ศาลฎีกาเตรียมพร้อมประชุมใหญ่สรรหาผู้พิพากษาฎีกา เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ วันนี้ 4 เม.ย.นี้ 09.30 น.คาดรู้ผลก่อนเที่ยง “ชัช ชลวร ปธ.คดีเยาวชน-กิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ ปธ.คดีล้มละลาย-นุรักษ์ มาประณีต พ.ฎีกา” ติดโผ
วานนี้ (3 เม.ย.) นายอนันต์ วงศ์ประภารัตน์ เลขานุการศาลฎีกา กล่าวถึงการสรรหาผู้พิพากษาศาลฎีกา จำนวน 3 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 204 ว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) เวลา 09.30 น.นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา นัดประชุมใหญ่ผู้พิพากษาศาลฎีกาเพื่อลงคะแนนลับเลือกผู้พิพากษาตำแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้พิพากษาศาลฎีกา 3 คน เพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ โดยคาดว่าการประชุมจะเสร็จสิ้นเวลาประมาณ 11.00 น.โดยเมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการลงคะแนนแล้วศาลฎีกาจะแจ้งผลที่ทำเป็นเอกสารแจกให้สื่อมวลชนทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้พิพากษาศาลฎีกา ที่คาดว่า จะปรากฏชื่อในการลงคะแนนเลือกนั้น ขณะนี้มี 5 คน ประกอบด้วย นายชัช ชลวร ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลฎีกาซึ่งอดีตเคยเป็นเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม, นายกิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา, นายนุรักษ์ มาประณีต ผู้พิพากษาศาลฎีกา ซึ่งนายกิตติศักดิ์ และนายนุรักษ์ ที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ไปเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญด้วย, นายชวลิต ตุลยสิงห์ ประธานแผนกคดีเศรษฐกิจและพาณิชย์ ในศาลฎีกา และนายเกรียงชัย จึงจตุรพิธ ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา และองค์คณะผู้พิพากษาคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก และคดีหวยบนดิน แต่ทั้งนี้สำหรับนายเกรียงชัย ยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนว่าหากได้รับการสรรหาแล้วจะเต็มใจไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
ทั้งนี้ คาดว่า ผู้พิพากษาที่จะได้รับเลือกจากผู้พิพากษาศาลฎีกาและพร้อมจะไปดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วย นายชัช ชลวร ที่แสดงท่าทีว่าหากได้รับการคัดเลือกก็เต็มใจที่จะไปปฎิบัติหน้าที่ตุลาการศาลรัฐธรรม เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายใดๆในการปฎิบัติหน้าที่ตุลาการ ประกอบกับอายุราชการในการดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกาและตุลาการศาลรัฐธรรมใกล้เคียงกัน โดยปัจจุบัน นายชัช มีอายุ 59 ปี อีก 6 ปีจะ เกษียณ และมีโอกาสดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาอาวุโสจนถึงอายุ 70 ปี ส่วนการเป็นตุลาการศาลธรรมนูญมีวาระ 9 ปี รวมทั้งนายกิตติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์ และนายนุรักษ์ มาประณีต เนื่องจากทั้งสองยังคงเคยดำรงตำแหน่งเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญ และเป็นตุลาการเสียงข้างมากในคดียุบพรรคไทยรักไทย ที่ให้ลงโทษย้อนหลังเพิกถอนสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารไทยรักไทยทั้ง 111 คน