ผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ย้ำชัด พันธมิตรฯ มีสิทธิอันชอบธรรมในการชุมนุมโดยสันติ ไม่มีเหตุผลที่รัฐบาลจะสลายการชุมนุม แนะ “พลังแม้ว” เลิกสร้างเงื่อนไข ตะแบงแก้ รธน.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในข่าวค่ำ ทางสถานีโทรทัศน์ ไทยพีบีเอส ถึงกรณีกระแสข่าวรัฐบาลจะทำการ สลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่า ตนมีความคิดว่า ณ วันนี้ตนเห็นว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ยังดำเนินการชุมนุมไปอย่างสงบ คงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเป็นเงื่อนไขถึงขั้นไปสลายการชุมนุม แต่หากจะมีการสลายการชุมนุมจริง ตนก็เป็นห่วงว่าจะเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นมาในบ้านเมือง
ส่วนกรณีที่ทางรัฐบาลกล่าวว่า ทางพันธมิตรฯ ไม่ได้ชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ เพราะในกลุ่มผู้ชุมนุมจะเห็นได้ว่ามีทั้งไม้เบสบอล ไม้กระบอง หรือเหล็กนั้น ตนมองว่าหากใครติดตามข่าวสารมาโดยตลอดจะเห็นได้ว่าในวันแรกของการชุมนุม มีกลุ่มคนที่ต่อต้านพันธมิตรฯ มาทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งก็มีการต่อว่าต่อขานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ ทางพันธมิตรฯ จึงต้องหาสิ่งของเช่น ไม้เบสบอล และหมวกกันน็อคมาเป็นเครื่องป้องกันตัวเท่านั้น
ต่อคำถามว่า การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ตอนนี้ยังอยู่ในขอบเขตของกฎหมายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าตนก็ยังเห็นว่าพันธมิตรฯ ไม่ได้มีการชุมนุมเกินเลยไปจากขอบเขตกฎหมาย ซึ่งทางพันธมิตรฯ เองก็ยืนยันว่าจะมีการชุมนุมโดยสันติไม่ได้คิดและไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งทางรัฐบาลก็ควรที่จะดูช่วยแลความเรียบร้อยมากกว่า เพราะสิทธิการชุมนุมนั้นก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ในเมื่อร่างแก้ไข รธน. ตกไปแล้วแต่พันธมิตรฯ ก็ยังไม่ยุติการชุมนุมนั้น นายอภิสิทธิ์มองว่า ทางพันธมิตรฯ ยังมีความชอบธรรมในการชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตัดสินได้ว่าการชุมนุมมีความชอบธรรมหรือไม่ แต่ตนคิดว่าตราบใดที่การชุมนุมยังไม่เลยขอบเขตกฎหมายก็ยังสามารถทำได้ และหากพูดด้วยความเป็นธรรมแล้ว จะเห็นว่าแท้จริงแล้วสัญญาณที่ส่งออกมาจากพรรคพลังประชาชนเมื่อวานนี้ที่ สส. ของพรรคพลังประชาชน ออกมาระบุเองว่าจะเร่งรวบรวมรายชื่อเพื่อแก้ไข รธน. ก่อนเปิดประชุมสมัยสภาฯ ในวันที่ 9 มิ.ย.ให้ได้นั้น เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลไม่ได้ลดเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งลงไปเลย ซึ่งตนก็ตั้งข้อสังเกตและยืนยันมาตลอดว่า ทำไมจึงไม่ปลดชนวนตรงนี้ออกไป เพราะถ้าปลดชนวนเรื่องนี้ออกไปแล้วแต่ทางพันธมิตรฯ ยังชุมนุมต่อไป ประชาชนส่วนใหญ่ก็จะรู้เองว่าไม่สมเหตุสมผลที่จะชุมนุม ซึ่งตนเชื่อก็เชื่อว่าหากเป็นเช่นนั้นการชุมนุมก็คงทำต่อไปไม่ได้อยู่ดี
