“พิภพ” ชี้ถอนญัตติ - “เพ็ญ” ลาออก แค่แผนตบตา

“พิภพ” เผยหมดเวลาเจรจา ขณะไปยื่นรายชื่อถอดถอนมีเหล่า ส.ว.มาต่อรอง หากถอนชื่อจากญัตติแล้ว ขอให้เลิกถอดถอน เน้นจุดยืนการชุมนุม ไม่ใช่แค่ถอนญัตติ-เพ็ญลาออก จะหมดปัญหา เพราะเป็นแค่ละครตบตา แฉยุทธศาสตร์หลัก “ทักษิณ” ต้องการฮุบประเทศ ผ่านรัฐบาลนอมินี ย้ำเศรษฐกิจย่ำแย่ หาใช่พันธมิตรฯ เป็นเหตุ แต่เพราะรัฐบาลแก้ไม่เป็น

เมื่อเวลา 23.55 น.ของวันที่ 30 พ.ค. นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในห้าแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก โดยเล่าเหตุการณ์ช่วงเช้าที่เป็นตัวแทนพร้อมด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข นำรายชื่อประชาชนจำนวน 28,549 รายชื่อ ยื่นต่อนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เพื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ออกจากตำแหน่ง ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณียื่นญัตติเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 เนื่องจากเห็นว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องและอดีตนายกรัฐมนตรี ให้แก่ผู้มาชุมนุมฟัง

“เมื่อเช้าขณะที่รอ ตอนนำรายชื่อไปยื่น พวก ส.ว.ที่ลงชื่อยื่นญัตติก็เดินเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ขอเจรจาว่าถ้าพวกเขาถอนชื่อออกจากญัตติ พวกเราจะถอนรายชื่อหรือไม่”

“ไม่มีการเจรจา” นายพิภพ กล่าว พร้อมทั้งระบุว่าถ้าอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ทำไป แต่พวกเรามีหน้าที่ถอดถอนก็ทำไป

อีกทั้งเมื่อคืนวันที่ 29 พ.ค. ที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ให้ข่าวว่า ที่พันธมิตรฯ ออกมาชุมนุมเพราะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรื่องนายจักรภพ เพ็ญแข

“ดังนั้น การคิดว่าให้คุณเพ็ญลาออกจะเป็นการถอยสุดๆ และคิดว่าจะไม่มีใครมาชุมนุมวันนี้ แต่ไม้เป็นความจริง เรารู้ข่าวคุณจักรภพจะลาออกตั้งแต่เมื่อคืน เรารู้ข่าวก่อนหน้านี้ว่า ส.ว. จะถอนชื่อเสนอญัตติ แต่เราก็มา เพราะเป็นการถอยทางยุทธวิธี”

“เพราะต้องการจัดการไม้ให้คุณทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อยากให้คุณทักษิณกลับมามีอำนาจอีก นี่คือเป้าหมายสำคัญ และนี่ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ” นายพิภพกล่าว

อีกทั้งเขาเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าได้รับโทรศัพท์จากผู้หลักผู้ใหญ่หลายราย ทั้งสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ว่าเมื่อเขาถอนแล้ว และคุณจักรภพลาออกแล้ว ทำไมเราไม่หยุด

“ตอนนี้เราจะเข้าใจ มาตรา 237 ถ้าสมาชิกพรรคให้ทำผิดกฎหมาย จนเป็นเหตุให้ใบแดง ถ้าพรรครู้เห็นก็จะโดนด้วย แต่ถ้ากรรมการ บริหารพรรคทำผิด แม้พรรคจะไม่รู้เห็น ก็ต้องรับผิดชอบ ดังนั้นการที่คุณสมัครปล่อยใหมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปล่อยให้คุณจักรภพทำผิด แต่ไม่เคยมีท่าทีใดๆ กลับปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมทำงานไป ในฐานะนายกรัฐมนตรี เมื่อคุณสมัครไม่ให้ออก ก็ต้องรับผิดชอบ”

“คุณจักรภพจะลาออก แต่ความรับผิดชอบ ยังตกอยู่ที่รัฐมนตรี อยู่ที่รัฐบาล เมื่อเขาไม่ลาออก เราก็ต้องชุมนุมต่อ เราต้องกดดันให้เขาลาออก” นายพิภพย้ำ

นอกจากนี้ นายพิภพยังชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องการจะยึดอำนาจอธิปไตยทั้ง 3 ด้าน คือฝ่ายตุลาการ บริหาร และนิติบัญญัติ ซึ่งอำนาจบริหารและนิติบัญญัตินั้น พ.ต.ท.ทักษิณ สามารถยึดไปได้แล้ว โดยพรรคนอมินีจะยึดประเทศ

“เพราะยุทธศาสตร์ของคุณทักษิณคือจะยึดประเทศไทย แต่ทำไม่สำเร็จในสมัยเป็นรัฐบาลเอง ตอนนี้เลยใช้ยุทธวิธีกลับมาสู่อำนาจอีก ผ่านรัฐบาลชุดนี้” นายพิภพ กล่าว และชี้ว่าการถอยของฝ่ายรัฐบาลสุดท้ายกลายเป็นละครหลอกเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอบอกจะถอนญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตกเย็นพรรคพลังประชาชนบอกว่าจะยื่นใหม่

“ขณะที่เรากำลังไล่สมัคร หรือจักรภพก็ดี ปัญหาข้าวยากหมากแพงที่กำลังเผชิญอยู่ ตอนนี้เราไม่เห็นรัฐบาล จะสามารถแก้ไขปัญหาข้าวยากหมากแพง เรื่องพลังงาน เรื่องความยากจน คณะรัฐมนตรี มีความสามารถไหม นี่เป็นเหตุผลจำเป็นที่เราจะต้องไล่รัฐบาล”

“เพาะฉะนั้น เราเห็นว่าถ้าคุณทักษิณไม่ออกจากการเมือง ไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ยุทธศาสตร์การยึดประเทศก็ยังคงเดินทางต่อไป”

นอกจากนี้ นายพิภพยังชี้ว่าการเชิญเศรษฐีชาวซาอุดีอาระเบีย มาดูการผลิตข้าวไทย เพื่อให้ซื้อข้าว ถามหน่อยว่าเราใช้น้ำมันของซาอุ แล้วเขาเคยเชิญเราไปดูบ่อน้ำมันหรือไม่

“เราไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ แต่เรามีปัญหาว่าจะจัดการน้ำอย่างไร อย่ามาหลอกกันเลยว่า เอาเศรษฐีซาอุฯ-ดูไบมาแล้ว เขาจะไม่ซื้อที่ของเราเลย แหล่งอาหารที่จะถูกแย่งไป เราชาวนาไทยจะไปอยู่ที่ไหน เป็นยุทธศาสตร์ที่จะนำต่างชาติเข้ามาซื้อแผ่นดินไทย”

อย่างไรก็ดี นายพิภพย้ำว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ทำไมพันธมิตรฯ ต้องชุมนุมต่อ เพราะยุทธศาสตร์หลักของคุณทักษิณ ยังไม่เปลี่ยน แต่ยุทธวิธีจะเปลี่ยนไปตามที่ถูกกดดัน ถ้าการชุมนุมไม่ต่อเนื่อง ก็จะแพ้ยุทธวิธี

“เขาต้องการควบคุม อำนาจอธิปไตย ในทางกองกำลังเขาควบคุมตำรวจได้แล้ว ถ้าเขากลับมาครองประเทศไทย เขาก็จะยึดกองทัพอีก แล้วอะไรจะเกิดขึ้น”

“ยุทธศาสตร์หลักของเราก็คือ ทักษิณเกตเอาต์ ถ้าทำไม่สำเร็จ เราจะกลายเป็นทาสของทักษิณ ทั้งประเทศ” นายพิภพกล่าว และทิ้งท้ายว่า เศรษฐกิจที่กำลังทรุดหนักตอนนี้ ไม่ใช่เพราะพันธมิตรฯ แต่เป็นเพราะรัฐบาลไม่มีฝีมือ ดังนั้นเราควรไล่สมัคร และทักษิณออกไป

รายละเอียด พิภพ ธงไชย

สวัสดีครับ พ่อแม่พี่น้องที่เคารพรักครับ เมื่อเช้าผมกับคุณสมศักดิ์ โกศัยสุข คุณไชยวัฒน์ คุณสุริยะใส คุณอมร ได้ไปที่รัฐสภา เพื่อเอารายชื่อ 3 หมื่นกว่ารายชื่อ ที่เรายื่นถอดถอนบุคคลที่เข้าชื่อกันแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าผิดกฎหมายอย่างไรบ้าง ขณะที่รอประธานวุฒิสมาชิก ส.ว.ที่ลงชื่อก็เดินเข้ามาอย่างไม่มีปี่มีคุย บอกว่าขอเจรจา ถ้าเขาจะถอนรายชื่อ เราจะยกเลิกการยื่นถอดถอนหรือไม่ ผมกับคุณไชยวัฒน์ก็บอกสวนไปทันทีว่า ไม่มีการเจรจา วันนี้ไม่ใช่เวทีเจรจาครับ คุณมีหน้าที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ คุณก็ทำไป เรามีหน้าที่ เห็นว่าคุณทำผิดรัฐธรรมนูญ เราก็จะขอเข้าชื่อกันยื่นถอดถอน ใช่ไหมครับ เขาหน้าบึ้ง กลับออกไปทันที

เมื่อคืนนี้ ผมฟังเพลตข่าว sms ว่าคุณจตุพร พรหมพันธุ์ คุณตู่ รู้จักใช่ไหมครับ คุณจตุพร พรหมพันธุ์ บอกว่าจะจัดการพันธมิตรฯ และการชุมนุมพันธมิตรฯ จะต้องดึงประเด็นที่เป็นจุดที่มารวมตัว ซึ่งเขาคิดว่า 2 เรื่อง คือเรื่องการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับเรื่องคุณเพ็ญ วันนี้เขาเขียนไว้ไม่ให้พูดคำหยาบ เพราะว่าผู้ชมทางเอเอสทีวีเขาไม่ได้อยู่ในบรรยากาศแบบเรา ซึ่งสนุก ครึกครื้น แต่ก็มีหน้าที่จะต้องให้พวกเราครึกครื้นด้วย

เขาคิดว่า 2 เรื่อง แล้วในทางยุทธศาสตร์ ในทางยุทธวิธี ในทางยุทธวิธีเขาบอกให้ถอยให้สุด นี่ฝ่ายรัฐบาลเขาคิด นั่นก็คือเอาเรื่องเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญถอนออก และให้คุณเพ็ญลาออก เขาคิดว่าอันนี้เป็นการถอยสุดๆ แล้วจะทำให้ไม่มีคนมาชุมนุมในวันนี้ เพราะว่าได้ถอยทางยุทธวิธี นี่พูดภาษาการกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี แต่ปรากฏไม่เป็นความจริงใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง เรารู้ข่าวตั้งแต่เมื่อคืน จนกระทั่งเมื่อเช้าว่าจะมีการแถลงข่าวของจักรภพว่าลาออก เรารู้ข่าวว่าเขาจะถอนชื่อไม่ลงแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนกระทั่งไม่มีผล แต่เราก็มาใช่ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง (ใช่) เพราะเรารู้ว่านี่เป็นการถอยทางยุทธวิธี ไม่ได้ถอยทางยุทธศาสตร์

ทางยุทธศาสตร์คืออะไร ทางยุทธศาสตร์ก็คือ เขาต้องจัดการไม่ให้คุณทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เขาต้องการจัดให้คุณทักษิณกลับมามีอำนาจอีก นี่คือยุทธศาสตร์ คือเป้าหมายใหญ่ และคุณทักษิณ ก็อยู่ข้างหลังยุทธศาสตร์นี้ว่าทำอย่างไรจะกลับมาอีก และอย่างที่ผมเรียนพ่อแม่พี่น้องว่าคนที่เคยทำงานกับคุณทักษิณ ยืนยันกับผมว่า ไม่หยุดความรวย เพราะฉะนั้นเมื่อเขาจะไม่หยุดความรวย สิ่งเดียวความรวยของเขาขึ้นอยู่กับการอยู่ในอำนาจรัฐ เขาจะต้องกลับมาอยู่ในอำนาจรัฐให้ได้ อันนี้คือยุทธศาสตร์ใหญ่ เพราะฉะนั้นวันนี้ตอนเช้า สายเป็นต้นมา ตนได้รับโทรศัพท์มากว่าพี่ ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่บอกมาว่า เมื่อเขาถอนการเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจักรภพ เพ็ญแข ลาออกแล้ว เราทำไมจึงไม่หยุดการชุมนุม ถามกันมาก นักธุรกิจ

“ผมเป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติถามเรื่องนี้ ผมบอก ตอนนี้แหละ ท่านจะเข้าใจมาตรา 237 บอกว่า ถ้าลูกพรรคไปทำผิดกฎหมาย จนมีเหตุทำให้ได้ใบแดงคือไปซื้อสิทธิ์ขายเสียง ถ้ากรรมการบริหารพรรคไม่ได้รู้เห็นด้วย ลูกพรรคคนนั้นก็ได้ใบแดง หลุดจาก ส.ส. แต่ถ้ากรรมการบริหารพรรคไปทำผิด แล้วได้ใบแดง แต่กรรมการบริหารคนอื่นๆ อาจจะไม่ได้รับรู้ กฎหมายบอกว่าคุณไม่ได้ทำผิด แต่คุณต้องรับผิดชอบ อันนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่ที่รัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ปล่อยให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และปล่อยให้คุณจักรภพ เพ็ญแข ซึ่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลได้กระทำประพฤติมิชอบอย่างที่เราทราบกันอยู่แล้ว”

ในเรื่องการจาบจ้วงสถาบันสูงสุด คุณสมัคร เคยมีท่าทีอะไรกับคุณจักรภพหรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง เคยมีไหมครับ ไม่เคยมีท่าทีใดๆ กลับโยนเรื่องมาให้กระบวนการยุติธรรมทำงาน และตำรวจทำงานไป ผมถามหน่อยว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรี คุณสมัคร เมื่อเห็นว่า รัฐมนตรีร่วมคณะทำผิดต่อคำปฏิญาณ ควรให้ออกทันทีเลยใช่ไหมครับพ่อแม่พี่น้อง เมื่อคุณสมัครไม่ให้ออก คุณสมัครก็ตอ้งรับผิดชอบใช่ไหม นี่แหละเป็นเหตุผลที่ว่า ถึงคุณจักรภพ จะลาออกแต่ความรับผิดชอบยอมตกอยู่กับนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออกใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง เมื่อเขาไม่ลาออกเราก็ต้องชุมนุมต่อ เพื่อกดดันให้เขาลาออกใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง

ในเรื่องรัฐธรรมนูญก็เช่นเดียวกัน เราก็เห็นแล้วที่ผมมาบรรยายให้ฟังตอนที่เสียงยังดีอยู่ ว่าคราวนี้การยึดอำนาจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญคราวนี้เป็นการยึดอำนาจรัฐโดยเบ็ดเสร็จใช่ไหมพ่อแม่พี่น้อง อำนาจอธิปไตยในรัฐธรรมนูญมี 3 อำนาจ อำนาจตุลาการ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร คุณทักษิณ ยึดไป 2 อำนาจแล้วใช่หรือเปล่า คือบริหาร และนิติบัญญัติ การแก้รัฐธรรมนูญคราวนี้ไม่ใช่อยู่ที่มาตรา 237 ไม่ใช่อยู่ที่มาตรา 309 แต่อยู่มาตราสำคัญๆ ที่เกี่ยวข้องกับตุลาการ เพราะฉะนั้นการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ถ้าสำเร็จ คุณทักษิณโดยพรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินีจะยึดประเทศเลยใช่หรือเปล่าครับ ถ้ายึดอำนาจ 3 อำนาจนี้ได้ ไม่มีอะไรเหลือแล้วครับ อันนี่เป็นประเด็นที่เราจะต้องทำต่อ เพราะเรารู้ว่ายุทธศาสตร์ของคุณทักษิณก็คือจะยึดประเทศไทย ซึ่งทำไม่สำเร็จมาในสมัยที่เป็นรัฐบาลพรรคไทยรักไทย อันนี้เป็นเหตุผลที่เราจึงต้องไล่คนที่อยู่เบื้องหลังพรรคพลังประชาชน ที่เป็นคนกุมยุทธศาสตร์หลัก แล้วใช้ยุทธวิธีขับเคลื่อน เพื่อที่จะกลับเข้ามาสู่อำนาจอีก นี่เป็นประเด็นที่เราจะต้องไล่รัฐบาลชุดนี้

อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมาก คนบอกว่า ขณะที่เรากำลังไล่ในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ดี ในเรื่องคุณจักรภพ ก็ดี ปัญหาข้าวยากหมากแพงเต็มไปหมด คนอาจจะเบื่อ ถ้าเรายังเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาล ผมถามพ่อแม่พี่น้องดูว่า รัฐบาลชุดนี้ตั้งคณะรัฐมนตรีมามีความสามารถที่จะแก้ไขข้าวยากหมากแพงหรือเปล่าครับพ่อแม่พี่น้อง ไม่มีชัดเจน ยา พวกหมอเพื่อนผมที่นั่งอยู่ข้างหลัง ต่อสู้เพื่อยกสิทธิบัตรให้ยาถูกลง รัฐมนตรีไชยากลับมายกเลิกซีแอล ใช่หรือเปล่าครับ นี่ก็เห็นชัดเจน เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า การวางตำแหน่งรัฐมนตรีต่างๆ โดยอาสาว่าจะมาแก้ไขข้าวยากหมากแพง เรื่องพลังงาน เรื่องความยากจน เรื่องหนี้สิน ถามหน่อยว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้มีความสามารถหรือเปล่าครับพ่อแม่พี่น้อง นี่แหละครับจึงมีเหตุผลว่า เราจำเป็นต้องไล่รัฐบาล ไม่ใช่เรื่องการถอนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสุดท้ายเป็นละครหลอกเด็กใช่หรือเปล่าครับ พอบอกว่าจะถอนเข้าชื่อ ตอนเย็นพรรคพลังประชาชนมีมติว่า ให้ยื่นใหม่ใช่หรือเปล่าพ่อแม่พี่น้อง

เพราะฉะนั้น เกมนี้เล่นไม่เลิกครับ เพราะยุทธศาสตร์หลักที่เขาต้องการเข้ามามีอำนาจ รวยขึ้น ยังเป็นยุทธศาสตร์หลัก และต้องการให้พ้นจากการขึ้นศาล ยังเป็นยุทธศาสตร์หลัก เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นว่า ถ้าคุณทักษิณไม่ออกจากการเมือง และไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เราจะไม่เลิกใช่หรือเปล่าครับพ่อแม่พี่น้อง เพราะเขายังกุมยุทธศาสตร์หลักในการยึดประเทศไทยอยู่ อันนี้ และยุทธศาสตร์หลักที่ยึดประเทศไทยนั้น การตั้งรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ก็ตั้งรัฐมนตรีที่แก้ไขปัญหาความยากจนไม่ได้ แถมยังมีการเชื้อเชิญให้แขกซาอุฯ มาดูข้าวการผลิตข้าว โดยหวังว่าจะมีการลงทุนถามหน่อยเหอะว่า เราใช้น้ำมันของพวกซาอุฯ เขาเคยเชิญเราไปดูบ่อน้ำมันหรือเปล่า ไม่เคย เพราะฉะนั้นที่อ้างว่า มาดูการผลิตข้าวไทยนั้น

ผมคิดว่าเป็นกลลวง ต้องการให้แขกซาอุฯ เอาเงินมาซื้อไร่นาของชาวไทย ซึ่งตอนนี้ซีพีซื้อไปแล้วกว่า 1 ล้านกว่าไร่ เพราะเขารู้ที่ผมเคยบรรยายว่า วิกฤตโลกร้อนมีผลดีกับประเทศไทย ตรงที่จะมีฝนตกบ้าง เพราะฉะนั้นเราจะไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ เรามีปัญหาอย่างเดียวจะจัดการน้ำอย่างไร เพื่อให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นอย่ามาหลอกกันเลยว่า ที่เอาเศรษฐีซาอุฯ เศรษฐีดูไบมานั้น จะไม่ให้เขามาซื้อที่ดินของประเทศไทย เพื่อผลิตเป็นแหล่งข้าวของเขา เพราะว่าซาอุฯ หรือดูไบน้ำมันกินไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นถ้าเขามีความมั่นใจว่า แหล่งอาหารซึ่งจะถูกแยกกันอย่างมหาศาลในโลกนี้ เขาสามารถกุมพื้นที่กุมการผลิตได้ เราชาวนาไทยจะอยู่ที่ไหนครับ

เพราะฉะนั้น อันนี้ไม่ใช่เป็นยุทธศาสตร์ แค่ปกป้องตัวเองแต่ยุทธศาสตร์ที่จะนำทุนต่างชาติเข้ามาซื้อผืนแผ่นดินไทยเรายอมได้ไหมครับ ทั้งหมดนี้ผมอธิบายด้วยเสียงอันแหบแห้ง เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า เราทำไมต้องชุมนุมต่อทั้งๆ ที่เขาจะถอยทางยุทธวิธีแล้ว เราก็อยากจะอธิบาย และช่วยอธิบายญาติมิตรพวกพ้องว่า ยุทธศาสตร์หลักของคุณทักษิณยังไม่เปลี่ยน ยุทธวิธีจะเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัยที่ถูกกดดัน เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่รวมตัวชุมนุมกันอย่างต่อเนื่อง เราจะแพ้ทางยุทธศาสตร์ครับ นั่นก็คือ ถ้าคุณทักษิณชนะทางยุทธศาสตร์ คุณทักษิณจะมายึดครอง 3 อำนาจอธิปไตยของชาติ ก็คือ ตุลาการ บริหาร นิติบัญญัติ ในทางกองกำลัง คุณทักษิณตอนนี้ยึดกรมตำรวจได้แล้วใช่หรือเปล่าครับ

“เพราะฉะนั้น ถ้าเขายึด 3 อำนาจได้ และกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี เป้าหมายของเขาก็คือ ยึดกองทัพใช่หรือเปล่าครับ เมื่อกองทัพถูกยึดได้ พี่น้องลองจินตนาการดูว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะฉะนั้นวันนี้ผมมาอธิบายเพื่อให้เห็นว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย 5 แกนนำ และกลุ่มเครือข่าย และที่ปรึกษาอื่นๆ จึงได้กำหนดว่ายุทธศาสตร์หลักของเราก็คือ ทักษิณ THAKSIN GET OUT ถ้าทำไม่สำเร็จ เราจะกลายเป็นทาสของทักษิณทั้งประเทศ ยอมหรือเปล่าครับพ่อแม่พี่น้อง

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมอธิบายในวันนี้ก็เพื่อจะให้เหตุผลกับพ่อแม่พี่น้องที่ดู ASTV พ่อแม่พี่น้องที่เป็นนักธุรกิจ พ่อแม่พี่น้องที่เป็นชนชั้นกลางว่า เศรษฐกิจที่ทรุดหนักขณะนี้ไม่ใช่เพราะเรา พันธมิตรฯ แต่เป็นเพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีฝีมือ เพราะฉะนั้นการแก้ไขปัญหาก็คือ ต้องไล่สมัครออกไปใช่ไหมครับ สมัคร GET OUT สมัคร (GET OUT) สมัคร (GET OUT ) ทักษิณ (GET OUT) ทักษิณ (GET OUT) ไม่ชนะ (ไม่เลิก) ไม่ชนะ (ไม่เลิก) ไม่ชนะ (ไม่เลิก) ขอบคุณครับ”