“วีระ” เผย “สมัคร” ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม หลังศาลชั้นต้นพิพากษาสั่งจำคุกฐานหมิ่นรองผู้ว่าฯ กทม.โดยไม่รอลงอาญา ล่าสุด ศาลอุทธรณ์เขียนคำพิพากษาแล้วยืนตามศาลชั้นต้น แต่นายกฯ ใช้อำนาจวิ่งเต้นให้ชะลอการอ่านคำพิพากษา วอนพี่น้องที่ยังอยู่เฉย ออกมาร่วมต่อสู้ ช่วยกอบกู้ชาติบ้านเมือง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายวีระ สมความคิด ปราศรัย
วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลาประมาณ 19.00 น.นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน ขึ้นกล่าวบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ใช้อำนาจก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม โดยการวิ่งเต้นไม่ให้องค์คณะที่ต้องอ่านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีที่ นายสมัคร หมิ่นประมาท นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญาไปก่อนหน้านี้ หลังจากผลการพิพากษาของศาลอุทธรณ์ได้ตัดสิน ให้ยืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
“การใช้อำนาจของการเป็นนายกฯ ที่บริหารประเทศ เข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมแบบนี้ ต้องไล่ออกสถานเดียว” นายวีระ กล่าว
นายวีระ ยังกล่าวต่อถึงการใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งรัฐมนตรีของ “เฉลิม” ด้วยว่า หลังจากเป็นรัฐมนตรีได้ไม่นาน “เฉลิม” ได้ใช้อำนาจทำให้เกิดความเกรงอกเกรงใจ โดยขอ “สมัคร” ให้ลูกชาย “ดวง” กลับเข้ามารับราชการทหารอีกครั้ง
“พี่น้องจำได้ใช่ไหมครับว่า นายดวง นั้น ถูกกล่าวหาว่า ฆ่าดาบยิ้มตาย ในข้อหา “ฆ่าเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่” ซึ่งเป็นโทษประหารชีวิตสถานเดียว และถ้าหากเป็นทหารทั่วไป แค่หนีทหารก็ถูกไล่ออกแล้ว แต่ นายดวง ทั้งหนีทหาร และหนีตำรวจเพราะต้องคดีฆ่าคนตาย ยังกลับเข้ามารัฐราชการทหารได้อีก ฉะนั้น การที่เรามีเสนาบดีใช้อำนาจช่วยเหลือตัวเองและพวกพ้องอย่างนี้ ปล่อยให้อยู่บริหารประเทศไม่ได้แล้ว”
นายวีระ กล่าวต่อว่า เหตุผลนี้เองคือเหตุผลที่เราต้องร่วมชุมนุมกันอยู่ที่นี้ อยากบอกไปถึงคนที่ยังไม่เข้าใจเราว่า ได้โปรดสละเวลาของท่านมาดูความเป็นอยู่ของพวกเราว่าใช้ชีวิตกันอย่างไร มาดูว่าเราเป็นกำลังซ่องสุมอาวุธอย่างที่หมอเหวงว่าไว้หรือเปล่า ในทางกลับกัน เราซ่องสุมอาวุธทางปัญญาเอาไว้ต่างหาก ซึ่งอาวุธทางปัญญานี้เอง จะเป็นเครื่องมือกำจัดพวกโกงชาติออกไป
สำหรับพี่น้องที่มานั่งฟังความรู้ในมหาวิทยาลัยราชดำเนินทุกวัน จะได้รู้ความจริงจากผู้รู้คนละเล็กละน้อย ถ้าใครอยู่ร่วมกับเราฟัง 1 เดือน ถือว่าได้รับปริญญาตรี แต่ถ้าใครอยู่ฟังกับเราต่อไปถึง 2 เดือน ก็เอาปริญญาโทไป และถ้าพี่น้องอยู่ฟังกับเราจนกู้ชาติชนะ ก็ถือว่าได้ปริญญาเอกไปเลย
“ต่อไปพี่น้องที่มานั่งฟังความรู้กับเรา จะกลายเป็นกำลังสำคัญของประเทศ เพราะเราจะพัฒนาตัวเองจากบุคคลธรรมดา เป็นพลเมืองที่เป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไป พี่น้องครับ เราจำเป็นและต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจ และยังต้องการแรงใจจากพี่น้องที่อยู่เฉยจำนวนมาก มาร่วมกับเรา ณ ที่นี่ ผมเชื่อว่ายังมีคนไทยจำนวนมากที่กำลังกระหายใคร่รู้ ที่จะมาช่วยกอบกู้ชาติบ้านเมือง” นายวีระ กล่าว
นายวีระ กล่าวปิดท้ายว่า การชุมนุมของเรา ไม่ได้หวังให้ทหารเข้ามาทำการปฏิวัติอีก ขอบอกไว้ ณ ที่นี่ว่า ทหารไม่ต้องอกมาปฏิวัติแล้ว เพราะประชาชนจะปฏิวัติด้วยตัวเอง
