แกนนำพันธมิตรฯ นัดขึ้นเวทีโต้คำต่อคำ จับโกหก “สนทนาหมัก” ขณะเดียวกัน เตรียมวางพวงหรีดให้ “เพ็ญทีวี” วันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) พร้อมเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมแสดงความจงรักภักดีสวมเสื้อเหลือง เนื่องในวันที่พระเจ้าอยู่หัวทรงครองราชสมบัติครบ 62 ปีในวันจันทร์ที่ 9 มิ.ย.นี้ เตือนถ้า “พลังแม้ว” ยังดันทุรังยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญอาจยกพลบุกสภา
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า จากการสอบถามทีมกฎหมายเรื่องการถ่ายทอดสดบอลยูโรในคืนนี้นั้น ในแง่ของกฎหมายไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเป็นเพียงการส่งสัญญาณการเปิดโทรทัศน์ช่องปกติ เพียงแต่เราจะมีการตั้งจอโปรเจกเตอร์ เข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะกลัวว่าคงจะมีการเชื่อม การออกอากาศของเอเอสทีวี ส่วนเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังห้ามเด็ดขาดและไม่มีเรื่องของการพนันบอลแน่นอน เพราะเจ้าหน้าที่กองทัพธรรมเข้มงวดในเรื่องอบายมุข
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการเปิดถ่ายทอดสดฟุตบอลดังกล่าวไม่ใช่เพื่อเรียกคนอย่างที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะคนส่วนใหญ่ที่มาร่วมชุมนุมเป็นคนมีอายุ และไม่ค่อยดูบอลเป็นชีวิตจิตใจ และการถ่ายทอดก็จะมีในเวลา 23.00 น. และในช่วงดึกเราถ่ายทอดเพียงบางจุดเท่านั้น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเวทีที่จะดำเนินต่อไปโดยไม่มีหยุด
นายสุริยะใส กล่าวว่า สำหรับในวันพรุ่งนี้ (8 มิ.ย.) แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะขึ้นเวทีเวลา 10.00 น. หลังรายการสนทนาประสาสมัคร เพื่อโต้ตอบหรือชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ใช้รายการบิดเบือดข้อเท็จจริงทำลายความชอบธรรมของกลุ่มผู้ชุมนุมหลายครั้ง
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในวันที่ 9 มิ.ย.51 ซึ่งเป็นวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 62 ปี จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่จะมาร่วมชุมนุมใส่เสื้อเหลืองเพื่อแสดงความจงรักภักดี จากนั้นเวลา 13.00 น. แกนนำพันธมิตรฯ บางส่วนพร้อมผู้ร่วมชุมนุมจะเดินทางไปคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อให้กำลังใจ ส่วนในช่วงเย็นจะมีการจุดเทียนและกล่าวคำปฏิญานเพื่อแสดงความจงรักภักดี
“ในช่วง 2-3 วันนี้จะไม่การเคลื่อนขบวนไปไหนแน่นอน เพราะไม่เป็นผลดี ยุทธศาสตร์ปักหลักยืดเยื้อที่สะพานมัฆวานฯ ยังจำเป็นและต้องมีต่อ แต่ถ้าหากวันที่ 9 ซึ่งจะมีการเปิดการประชุมสภาสมัยวิสามัญนั้น หาก ส.ส.พรรคพลังประชาชนมีการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญจริง กลุ่มผู้ชุมนุมก็อาจจำเป็นที่จะต้องเคลื่อนไปปิดสภา” นายสุริยะใส ระบุ
นายสุริยะใส กล่าวว่า นอกจากนี้ในวันที่ 8 มิ.ย.51 จะมีอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งของผู้ชุมนุมเดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือเอ็นบีที เนื่องจากเอ็นบีทีเป็นผลผลิตทักษิณ เราสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนช่อง 11 ให้เป็นสถานีโทรทัศน์สาธารณะของประชาชน แต่ 2 เดือนที่ผ่านมา เจนตนาของการเสนอข่าวนั้น รับใช้การเมืองมากเกินไป หลายคนโล่งอกที่นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลาออกไป แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะหนีเสือปะจระเข้หรือไม่ โดยจะไปวางพวงหรีดเพื่อไว้อาลัยให้กับเอ็นบีที โดยจะเดินทางไปในเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. ซึ่งไม่ได้เป็นการเดินทางไปเพื่อดักพบนายกรัฐมนตรี
นอกจากนั้น นายสุริยะใส ยังกล่าวถึง กรณีที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) ระบุให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุมว่า นักประชาธิปไตยต้องตระหนักในสิทธิในการชุมนุมด้วย ไม่อย่างนั้นอาจจะเสียคนตอนแก่ ที่ผ่านมามีความชัดเจนว่า นพ.เหวง ใช้มวลชนจัดตั้งเพื่อสลายกลุ่มพันธมิตรฯ แต่ไม่สำเร็จจึงต้องเปลี่ยนรูปแบบ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ต่างก็มีสิทธิที่จะชุมนุมต้องเคารพสิทธิซึ่งกันและกัน
ส่วนกรณีที่ นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช แสดงความเป็นห่วงว่าเยาวชนอาจจะเลียนแบบกลุ่มพันธมิตรฯ นายสุริยะใส กล่าวว่า อยากให้นางระเบียบรัตน์นำเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ กับรายการสนทนาประสาสมัคร มาเปรียบเทียบกัน แล้วจะเห็นว่าอันไหนน่าเป็นห่วงกว่ากัน การแสดงออกของกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นการแสดงออกทางการเมือง ต่อผู้มีอำนาจที่กำลังใช้อำนาจในทางไม่ชอบ ดังนั้น ควรจะไปเตือนนายกรัฐมนตรีที่พูดจาไม่สุภาพผ่านทางทีวีจะดีกว่า