นายประพันธ์ ชี้ คนไทยกำลังเผชิญกับกระบวนการที่มีนายทักษิณหนุนหลังอยู่โดยมี นายสมัคร เป็นหุ่นเชิด เพื่อผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง ตราหน้าทักษิณ เป็น “นายหน้าขายประเทศ”
ท่ามกลางบรรยากาศบนเวทีปราศรัยบนเวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ที่คึกคักอย่างต่อเนื่อง ในเวลา 16.30 น. นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ก็ได้ขึ้นปราศรัยกับประชาชนด้วยลีลาและน้ำเสียงที่ดุเดือด เนื่องจากมีม็อบถ่อยมาป่วนการชุมนุมครั้งนี้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับยืนเฉยปล่อยให้ม็อบถ่อยเหล่านี้ เหิมเกริมรังแกประชาชน โดย นายประพันธ์ กล่าวเตือนสติผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า
“พวกเราชุมนุมโดยสงบ ผมอยากเตือนผู้บัญชาการตำรวจอย่าปล่อยให้พวกนี้มาป่วน เพราะเป็นการคุกคามสิทธิตามกฎหมาย อย่าลืมว่าครั้งที่มีการชุมนุมที่เวิลด์เทรดนั้น ตำรวจก็ทำอย่างนี้ แล้วก็ติดคุกเพราะละเว้นการกระทำ ผมขอฝากเตือนไปถึง พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ด้วย”
สำหรับเป้าหมายการมาชุมนุมครั้งนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่า ไม่เพียงแค่มาต่อสู้เพื่อคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเพียงหนึ่งในกระบวนการของนักการเมืองที่จะทำการยึดอำนาจประเทศไทยภายใต้การนำของ นายทักษิณ ชินวัตร
“ทักษิณ เป็นคนทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงเกินกว่าที่พวกเราจะคาดคิด ถ้าเขาสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองได้ เขาก็สามารถทำทุกอย่างในประเทศได้ตามอำเภอใจ แล้วประเทศชาติจะมีอะไรเหลืออีก อีกหน่อยก็แก้รัฐธรรมนูญให้นายทักษิณเป็นประธานของประเทศไทยได้”
นายประพันธ์ ได้กล่าวเตือนว่า “ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการต่อสู้ครั้งสำคัญ เพราะเรากำลังเผชิญกับกระบวนการที่มีนายทักษิณ เป็นผู้นำที่มีกระบวนการหนุนหลังอยู่มากมาย ทั้งอดีตสหายเก่า อดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ อดีตนักกิจกรรมเลวคนตุลา และนักการเมืองเลวที่ขายตัว ซึ่งเสนอทฤษฎีว่าวันนี้ประเทศไทยตกอยู่ในอำนาจระบอบอำมาตยาธิปไตย ทุนนิยมสามานย์ยังดีกว่าศักดินาที่ล้าหลัง เขากำลังเสนอการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบทุกมิติ การที่นายจักรภพ เพ็ญแขออกมาพูดนั้นเป็นเพียงคนๆ หนึ่งในกระบวนการทั้งหมด ที่พวกนี้พยายามที่จะท้าทายพระราชอำนาจ ทั้งกระบวนการขับไล่ด่าทอ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี กระบวนการที่นายทักษิณไปพูดในต่างประเทศหลายครั้งในลักษณะที่จ้วงจาบหยาบช้า รวมทั้งการเข้าไปทำพิธีในวัดพระแก้ว รวมทั้งมีเว็บไซต์ต่างๆ ออกมาจาบจ้วงเบื้องสูง กระบวนการเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพราะ นายทักษิณ ไปพูดที่เมืองนอก ว่า การที่เขาถูกโค่นล้มอำนาจเนื่องจากมีอำนาจที่เหนือกว่ามาล้มล้างเขา นี่คือ ความจริง เพราะฉะนั้นการที่คนเหล่านี้พยายามก่อตัวเป็นกระบวนการ ยังมีคนอีกส่วนหนึ่งที่ไปตั้งกระบวนการตามป่าเขา ภายใต้การสนับสนุนทุนของคนกลุ่มนี้ เพื่อจะใช้เป็นเครื่องมือในการก่อการเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้เพราะผมเคยเขาร่วมกับการต่อสู้เช่นนี้ในป่า บัดนี้ผมได้เข้าใจและเปลี่ยนความคิดเหล่านี้ไปนานแล้ว เพราะไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองไปเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยไม่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข”
นอกจากนี้ นายประพันธ์ ยังระบุว่า ตัวแทนของ นายทักษิณ ตอนนี้ คือ นายสมัคร สุนทรเวช และรัฐบาลชั่ว และ ส.ส.เลวส่วนหนึ่งที่อยู่ในสภา นายสมัคร ที่อ้างว่า ตนเองเป็นลูกของมหาอำมาตย์ที่ทำงานรับใช้ราชวงศ์ ตัวเองมีเครื่องราชฯ แต่ นายสมัคร กลับปล่อยให้นายจักรภพและบรรดาลูกสมุนของนายทักษิณจาบจ้วงสถาบันโดยไม่นำพาที่จะจัดการกับบุคคลเหล่านี้ เพราะนายสมัครเป็นหุ่นเชิดของนายทักษิณ
นายประพันธ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้นายทักษิณกำเริบเสิบสาน เพราะมีนายสมัครและนายเฉลิมเป็นคนหนุนใช้รัฐบาลเป็นเครื่องมือ วันนี้ นายทักษิณ จึงทำหน้าที่เป็น “นายหน้าขายประเทศชาติ” ทั้งๆ ที่ นายทักษิณ และตระกูลชินวัตร ไม่เคยทำความดีให้กับประเทศชาติเลย
“กรณีเขาพระวิหาร หรือกรณีที่พานักลงทุนตะวันออกกลางมาในประเทศ ทักษิณใช้ฐานประเทศไทยโดยมีลูกสมุนที่เป็นนักการเมือง เหล่านี้เป็นการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งสิ้น ไม่มีผลประโยชน์อะไรตกถึงมือพี่น้องประชาชนสักบาทเดียว”
นายประพันธ์ สรุปก่อนจบการปราศรัย ว่า นายทักษิณ และกลุ่มทุนยังเป็นปัญหาของบ้านเมือง แม้ว่าจะมีการพยายามเรียกร้องให้บุคคลต่างๆ หยุดช่วยเหลือนายทักษิณ แต่ก็ไม่มีใครกลับใจ เพราะฉะนั้นการต่อสู้ครั้งนี้ จึงไม่อาจประนีประนอมได้อีกต่อไป จนกว่าจะขับไล่รัฐบาลสมัครออกไป