“แก๊งทนายแม้ว” ส่งเสียงเชียร์ “รัฐตำรวจ” เลือกปฏิบัติไม่ต้องคำนึงเกียรติและศักดิ์ศรีฝ่ายตรงข้าม ออกหมายจับชอบด้วย กม. ได้ทีตะเพิด “คตส.-สุนัย” รีบไปมอบตัว ปากกล้า โวยอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายพิชิฏ ชื่นบาน หนึ่งในทีมทนายความของบริษัท สำนักกฎหมายนิติเอกราช จำกัด ซึ่งรับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว ในการฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทนายสุนัย มโนมัยอุดม เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะอดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่กองปราบปรามในการฟ้องร้องทั้ง 2 คดีนี้ว่า รู้สึกเห็นใจการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่ถูกสังคมตั้งข้อสังเกตเรื่องการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในขณะนี้ ทั้งที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยคดีของนายสุนัย ประเด็นสำคัญที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คือ การที่นายสุนัยได้รับหมายเรียกจากเจ้าพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ยอมไปรับทราบข้อกล่าวหา ทำให้คดีเดินต่อไปไม่ได้ ทางพนักงานสอบสวนก็เลยต้องออกหมายจับตามขั้นตอนปกติ
“เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเลย เพราะถ้าคุณสุนัยยอมไปพบพนักงานสอบสวนตามปกติ การออกหมายจับก็คงไม่เกิดขึ้น และที่สำคัญคดีนี้ก็เป็นคดีอาญาปกติ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องตำแหน่งหน้าที่ราชการ เป็นความผิดส่วนตัว ซึ่งคุณสุนัยก็ควรปฎิบัติให้เหมือนกับคนทั่วไป เพื่อให้กฎหมายบังคับใช้ได้อย่างเท่าเทียม ทุกฝ่ายได้รับความยุติธรรม” นายพิชิฏ กล่าว
นายพิชิฏ กล่าวว่า ส่วนกรณีของ คตส.ก็เป็นเรื่องลักษณะเดียวกัน ถ้ามั่นใจว่าไม่ได้กระทำความผิดอะไร มั่นใจในความบริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวอะไร เมื่อพนักงานสอบสวน ออกหมายเรียกไป ก็ควรจะมาพบเพื่อสู้คดี แต่ คตส.กลับไม่ยอมมา ทั้งยังออกหนังสือแจ้งไปถึงใครๆ ต่อใครว่าถูกกลั่นแกล้ง เบี่ยงเบนประเด็นให้เป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งมันไม่ถูกต้อง ควรจะยอมรับอำนาจการตรวจสอบของคนอื่นด้วย ไม่ใช่มาดำเนินการอะไรแบบนี้ เพราะในส่วนของบริษัท ทันทีถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกตัวไป หลังจากถูก คตส.ฟ้องคดี ทางเราก็เดินทางไปเข้าพบพนักงานสอบสวน มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ทุกอย่าง
“คดีนี้ถือเป็นคดีความส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องหน้าที่ เมื่อฝ่ายเราโดนแบบใด ฝ่ายเขาก็ควรจะต้องโดนแบบนั้น เพื่อให้กฎหมายบังคับใช้ได้อย่างเท่าเทียม ไม่ได้เรียกปฎิบัติใช้บังคับกับฝ่ายหนึ่ง แต่ไม่บังคับกับอีกฝ่ายหนึ่ง ทีมทนายรู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำความเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน และถือปฎิบัติตามข้อกฎหมาย อยากให้สังคมเข้าใจ คตส.ควรจะรีบไปพบพนักงานสอบสวนซะ อย่ามาร้องแรกแหกกระเชอแบบนี้ เพราะบ้านนี้เมืองนี้ เขารู้กันดีอยู่แล้ว สำหรับ คตส.ไม่มีใครไปรังแกใครได้ ไม่มีใครเขากล้าไปทำอะไรหรอก” ทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุ