วิปฝ่ายค้านยื่นญัติด่วนต่อ ปธ.สภา ทวงสัญญาตั้ง กมธ.ศึกษา รธน.ถอดชวนวิกฤตการเมือง หวั่นถูกเบี้ยว “แก๊งเด็กเนวิน” ชิงเข้าชื่อแก้ร่าง รธน.ตัดหน้า ยอมรับรัฐตำรวจฟื้นคืนชีพ ย้อนยุคระบอบทักษิณ เริ่มปฏิบัติการเช็กบิลฝ่ายตรงข้ามแล้ว
วันนี้ (5 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้เป็นตัวแทนพรรคเข้ายื่นญัตติด่วนต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการใช้และปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 โดยนายสาทิตย์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าชื่อร่วมกันกว่า 50 คนเพื่อขอยื่นญัตติด่วนในเรื่องดังกล่าว จากการประชุมร่วมกันระหว่างประธานสภาผู้แทนราษฎร วิปฝ่ายค้าน และรัฐบาล เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการถอดชนวนในวิกฤตการเมืองที่เกิดขึ้น ควรใช้เวลาสภาเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่ยื่นญัตตินี้ ซึ่งคาดว่าฝ่ายรัฐบาลก็คงจะยื่นร่างมาประกบต่อจากนี้
นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า สำหรับสัดส่วนกรรมาธิการจำนวน 60 คน พรรคประชาธิปัตย์จะเสนอคนนอกเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งประกอบด้วยบุคคลจากหลายฝ่าย ทั้งนักวิชาการและตัวแทนจากองค์กรต่างๆ ส่วนการเชิญตัวแทนกลุ่มพันธมติรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาร่วมเป็นกรรมาธิการด้วยนั้น ตอนนี้พรรคยังไม่มีมติให้เชิญใคร สำหรับกรณีนาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก็ยังไม่มีมติเสนอชื่อ แต่ในฐานะส.ส.นายสมเกียรติสามารถเสนอตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเสนอญัตติตามข้อตกลงของ 3 ฝ่ายแล้วพรรคพลังประชาชนน่าจะยุติเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมเข้ามา เพราะยังมีบางคนที่พยายามจะใช้สิทธิ์ตรงนี้อยู่ ซึ่งน่าเป็นห่วง วันนี้รัฐบาลก็พยายามจุดไฟ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับรัฐบาลและกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคนละเรื่องกันกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชาชนไม่ยอมยื่นญัตตินี้แต่ยังดึงดันที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญทางพรรคประชาธิปัตย์จะทำอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้หารือกับแล้วและมีการตกลงกัน ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาฯ ก็นั่งอยู่ด้วยและพลังประชาชนรู้ว่าเรื่องนี้เป็นชนวน และเชื่อหากเขาจะไปเช็กบิลกับนายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีดีเอสไอ รวมทั้ง คตส. ซึ่งเป็นการเริ่มเรื่องโดยตำรวจทั้งสิ้น ตนเสียดายที่การประชุมสภาสมัยวิสามัญไม่เปิดโอกาสให้มีกระทู้ ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ต้องมีกระทู้สดแน่นอน
“เพราะวันนี้รายการฟื้นระบบรัฐตำรวจผ่านดีเอสไอ กับผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เริ่มแล้ว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ก็กลับมาเป็นใหญ่ ส่วนอีกฝั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แบบนี้เป็นการจุดชนวน แล้วแบบนี้จะจบลงเมื่อไหร่ เราก็พยายามบอกว่าให้หาทางทำเรื่องอื่นดีกว่า เรื่องอื่นมีเยอะแต่ไม่ทำ ซึ่งกว่าบ้านเมืองจะสงบก็ต้องจนกว่าข้อเสนอทั้งหมดจะได้รับการปฏิบัติ” นายสาทิตย์กล่าว
