ผู้จัดการออนไลน์ - “สมศักดิ์” อัดกลับกลุ่มสีขาว ดีแต่พูด ไม่ยื่นมือมาช่วยและยังทำตัวเป็นพระเอก แบ่งแยกกลุ่มนั้นกลุ่มนี้เป็นสีเทา ส่วนตัวเป็นกลาง “สีขาว” ชี้ คนไทยต้องเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ควรร่วมกันเรียกร้องทรัพย์สมบัติของชาติกลับคืน พร้อมอัดกลับที่ห่วง หวังไม่ให้เกิดความรุนแรง กลุ่มพันธมิตรฯเคยทำหรือ ขณะที่ฟากโน้นขว้างปา ไม่มีโครออกมาตำหนิ หรือวิพากษ์วิจารณ์บ้าง
เมื่อเวลา 22.40 นายสมศักดิ์ โกศัยสุข 1 ในแกนนำกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนและประชาธิปไตย ขึ้นมากล่าวกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุม ว่า ในเรื่องเดียวกับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งได้กล่าวไปก่อนหน้า ถึงพวกกลุ่มนักวิชาการที่เรียกตัวเองว่า “สีขาว” ว่า ขณะนี้กลุ่มดังกล่าวได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์แกนชุมนุมของพวกเรา ซึ่งบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็นกลุ่มบุคคลระดับนักวิชาการ และอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ซึ่งเวลาพูดมักจะบอกว่าทั้ง 2 กลุ่มนี้ หมายถึง กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่ม นปก.ล้วนเป็นพวกสีเทา
แต่ในความจริงแล้ว คนกลุ่มสีขาวเหล่านี้ ทำตัวเหมือนเป็นตำรวจ ที่บอกได้เพียงว่าหวังว่าพันธมิตรฯจะไม่ใช้ความรุนแรง แต่ไม่รู้ว่าเห็นหรือไม่ หรือมัวแต่มองว่าทั้ง 2 กลุ่มเป็นปัญหา เหมือนนักมวยชกกัน และตนเองทำตัวเป็นกรรมการที่มีความยุติธรรม ลองย้อนไปดูตอนที่กลุ่มพันธมิตรฯทำการชุมนุมที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พวกเราชุมชุนโดยสันติ และเป็นงานสัมมนาเพื่อเพิ่มเติมความคิด แต่ฟากโน้น เขามาประท้วงเรา เขี้ยงขว้างสิ่งของต่างๆ มาโดน ไม่ว่าาจะเป็นลูกเด็กเล็กแดงก็ไม่เว้น พวกตำรวจก็ยืนเฉยทำเป็นไม่เห็น ทำไมตอนนี้กลุ่มสีขาวถึงไม่ออกมาโวยวาย หรือแถลงการว่าสิ่งที่เขาทำกัยเรานั้นไม่ใช่สิ่ง ดี เป็นสิ่งที่ผิด เป็นการใช้ความรุนแรง แล้วตอนนี้กลับมากังวลมาห่วงว่าพวกเราจะใช้ความรุนแรงแทน แล้วกลุ่มพันธมิตรเคยใช้ความรุนแรงหรือไม่
“ผมเคยชี้แจงในหลายๆเรื่องให้แก่พ่อแม่พี่น้องประชาชน ให้แก่เกษตรกร หรือแรงงาน ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจอะไรต่ออะไรได้ง่าย ไม่เหมือนนักวิชาการเหล่านี้ ที่แต่ละคนล้วนมีความรู้สูง เป็นด๊อกเตอร์กันทั้งนั้น แต่ทำไมถึงเข้าใจอะไรได้ยากเช่นนี้”
ทั้งนี้ อยากให้กลุ่มสีขาวเหล่านี้ เข้าใจในความเป็นจริงและจุดยืนของพันธมิตรประชาชน นั่นคือข้อแตกต่างว่าถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามกติกา เหมือนดังเช่นการที่ศาลสั่งยุบพรรคไทยรักไทย กกต.ติดคุก ข้อกล่าวหากทักษิณ ในเรื่องทรัพย์สินแผ่นดิน 2.3 แสนล้านบาท นั่นคือปัญหา อีกทั้งขณธนี้เรามีรัฐบาลหุ่นเชิด นั่นคือพรรคพลังประชาชน ที่ต้องการเข้ามาแก้กฏหมายเพื่อให้พวกพ้องของตนพ้นผิด จากข้อกล่าวหา และไม่ถูกยุบพรรค นั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
“ประชาชนคนนั่นเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่ทักษิณเอาไป สินทรัพย์สินนั้นเป็นของแผ่นดินเราต้องเอาคืน และจับคนที่กระทำความผิดมาขึ้นศาลให้ตัดสิน ถ้าหากศาลตัดสินใจว่ามีความผิดก็ติดคุกไป ส่วนถ้าไม่ผิดก็ไม่ต้องติดคุกก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่กลับมากล่าวหา และหวั่นเครงเพียงแต่ว่าเราจะใช้ความรุนแรง และที่ผ่านมาพี่น้องกลุ่มพันธมิตรกี่คนแล้วที่ถูกข้วางจนหัวแตกมาแล้วไม่รู้แก่รายล่ะ ปัญหาของเราไม่ใช่เราไม่รู้จักดีชั่ว ผิดชอบชัวดีเรารู้ดี แต่กลุ่มสีขาวแทนที่จะเข้ามาช่วยหรือร่วมมือกันนำทรัพย์สมบัติของชาติกลับคืนประชาชน กลับมาทำตัวอย่างนี้”
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประเทศที่จะเจริญขึ้นได้ ประชาชนต้องมองและให้ความสำคัญในเรื่องส่วนรวม ต้องไม่ยอมให้คนผิดลอยนวล ต้องจับคนผิดมาติดคุก เพราระถ้าทำได้จริง ต่อไปก็จะไม่มีนักการเมืองหน้าไหนกล้าเข้ามากองกินประเทศอีก เพราะส่วนมากนักการเมืองเหล่านี้มักจะลงทุนสูงเพื่อให้ได้มาซึ่งการเลือกตั้ง และจะถอนทุนคืนภายหลัง ดังนั้นสิ่งสำคัญอยู่ที่การแก้ตัวบุคคล ไม่ใช่กฎหมาย เพราะกฎหมายนี้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวบุคคลมากกว่า
“นายกฯสมัคร จะให้ตำรวจมาเจรจรากับเรา ว่าเราต้องการอะไร ง่ายๆ ครับ ก็ให้พรรคพลังประชาชนออกไปนั่นเอง รวมถึงตัวนายกฯด้วย แต่ไม่ใช่เอาคนอื่นมาสวมแทนอีก รวมทั้งต้องไม่มีการแก้รัฐธรรมนูญ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ถ้าเป็นคนดีต้องไม่กลัวความจริง ต้องไม่กลัวขบวนการยุติธรรม ดังนั้นคนไทยต้องเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ถ้ามัวแต่เห็นแก่ส่วนตัวแล้ว บ้านเมืองอยู่ไม่ได้”
แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวถึงกลุ่มสีขาวต่อว่า พอทุกคนเรื่องเข้าใจจุดมุ่งหมายของเรา พวกสีขาวนี้กลับทำไม่รู้เรื่อง และกลับพาสื่อไปสัมภาณ์เด็กว่า การประชุมนี้เดือดล้วนไหม ทำไมไม่บอกเด็กไปว่าเขามาชุนนุมกันเพราะอะไร ทำไม่ไม่บอกเหตุผลที่แท้จริง ซึ่งผมเชื่อว่าเด็กก็อยากจะตอบว่าขอมาร่วมด้วย ดังนั้นเราต้องเอาความจริงมาพูดกัน เราต้องทำความจริงให้ปรากฏ ทุกวันนี้เราบ้านเมืองเรามีปัญญหาในเรื่อง จริยธรรม และ คุณธรรม คอร์รัปชัน ดังนั้น ถ้ากลุ่มสีขาวดีจริง ต้องไม่ขี้ขลาดทำเป็นไม่รู้เห็นอะไร ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย
