"สนธิ ลิ้มทองกุล"แนะภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างความยุติธรรมให้คนทุกชนชั้น จะมานั่งเพียงเพราะจะโค้นระบอบทักษิณเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ย้ำคนทำผิดต่อชาติบ้านเมืองต้องรับโทษทัณฑ์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปราศรัยบนเวทีชั่วคราว บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมาว่า ที่ชีวิตเราลำบากยากเย็นอยู่อย่างนี้ เพราะความเป็นอยู่ของคนไทยกำลังเปลี่ยนแปลงไป คนเราแสงหาสิ่งที่อยู่นอกเหนือปัจจัย 4 ให้กับชีวิต เงินเดือนค่ารองชีพไม่เพียงต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
สมัยนี้ของมันแพงขึ้น ข้าวแกง 20 บาท 25 บาทแทบไม่มีเหลือ จะมีแต่ 30 บาท 35 บาท เคยใช้เงินประมาณ 100 บาท เพื่อกินข้าววันนึง เดี๋ยวนี้ต้องเพิ่มเป็น 130 บาท 120 บาท แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร นี่คือความผิดปกติทางเศรษฐกิจในสังคมไทย ที่แตกตต่างจากอดีตที่พ่อแม่มักจะพร่ำสอนอยู่เสมอให้รู้จักเก็บรู้จักออม
ที่มานั่งอยู่กันวันนี้ ไม่ใช่มานั่งเพียงเพราะต้องการจะโค่นระบอบทักษิณอย่างเดียว ต้องมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยด้วย ไม่ใช่ไล่ระบอบทักษิณไประบอบอะไรมาได้ ต้องสร้างความยุติธรรมให้กับคนทุกๆ ชนชั้น ให้คนจนอยู่ได้ ให้ชนชั้นกลางอยู่ได้ ให้พ่อค้าแม่ค้าอยู่ได้ด้วยตัวเอง แล้วมีสิทธิ์เจริญเติบโตต่อไปได้
หลายปีมาแล้วที่เราลุกขึ้นมาสู้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เราสู้ด้วยอารมณ์ เพราะต้องการไล่พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไป วันนี้มาสู้ พ.ต.ท ทักษิณ อีกครั้งหนึ่ง แต่มาสู้ในการมีส่วนร่วม ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่ต้องการเพียงแค่ไล่ออกไปอย่างเดียว ต้องการเอาประเทศไทยของเราคืนมา
มันน่าเสียดายสมัย 14 ตุลาฯ คนหนุ่มคนสาวต่อสู้เพื่อเสรีภาพ กลับไปที่บ้าน ไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง ไปสู้เรื่องนี้ๆ มา 14 ตุลาฯ แต่มาวันนี้ วันที่ 30 พฤษภาคม กลายเป็นประชาชนต้องมาสู้ แล้วกลับไปเล่าให้ลูกที่เพิ่งจะไปเชียร์นักร้องเกาหลีมาฟัง ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นจากอิทธิพลต่างๆ ของสื่อมวลชน ของโทรทัศน์ ดังนั้นการที่ลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพ่อแม่ พ่อแม่ต้องใช้เวลาเรียยรู้อยู่กับลูกมากขึ้น
วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย ทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นแล้วการรู้จักตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ต้องอายใคร ตนไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไรมากกว่า เป็นเพียงแต่ว่า แค้นใจที่ทำไมมีคนมาทำกับชาติบ้านเมืองมากถึงขนาดนี้ แค้นจนต้องสู้ ต้องกล้า อาจจะเป็นเพราะว่าตัวเองอายุมากแล้ว ก็เลยหวังว่าการสู้ครั้งนี้จะเป็นการสู้ครั้งสุดท้าย
และเมื่อสู้ชนะแล้ว อย่าหวังเพียงชนะเฉพาะศึกนี้ ศึกนี้เป็นเพียงศึกเริ่มต้น ศึกต่อไปคือเราจะร่วมกันอย่างไรต่อไปในอนาคตข้างหน้าเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย เพื่อเอาประเทศไทยของเราคืนมา ทำประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ มีจริยธรรม มีคุณธรรม มีศีลธรรม มีสัมมาคารวะ มีความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน มีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
ทำอย่างไรที่จะทำให้คนไทยพูดภาษาไทยด้วยการให้รู้เรื่อง ทำอย่างไรจะทำให้คนไทยรู้จักว่าไอ้นี่ผิด ไอ้นี่ถูก ไอ้นี่ผิดจะเอาผิดมาเป็นถูกไม่ได้ จะเอาคนสองคนมาสมานฉันท์ คนนึงชั่วคนนึงดีมาสมานฉันท์กันไม่ได้ ให้อภัยได้ไม่ว่ากันถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว ขอยืมเงินไปแล้วก็เบี้ยวหนีหายหน้าเราไป 1 ปี 2 ปี แล้วมาเจอหน้าอีกทีมาไหว้ บอกถึงสาเหตุก็ให้อภัยกันได้
แต่สิ่งที่ให้อภัยไม่ได้ในวันนี้ คือ คนที่ทำกับชาติบ้านเมือง มันเป็นเรื่องของชาติ ไม่ใช่เรื่องของตัวเรา จะให้อภัยเรื่องชาติบ้านเมืองไม่ได้ ความผิดอะไรที่ผิดกับชาติบ้านเมืองก็ต้องรับโทษรับทัณฑ์ไป เรื่องชาติบ้านเมือง ลืมไม่ได้ อภัยไม่ได้ เราต้องมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วย