“พิภพ” แฉ ไอ้โม่งหลบหลังเด็ก ดอดขอยืมตัวจากโรงเรียนวัดมกุฎฯ จัดฉากเดินขบวนประท้วงพันธมิตรฯพรุ่งนี้เช้า ขณะที่ผู้บริหารโรงเรียนปัดไม่ยอมให้นักเรียนเป็นเครื่องมือพวกก่อกวนแน่นอน จี้รัฐบาลจัดระบบจราจรใหม่ อย่ามั่วโทษพันธมิตรฯ ทั้งที่ช่องถนนหลังแนวตำรวจสามารถเปิดให้วิ่งได้ไม่ทำ ย้ำเป้าหมายใหญ่ล้มระบอบทักษิณ ไล่รัฐบาลลูกกรอกพ้นเก้าอี้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้(4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 21.14น. นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า เรื่องที่มีข่าวว่าพรุ่งนี้(5 มิ.ย.) นักเรียนโรงเรียนวัดมกุฎกษัตริยาราม จะเดินขบวนประท้วงพันธมิตรฯนั้น ไม่เป็นความจริง โดยตนเองได้ติดต่อไปยังผู้บริหารของโรงเรียนและได้ชี้แจงแล้วว่า เหตุผลที่ต้องปิดหลังเวทีไม่ให้รถเดิน เพราะห่วงความปลอดภัยของประชาชนนที่มาร่วมชุมนุมและนักเรียน เพราะในการเปิดช่องจราจรตอนนั้นรถขวักไขว่มาก ก็วิตกว่าถ้าพวกป่วนเมืองเข้ามา ก็จะเกิดอันตรายกับประชาชนที่มาค้างคืนและนักเรียน และหลังจากได้พูดคุยกับรองผ.อ.โรงเรียนฯ แล้ว ท่านก็ได้มาดูที่พื้นที่จริง ก็เห็นพ้องกับเราว่าอันตรายเกินกว่าจะเปิดทางจราจรจริงๆ
“หน้าที่รัฐบาลก็ต้องจัดระบบจราจรใหม่ ว่าแนวประตูตั้งแต่กระทรวงศึกษาฯ ไปทำเนียบฯ ทะลุไปสนามม้าฯ ทำไมรัฐบาลไม่จัด ผ่าหลังตำรวจไป แต่รัฐบาลก็จะเล่นแง่อย่างนี้ จะบอกว่าเราสร้างปัญหา ฉะนั้นเราก็ต้องเป็นคนแก้ปัญหา แต่ถามหน่อย เราไม่ได้สร้างปัญหา แต่ว่าคุณเป็นคนสร้างปัญหา เราจึงต้องมาแก้ปัญหาใช่ไหม”นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เมื่อ6โมงเย็นที่ผ่านมา ผู้บริหารโรงเรียนโทรมาหาตนอีกครั้ง โดยระบุว่าข่าวที่ออกวิทยุว่าพรุ่งนี้มีนักเรียนเดินขบวนประท้วงพวกเราเรื่องปิดถนนนั้นไม่จริง ให้สบายใจได้
“เรื่องจริงคือมีคน 2-3คน ไปพบผู้บริหารโรงเรียน ว่าจะขอยืมเด็กมาประท้วงพรุ่งนี้เช้าหน่อย ผู้บริหารร.ร.ไม่ให้พบ แต่เขาไปพูดกับครูคนอื่น และฝ่ายประชาสัมพันธ์ แล้วก็ไม่ยอม ข่าวก็แพร่งพรายไปสื่อยังไงไม่ทราบทำให้ผู้ปกครองไม่สบายใจมาก เพราะไม่ต้องการให้เด็กมาเป็นเครื่องมือของฝ่ายที่จะมาป่วนเรา ผู้บริหารโรงเรียนก็บอกผมว่า สบายใจได้ ว่าเราไม่ยอมให้เด็กมาเป็นเครื่องมือของพวกป่วนใดๆทั้งสิ้น”แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว
นายพิภพ กล่าวว่า อีกเรื่องคือ มีการเสนอรูปแบบต่างๆ กับการชุมนุมของเรา คนที่เสนอหวังดีกับเรา เขารู้สึกว่าพลังพันธมิตรฯ เป็นพลังนอกสภา ของฝ่ายการเมืองภาคประชาชนพลังเดียว แล้วแบรนด์เนมสามารถเรียกประชาชนเข้ามาร่วมชุมนุมเพื่อตรวจสอบรัฐบาล เขาก็อยากจะรักษาพลังนี้ไว้ให้มีเครดิต เพราะหมดตรงนี้ไปไม่รู้ว่าใครจะมาเรียกประชาชนเมื่อรัฐบาลฉ้อโกง ใช้อำนาจเกินได้ เขาบอกว่ารักษาพลังนี้ไว้หน่อย และต้องทำความเข้าใจกับคนข้างนอก ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้มาชุมนุมว่าทำไมเราถึงอยู่ตรงนี้
นายพิภพ เผยด้วยว่า มีเพื่อนนักธุรกิจมาบอกว่าเพื่อนเขาบางคนตั้งคำถามว่า พันธมิตรฯได้คืบจะเอาศอก จึงได้ชี้แจงไปว่า แล้วเราได้อะไร เรายังไม่ได้อะไรเลย เรื่องถอนญัตติร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ถอน มีแต่ส.ว.ที่ถอนชื่อออกไป จนประธานสภาฯ บอกว่าให้ส่งมาใหม่เพราะเรื่องไม่ได้เข้าระเบียบเขาไม่ได้คิดถอนเลย เรื่องนายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีออก ก็เป็นเพียงหมากเล็กๆที่เดินเข้ามา แต่ดันไปทำเรื่องสำคัญเรื่องหมิ่นสถานบัน แล้วรัฐบาบไม่ทำอะไรเลย แล้วจะมาอ้างว่าเราได้ชัยชนะได้ยังไง เป้าเราไม่ได้อยู่ที่นายจักรภพ
ส่วนเรื่องนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เขาถามว่าเรามีความชอบธรรมที่จะไปไล่หรือ เพิ่งทำงานมา 3เดือน จึงได้บอกไปว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่นายสมัครระบุว่าจะไล่เราและแตกหักกับเรานั้น ถามว่าคนเป็นนายกฯพูดแบบนี้ได้หรือ นายสมัครหมดคุณสมบัติการเป็นนายกฯแล้วนะไม่มีนายกฯคนไหนในโลกนี้ที่จะมาปราบประชาชน เราจึงบอกว่าไล่สมัครไม่ได้เราก็ไม่เลิก เขาก็หาว่าเราได้คืบเอาศอก ได้เจ๊เพ็ญจะกินสมัครอีก
“ที่เรามาไล่สมัครไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัว แต่เพราะเขาแก้ปัญหาประเทศไม่ได้ ปัญหาเศรษฐกิจก็แก้ไม่เป็น อำนาจก็ไม่มี สั่งพรรคก็ไม่ได้ บอกว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญเพราะตัวเองไม่ได้เป็นเจ้าภาพ แต่เมื่อพรรคยื่นญัติติก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วความผิดทั้งหมดของสมัครคือเป็นนอมินีทักษิณ เพราะฉะนั้นจริงๆไม่ใช่เราได้คืบเอาศอก ได้ศอกเอาวา แต่เราจะเอาไปถึงทักษิณเลย”นายพิภพ ระบุ
นายพิภพ กล่าวว่า ทั้งหมดเราต้องการเวลา เวลาให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน แต่ก็ช้าเหลือเกิน ฉะนั้นพรุ่งนี้ต้องไปอัยการกันหน่อยแล้ว ว่าทำไมถึงช้าอย่างนี้ เขาทั้งหมดต้องการเวลา ที่คตส.ทำงานที่จะสิ้นมิ.ย.นี้ แล้วเอาไปส่งอัยการส่งศาล อัยการตรวจสอบสำนวนก็อย่าช้า อย่างไรก็ตาม ถ้าทักษิณไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่เลิก ถ้าทักษิณไม่ติดคุก ไม่เลิก นี่คือยุทธศาสตร์ใหญ่ข้างหน้า ถ้าไม่ผิดเลยเรายอม แต่เราเชื่อว่าผิด แต่ทักษิณต้องการเวลา เพราะไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเขาจึงใจเร็วเอาได้ เป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่จะแก้รัฐธรรมนูญเลย
นายพิภพ กล่าวด้วยว่า เป้าหมายใหญ่อยู่ทักษิณก็จริง ประเทศนี้ไม่เคยเอานายกฯที่ทุจริตคอรัปชั่น เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและให้ศาลตัดสินได้เหมือนประเทศอื่น เพราะฉะนั้นคราวนี้ถ้าเราทำสำเร็จ ไม่ใช่เรื่องแค่เอาคุณทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น เราจะทำให้ตุลาการมีอำนาจในการตรวจสอบนักการเมือง นำประเทศประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเข้าไปสู่ระบบนิติรัฐเสียทีใช่ไหม ถ้ากฎหมายไม่เป็นใหญ่ นักการเมืองก็โกงไปได้เรื่อยๆ ฉะนั้นเป้าหมายเราอยู่ตรงนั้นวันนี้จึงยังไม่ถึง ต้องไปให้ถึง