังจะจบลงเพราะทักษิณมีความผิดถึงขึ้นติดคุก สมัครเองก็กำลังจะติดคุก เจ๊เพ็ญเองก็กำลังจะติดคุก เพราะฉะนั้นทั้ง 3 คนต้องจบด้วยการติดคุกด้วยกันทั้งหมด”