“อภิสิทธิ์” เอาใจช่วยนายกฯกลับใจไล่ “เจ๊เพ็ญ” พ้นเก้าอี้ ยัน จุดยืน ปชป.ไม่ยุ่งเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง จวก “จตุพร” แค่ขยายผลนำประเด็น ม.7 มาเปรียบเปรยคำแปลบิดเบือน
วันนี้ (29 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคชาติไทย มีความเห็นตรงกับพรรคประชาธิปัตย์ กรณี นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกฯ พรรคไม่ต้องการเข้าไปยุ่งกับความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือใคร ส่วนเรื่องที่ระบุว่า นายจักรภพ ไม่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายกฯ คงต้องพิจารณาว่า จะบริหารการเมืองรายวันไปเรื่อยๆ หรือเพราะยังมีผลประโยชน์ของใครที่มีความสำคัญอยู่ หรือจะมาขจัดเงื่อนไขทั้งหลาย และเดินหน้าแก้ไขปัญหาของประชาชน แต่ถ้าเลือกอย่างหลังพรรคประชาธิปัตย์ก็พร้อมจะเดินเข้าไปช่วยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายคิดว่า นายกฯ จะรับฟังเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่า ถ้านายกฯ รับฟังทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล กลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยความใจกว้าง ถ้ามีการคลี่คลายชนวนความขัดแย้งทางการเมืองและเดินหน้าสร้างเวทีในการแก้ปัญหาวิกฤตชาติ
เมื่อถามว่า กลุ่มพันธมิตรฯ ได้ประกาศว่า แม้รัฐบาลจะถอนญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเปลี่ยนแนวทางมาไล่รัฐบาลแทน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนต้องฟังเหตุผล เชื่อว่า ใครไม่มีเหตุผลก็ไม่สามารถที่จะได้รับการสนับสนุน คนที่ไปชุมนุมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกคนก็อยากเห็นรัฐบาลไม่แก้รัฐธรรมนูญ และเร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง ตนนึกไม่ออกว่าจะใช้ประเด็นนี้เป็นปัญหากันทำไม
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ยอมถอน คาดว่า จะเกิดความรุนแรงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อถามว่า เร็วไปหรือไม่หากจะมีการไล่รัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างที่เคยเสนอให้รัฐบาลชนวนความขัดแย้งทางการเมือง และอยากให้รัฐบาลตั้งเวทีแก้ปัญหาร่วมกัน
เมื่อถามว่า การที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน เปรียบเทียบนายอภิสิทธิ์ ที่เคยเสนอทางออกวิกฤติด้วยการใช้มาตรา 7 ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นความคิดที่อันตรายกว่ากรณีที่นายจักรภพหมิ่นสถาบัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยอารมณ์ว่า “เขาไม่เข้าใจ และอยากขยายผลเท่านั้นเอง ผมได้ชี้แจงหลายครั้ง และนักกฎหมายก็เคยบอกว่า เรื่องที่ผมพูดนั้น ถูกต้อง ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง”