พันธมิตรฯปรับกลยุทธ์สู้มาร แนะ ตร.เปิดจราจรเลียบคลองผดุงฯ

พันธมิตรฯปรับกลยุทธ์สู้มาร ส่งแกนนำเคลียร์ถึงตัวผู้ที่อยู่อาศัยบริเวณใกล้เคียงสถานชุมนุม เริ่มจากโรงเรียนวัดมกุฏฯ ชี้แจงความจำเป็นเรื่องปิดกั้นจราจร เพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน แนะ ตร.เปิดช่องถนนเลียบคลองผดุงฯเพื่อระบายจราจร ส่วนบนเวทีก็มีการปรับวิธีการให้ความรู้มากขึ้น โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง เพื่อรู้เท่าทัน “ระบอบทักษิณ”

วันนี้(3 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวาน เมื่อเวลา 17.00 น.นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงถึงเรื่องปัญหาจราจร ว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้ทดลองเปิดเป็น 2 ช่วง ซึ่งในช่วงเย็นได้เกิดปัญหาขึ้น โดยมีผู้ไม่ประะสงค์ดีสอดแทรกเข้ามา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ได้กว่า 20 คน พร้อมกับอาวุธ

ดังนั้น ทางกลุ่มพันธมิตรฯ เกรงว่า อาจจะเกิดอันตรายต่อแกนนำและผู้ร่วมชุมนุมได้ เพราะเรื่องความปลอดภัยนั้น เราจะต้องมั่นใจ ดังนั้น ในช่วงเช้าของวันนี้ นายพิภพ ธงไชย แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ไปพบกับผู้อำนวยการโรงเรียน โดยมีการประสานเพื่อขอยืดหยุ่นให้เปิดการจราจรในช่วงเย็นจนถึง 5 โมงเย็น แล้วจากนั้นจะปิดการจราจร เพื่อเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้

อย่างไรก็ตาม ตนจะประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอให้เปิดถนนบริเวณเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือปัญหาการจราจรติดขัดได้มาก และทางโรงเรียนก็เห็นด้วย เพราะเจ้าหน้าที่เพียงแค่ขยับรถและเต็นท์ของเจ้าหน้าที่เท่านั้น

สำหรับกรณีของกลุ่มริบบิ้นสีขาว ที่อ้างว่า อยากบ้านเมืองสงบนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า อยากฝากว่า ไม่ต้องกังวลใจกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะจากวันนี้ไปการปราศรัยบนเวทีจะเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดความรุนแรง พร้อมกับแนะนำให้นำริบบิ้นไปติดให้กับ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี นำเสื้อยืดสีขาวไปมอบให้ตำรวจ และสื่อสารไปยังกลุ่ม นปก.จะเป็นประโยชน์มากกว่า

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์สามช่วง โดยในช่วงที่หนึ่ง ตั้งแต่เวลา 19.00-20.00 น.จะเป็นช่วงเสวนาวิชาการ โดยในวันนี้จะเป็นหัวข้อการขายรัฐวิสาหกิจ กับผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งจะมีตัวแทนสหภาพรัฐวิสาหกิจขึ้นเวทีด้วย จากนั้นช่วงสองตั้งแต่เวลา 20.30-21.30 น.แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯจะขึ้นปราศรัยบนเวที และในเวลา 03.30-05.00 น.จะเป็นการเสวนาเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เศรษฐกิจทรุดจริงหรือ โดยมีการเชิญนักวิชาการมาด้วยหลายท่าน

ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้กลุ่มพันธมิตรฯเจรจากับรัฐบาล เพื่อหาทางออกในการสลายการชุมนุม นายสุริยะใส กล่าวว่า จุดยืนของเรา คือ ไม่ไว้ใจรัฐบาลชุดนี้ เพราะรัฐบาลของ พปช. ไม่สามารถนำพาชาติพ้นวิกฤตได้ ร่วมทั้งไม่แน่ใจว่าหากไม่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯแล้ว เศรษฐกิจจะดีขึ้นจริงหรือไม่ สำหรับเรื่องแนวคิดรัฐบาลแห่งชาตินั้น ตนมองว่า เป็นเรื่องยาก และเชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็คงจะไม่เห็นด้วย รัฐบาลภายใต้การนำของ พปช.ถือว่าหมดความชอบธรรมไปแล้ว

สำหรับกรณีที่มีการมองว่าผู้มาร่วมชุมนุมน้อยลงนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ยังไม่เป็นปัญหาถึงขั้นทบทวนเพื่อยุติการชุมนุม อย่างไรก็ตาม กลุ่มพันธมิตรฯมีการประชุมกันภายในช่วงบ่ายของทุกวันอยู่แล้ว สำหรับการเจรจากับ ผบ.ตร.นั้น ถ้าหากเป็นการเจจาเพื่อย้ายที่ชุมนุม เราจะไม่เจรจา เราจะปักหลักชุมนุมกันอย่างสันติที่นี่ เหมือนเป็นโรงเรียนการเมือง เป็นมหาวิทยาลัยราชดำเนิน ที่เปิดสอนวิชาการเมืองให้ประชาชน

ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มพันธมิตรฯชุมนุมเพื่อรอให้รัฐบาลพลาดนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า แล้วแต่หลักวิเคราะห์ของใคร แต่เหตุผลของเรา คือ ยังมีน้ำหนักเพียงพอให้คนมาชุมนุมได้อยู่ ยังไม่เป็นปัญหาถึงขนาดต้องถอยกลับบ้าน แต่เราจะต้องมีการประเมินวันต่อวัน

ส่วนกรณีที นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้หารือกับทางสภา เพื่อตั้งกรรมาธิการร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า ส่วนตัวแม้จะชื่นชม นายอภิสิทธิ์ แต่ก็รู้สึกอดห่วงไม่ได้ว่าจะเป็นแผน ลับ ลวง พราง ต่อพรรคพลังประชาชน ที่จะเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญต่อหรือไม่

ส่วนกรณีที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปยื่นต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรฯตามมาตรา 68 นั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า นายชูศักดิ์ ถือเป็นมือกฎหมายของรัฐบาลจะต้องระวังในการแสดงความไม่รู้ออกมา กลุ่มพันธมิตรฯเป็นฝ่ายพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ล้มล้างรัฐธรรมนูญ การแก้รัฐธรรมนูญของ พปช.ต่างหากเพื่อจะล้มล้างรัฐธรรมนูญ พร้อมยืนยันการชุมนุมของประชาชนเป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญ