“เสกสรร” เย้ย “ลูกกรอก” กุมขมับ หลังมวลชนเข้าสมทบพันธมิตรฯ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะ “นายใหญ่” ไม่พอใจ “เป็ดเหลิม” มีแต่โม้ เผยคนปากห้อยไล่ปิดเคเบิลทีวีบุรีรัมย์ถ่ายทอดพันธมิตรฯ เรียกร้อง “โสภณ เพชรสว่าง” ช่วยต้านพันธุ์ชิดชอบบุรี จี้ “หมัก” เป็นตัวของตัวเองเลิกทาสีใหม่ให้แม้ว
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายเสกสรร แสนภูมิ ปราศรัย
วันนี้ (28 พ.ค.) นายเสกสรร แสนภูมิ อดีต ส.ส.สุรินทร์ พรรคไทยรักไทย กล่าวบนเวทีปราศรัยของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังหนักใจกับการชุมนุมของพันธมิตรฯ หลังจากที่การชุมนุมในคืนแรกเมื่อวันที่ 25 พ.ค.นั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย บอกว่า ชุมนุมคืนเดียวหาย ไม่กล้ามาอีก ซึ่งก็คงจะหมายถึงว่าเพราะเขาเอาคนมาขว้างหัวแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมากลับมีคนมาชุมนุมมากกว่าเดิม ทำให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเครียดมาก ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็เริ่มเห็นว่าที่ มท.1 โม้ว่าคืนเดียวก็หายนั้นไม่เป็นความจริง
นายเสกสรร เปิดเผยว่า การที่ตนเปลี่ยนข้างมาอยู่กับพันธมิตรฯ นั้นทำให้คนที่รู้จักโทร.มาถามว่ามาอยู่กับพันธมิตรฯ ทำไม ซึ่งตนก็บอกไปว่ามาเพื่อช่วยกอบกู้ประเทศชาติ และปรากฏว่าตั้งแต่ตนมาพูดบนเวทีพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เคเบิลทีวีหลายแห่งถูกคนปากห้อยสั่งปิด โดยที่บุรีรัมย์ก็เพิ่มมีการสั่งปิดเมื่อเช้า ดังนั้นจึงอยากให้นักการเมืองที่บุรีรัมย์ช่วยออกมาต่อสู้ โดยเฉพาะนายโสภณ เพชรสว่าง ซึ่งมีภูมิความรู้ดีกว่านายเนวินอย่างมากกมาย แต่ที่ผ่านมาสู้ไม่จริง จึงปล่อยให้นายเนวินมีอำนาจวาสนาขึ้นมา ตอนนี้นายโสภณก็อายุ 60 แล้ว ไม่ต้องกลัวตายแล้ว เพราะถ้าสู้จริง นายเนวินสู้ไมได้แน่
นายเสกสรรได้เล่าว่า ตนเคยศรัทธานายสมัคร สุนทรเวช สมัยที่นายสมัครเป็น ส.ส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) นั้น เป็นคนแรกที่ทำเทปปราศรัยออกขาย ตนชอบวิธีการพูดของนายสมัครจึงซื้อเทปไปฟังจนสามารถเลียนแบบลีลาการพูดได้ นายสมัครนั้นประสบความสำเร็จ ได้เป็น ส.ส.มาหลายสมัย เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ได้เป็น ส.ว.5 เดือน แต่ตนเกรงว่านายสมัครจะจบชีวิตทางการเมืองลงแบบไม่สวย ตนไม่อยากให้นายสมัครถูกบันทึกว่าเป็นนายกฯ รับจ้าง เป็นนายกฯ ที่มาล้างสีให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ไม่ศรัทธาต่อสถาบัน ถึงแม้ตนจะไม่ชอบนิสัยบางอย่างของนายสมัครที่เอาแต่นั่งพับนกเวลาประชุม นอกจากนี้เวลาที่ ส.ส.รุ่นใหม่นำประเด็นที่จะพูดไปปรึกษาก็เอาประเด็นเหล่านี้ไปพูดเองทั้งหมดเพราะเป็นหัวหน้าพรรคพูดได้ไม่จำกัดเวลา อย่างไรก็ตาม นายสมัครมีความเป็นตัวของตัวเองก็น่าจะมีจุดดีอยู่บ้าง จึงอยากจะให้เลิกสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเป็นตัวของตัวเอง
นายเสกสรร กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนมาอยู่กับพันธมิตรฯ และได้กลับไปถามประชาชนผู้สนับสนุนที่ จ.สุรินทร์ ว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไร ซึ่งพวกเขาบอกว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนพวกเขาจะต่อต้าน แต่ตอนนี้พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เพราะทนไม่ได้ที่รัฐบาลนี้ปล่อยให้น้ำมันขึ้นราคาจนเกินที่จะรับได้ และพร้อมที่จะให้การสนับสนุนถ้ามีรัฐบาลใหม่ที่แก้ปัญหาได้ดีกว่านี้
นอกจากนี้ นายเสกสรรได้กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชาชน ที่ออกมาต่อต้านพันธมิตรฯ ว่าเป็นการทำงานให้คุ้มค่าจ้าง เป็นเรื่องปกติของ ส.ส.ในพรรคนี้ เพราะสมัยที่ตนเป็น ส.ส.พรรคไทยรักไทยนั้นจะได้รับเงินจากคนนามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ เดือนละ 50,000 บาท และได้เงินจากพรรคอีกเดือนละ 50,000 บาท ไม่รวมเงินเดือน ส.ส.
