“จิ๋ว” เกิดครบ 76 ปี ติงรัฐบาลอย่ามุ่งทุ่มเทแต่เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ให้หันมาดูแลปัญหาปากท้องของชาวบ้านบ้าง พร้อมให้เรียกคนในรัฐบาลที่พูดจาบจ้วงสถาบัน มาซักถามว่ามีเจตนาอย่างไร เชื่อมีบางคนต้องการเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ แต่มั่นใจเปลี่ยนสถาบันไม่ได้ ขณะที่ “แม้ว” ซุ่มกลับไทยเงียบ ดอดเข้าอวยพรที่บ้านตั้งแต่เช้า
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (15 พ.ค.) พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำบุญเลี้ยงพระเพลที่วัดพระยายัง เนื่องในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 76 ปี โดยมี คุณหญิงพันธุ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา รวมทั้งคนใกล้ชิดร่วมอวยพร อาทิ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตรองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายฉัตรชัย เอียสกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าอวยพร พล.อ.ชวลิต ที่บ้านพัก ซ.ปิ่นประภาคม ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนเดินทางมาทำบุญที่วัดพระยายัง
พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่มีความขัดแย้งกันในสภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้ ว่า ยุ่งในสภาดีกว่าที่อื่น ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการเมืองที่จะมีความเห็นขัดแย้ง แต่ไม่ควรถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะความเห็นไม่ตรงกันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ต้องทุ่มเท ควรสนใจแก้ปัญหาปากท้องและความเป็นอยู่ของประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดนี้ให้ความสนใจการแก้ปัญหาความยากจน ปัญหายาเสพติดอยู่แล้ว แต่สื่อให้ความสนใจน้อย โดยไปเน้นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า และต้องการฝากว่าแม้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ แต่อย่าดึงดันแก้ไขจนลืมปัญหาประเทศ
ต่อกรณีที่ประชาชนเป็นห่วงเรื่องการดึงสถาบันลงมาเกี่ยวพันการเมืองนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า สถาบันถือเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นชาติ ที่อยู่คู่กับประเทศมาเป็นพันปี ซึ่งคนรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจ และอาจมีหัวก้าวหน้าแบบสาธารณรัฐบ้าง แต่คงล้มล้างความเป็นชาติไทยไม่ได้
สำหรับกรณีที่มีคนในระดับชั้นนำ ที่วางนโยบายได้พาดพิงสถาบัน มีความเป็นห่วงหรือไม่นั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า “คงไม่มี แต่อาจผิดพลาดพลั้งเผลอ ก็เรียกมาต่อว่า ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น เข้าใจหรือไม่ที่พูดเช่นนี้ เพราะสถาบันเป็นสิ่งเหนือหัว หากทำความเข้าใจได้ ก็ไม่มีอะไร ซึ่งใครจะดื้อรั้นหรือไม่ มองก็รู้แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ขอให้สบายใจได้”
ส่วนกระแสข่าวการปฏิวัตินั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า “ใครจะปฏิวัติอีก มันไม่ไหวแล้ว ซึ่งบอกหลายทีแล้วว่าไม่ใช่ปฏิวัติ แต่เป็นการยึดอำนาจ หรือ Coup’ de ta ปฏิวัติคือการเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้ดีขึ้น”