“นายกฯ” วางมือปล่อย “นพดล” โชว์ออฟเจรจาเขาพระวิหาร 3 ฝ่าย เชื่อรู้หน้าที่ดี ย้ำไทยต้องไม่เสียพื้นที่เขาพระวิหาร หากขึ้นทะเบียนมรดกโลกต้องมีชื่อประเทศไทยด้วย
วันนี้ (21 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศสของนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ เพื่อเจรจา 3 ฝ่ายกับกัมพูชา ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ไม่ต้อง เขารู้หน้าที่ของตัวเองดี
เมื่อถามถึงเรื่องข้อตกลงในเรื่องดินแดนที่เขาพระวิหารอาจจะต้องสูญเสียไป นายสมัครตอบอย่างมีอารมณ์ว่า พูดภาษาอะไรที่ว่ามีการสูญเสียไป เวลานี้กำลังถกเถียงกันอยู่ มันจะสูญเสียอะไรกัน ถ้าขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เราก็ต้องอยู่ด้วย พื้นที่ทับซ้อนเราก็ต้องขึ้นชื่อด้วย ข้อแม้ง่ายจะตาย พื้นที่ทับซ้อนเป็นของ 2 ประเทศ ตัวอาคารเป็นของเขา
ต่อข้อถามว่า หากตกลงกันไม่ได้ทางไทยจะขอให้เลื่อนการเจรจาไปก่อนหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า ไม่ต้องเลื่อน ตกลงไม่ได้ก็ตกลงกันอย่างนั้น เขาจะเอาอย่างไรก็บอกมา เขาบอกพื้นที่ทับซ้อน ไทยต้องยื่นด้วยก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่มีใครเสียหายอะไรเลย มันก็อยู่ของมันอย่างเก่าอย่างนั้น
เมื่อถามว่าแย้งว่า แต่ทางกัมพูชามองว่าเป็นพื้นที่ของเขา นายสมัคร กล่าวว่า อย่างนั้นเหรอ แล้วไทยตกลงหรือยังล่ะ ไทยไม่ตกลงหรอก ยังไงก็ไม่ตกลง เขาเรียกว่าพื้นที่ทับซ้อน
“ทำไม มันจะต้องเสียอะไร อยู่กันมาทุกวันอย่างนั้น มันเป็นอย่างไร เขาบอกจะเอาตัวปราสาทไปยื่น ก็ยื่นไปไม่เป็นปัญหา แต่ยูเนสโกเขาบอกจะเอาพื้นที่ด้วย ก็พื้นที่ซ้อนกันอยู่ ก็ยื่น 2 คนเท่านั้นก็จบ ขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วมันเป็นยังไง จะถามยังไงให้มันมีเรื่องอีก เอาตรงไหนไปให้เขา” นายสมัครกล่าว
เมื่อถามว่าการขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ไทยจะต้องเสียประโยชน์อะไรหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า ศาลตัดสินว่าตัวปราสาทเป็นของเขา พื้นที่ทับซ้อนก็เถียงกันอยู่ เราบอกว่าต้องเอาของเราด้วยเท่านั้นเอง มันไม่เห็นจะมีอะไรยุ่งยาก ก็ไปพูดให้ท่านทูตของเขาฟัง
เมื่อถามว่า ตั้งแต่ที่นายกฯ กลับจากการเดินทางเยือนประเทศกัมพูชา ได้มีตัวแทนจากประเทศกัมพูชามาเจรจาบ้างหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ก็ควรจะมาแต่เขาไม่มา เขาบอกจะตามหลังมาก็ไม่มา เราถึงต้องบอกว่าให้ไปพูดถึงกันที่นู่น
ต่อข้อถามว่าตรงนี้เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า ตนไม่รู้จักสัญญาณ สัญญาอะไรหรอก แต่เรื่องนี้อยู่ที่ยูเนสโก ไม่ได้อยู่เขมร ไม่ได้อยู่ที่ไทย เขาบอกว่าเขาไม่เอาปราสาทเฉยๆ ต้องเอาพื้นที่ด้วย เมื่อพื้นที่ทับซ้อนกันอยู่ ก็ใช้ชื่อ 2 ประเทศ ก็จบแค่นั้น เขาก็ขึ้นทะเบียนได้
