“หมัก” รอดประเด็นขาดคุณสมบัติ เจออีกด่าน “ชิมไปบ่นไป” ผิด กม.

กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ยกคำร้อง “สมัคร” ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่ง รมต.ตามที่คณะอนุ กก.สอบสวนฯ เสนอ ให้เหตุผลคำพิพากษาจำคุกคือต้องมีการจำคุกจริง และต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ขณะเดียวกัน ตั้ง คกก.สอบสวนกรณีเป็นลูกจ้าง “ชิมไปบ่นไป” เข้าข่ายผิด กม.หรือไม่

วันนี้ (14 พ.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวภายหลังการประชุมกกต.ที่มีการพิจารณารายงานผลสรุปการสอบสวนกรณีนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ว่า ในกรณีที่ พ.ต.นิพนธ์ ซิ้มประยูร มีการกล่าวหาว่านายสมัครต้องคำพิพากษาศาลให้จำคุกในคดีหมิ่นประมาท และอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คดี ทำให้ขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีตามมาตรา 174 (5) ของรัฐธรรมนูญ ที่ประชุม กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ยกคำร้อง ตามที่คณะอนุกรรมการสอบสวนฯได้เสนอ ด้วยเหตุผลว่า คำว่าต้องคำพิพากษาจำคุกจะต้องหมายความว่ามีการจำคุกจริง และต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

ส่วนกรณีที่มีผู้รองว่านายสมัครขาดคุณสมบัติรัฐมนตรีตามมา 116 และ 174(6) ของรัฐธรรมนูญเนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงมาแล้วยังไม่เกิน 2 ปีนั้น ที่ประชุม กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยกคำร้องดังกล่าวเช่นกัน เนื่องจากบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญในมาตรา 296 ได้ยกเว้นมาตราดังกล่าวไว้สำหรับผู้ที่เคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ว.ครั้งหลังสุดตามรัฐธรรมนูญปี 2540

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการร้องว่านายสมัครเป็นลูกจ้างของรายการชิมไปบ่นไป และน่าจะทำให้นายสมัครขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรี เพราะคนที่เป็นนายกรัฐมนตรีจะต้องไม่มีสถานะเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน ที่ประชุม กกต.มีมติให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนคณะที่ 14 ที่มี พล.อ.ยอดชาย เทพยสุวรรณ อดีตกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นประธาน ไปสอบสวนข้อเท็จจริงภายใน 15 วันเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.