พปช.มีมติเสนอชื่อ “ชัย ชิดชอบ” ชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยคะแนนเสียง 94ต่อ 24 งดออกเสียง 9 ชูคุณสมบัติเพียบพร้อม ทั้งอาวุโว มากบารมี พร้อมให้เอกสิทธิ์ ส.ส.โหวตเลือก ปธ.สภา พรุ่งนี้ แบบไม่มีการบังคับ ยันไม่มีแผนสองหาก “ชัย” ไม่ผ่านโหวต สุดท้ายเชื่อไม่มีความขัดแย้งตามมา
วันนี้ (11 พ.ค.) ที่พรรคพลังประชาชน เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค ว่า วันนี้ได้มีการประชุม ส.ส.ของพรรคโดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้มอบหมายให้ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นประธานในการประชุม โดยที่ประชุมมีวาระพิจารณาและขอมติกรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติให้ นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาล เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายหลังใช้เวลาประชุมนานกว่า 4 ชั่วโมง ที่ประชุมมีมติเห็นด้วยคะแนน 94 เสียง ไม่เห็นด้วย 24 คะแนน และงดออกเสียง 9 คะแนน ผลก็คือที่ประชุมเห็นชอบตามคณะกรรมการบริหาร ให้เสนอชื่อ นายชัย เป็นประธานสภา
ซึ่ง นายชัย ก็มีคุณสมบัติพร้อม เป็นผู้ที่มีอาวุโสทางการเมือง มีบารมีมากเพียงพอที่จะเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งที่ประชุมก็มีการแสดงความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับการเสนอชื่อใครขึ้นมาเป็นประธานสภา ก็มีข้อเสนอที่จะให้มีการเสนอชื่อบุคคลอื่นขึ้นมาแข่งขัน แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อมีการโหวตแล้วคะแนนออกมาเป็นเอกฉันท์ ข้อเสนอจึงไม่มี รธน.เปิดช่องให้ ส.ส.แตกแถวได้
ร.ท.กุเทพ กล่าวต่อว่า ในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.จะได้นำวาระการเลือกประธานสภาเข้าที่ประชุมสภา ในเวลา 09.00 น.เรามีความพยายามที่จะมีให้มีประชาธิปไตยในพรรค ที่แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือสามัคคีทำให้พรรคเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง ดังนั้น การเลือกประธานสภาในวันพรุ่งนี้ เป็นการพิสูจน์ว่าพรรคจะเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม มติดังกล่าวไม่สามารถบังคับ ส.ส.ได้ เพราะ ส.ส.ได้รับความคุ้มครองตาม รธน.ว่าถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.อีกทั้งการลงคะแนนในวันพรุ่งนี้เป็นการลงคะแนนลับจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าใครลงคะแนนให้ใคร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดใช้เวลาในการประชุมนาน ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา การประชุมวันนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่มีการประชุมวาระสำคัญอย่างนี้ เนื่องจาก ส.ส.มีความเห็นที่หลากหลาย จึงเปิดโอกาสให้แสดงความเห็น แต่ในที่สุดก็โยงมาสู่การหาข้อสรุป อาจมีหลงประเด็นไปบ้างในบางช่วง โดยเสนอชื่อคนเพื่อลงคะแนนแข่ง แต่เมื่อกลับมาสู่หลักเหตุผล คณะกรรมการบริหารพรรคเป็นองค์กรบริหารที่ได้มอบหมายจากสมาชิกพรรคให้ตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ดังนั้นการตัดสินใจของคณะกรรมการบริหารพรรค จะต้องได้รับความเคารพ
สำหรับการรับรองมติกรรมการบริหารพรรควันนี้ เท่ากับเป็นการบังคับให้ส.ส.สนับสนุนนายชัยใช่หรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรามีขั้นตอนมาตั้งแต่เริ่มต้นโดยให้ลงมติก่อนว่าจะลงคะแนนลับหรือเปิดเผย ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมบอกให้เปิดเผย ตรงนี้เป็นขั้นตอนตามประชาธิปไตย เป็นการเดินหน้าไปอีกก้าว ส่วนหากการเลือกประธานในวันจันทร์ผลไม่เป็นไปตามที่คาดพรรคได้มีแผนสำรองหรือจะเสนอใครขึ้นมาใหม่หรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า เรายังไม่คิดไกลขนาดนั้น เชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาอะไร เพราะวันนี้เราพูดกันแบบเปิดอกมากที่สุด นพ.สุรพงษ์เองก็ฟังต้องแต่ต้นจนจบ และน้อมรับแนวความคิด
ส่วนหากในวันจันทร์ ส.ส.พรรคบางส่วนไปจับมือกับพรรคชาติไทย และพรรคประชาธิปัตย์เพื่อเสนอชื่อแข่งจะทำเช่นไร ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อาจจะต้องการเล่นเกมแต่เชื่อว่าคนของพรรคพลังประชาชนจะไม่หลงกล ดังนั้น บทพิสูจน์ของพรรคคือการลงมติในวันพรุ่งนี้ ดักคอ พรรคร่วมต้องมีมารยาทผู้สื่อข่าวถามอีกว่า หากมีการเสนอชื่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์นั้น นายสมศักดิ์จะมีถอนตัวหรือไม่
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า วันนี้ระหว่างการอภิปราย นายสมศักดิ์ ก็ถูกเสนอชื่อขึ้นมาโดยนายสุนัย จุลพงศธร เป็นผู้เสนอ จากนั้นนายสมศักดิ์จึงลงขึ้นยืนและขอให้ นายสุนัย ถอนชื่อ แล้ว นายสุนัย ก็ยอมถอนชื่อในที่สุด อีกทั้งเชื่อว่าด้วยสถานภาพอันทรงเกียรติของนายสมศักดิ์ จะไม่หลงกลของพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคชาติไทยจะโนโหวตในการประชุมสภา วันจันทร์นี้
โฆษกพรรค กล่าวว่า ในวันนี้เราไม่มีการพูดถึงพรรคอื่น และดีใจที่กระบวนการวันนี้จบด้วยความเข้าในอันดีของสมาชิกพรรค ส่วนพรรคอื่นจะตัดสินใจอย่างไรนั้น เราคงไปก้าวก่ายไม่ได้ แต่เมื่อยุทธศาสตร์การทำงานร่วมกันของรัฐบาล คือ ต้องสนับสนุนแนวทางการทำงานที่รัฐบาลดำเนินการอยู่ ซึ่งจะทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้ เพื่อไม่ให้บ้านเมืองถึงทางตัน ดังนั้น จึงเชื่อว่า พรรคร่วมรัฐบาลคงมีมารยาทตรงนี้ ส่วนที่ประชุมมีการพูดถึงนายการุณหรือไม่ ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่มีการพูดคุย