“หมัก” บ่นสื่อตีข่าวพม่าขวาง อ้างติดภารกิจด่วน

“นายกฯ ได้หน้ากองทัพพม่าเต็มกำลัง ส่งผลพี่ไทยหน้าบาน บ่นสื่อตีข่าวพม่าไม่รับตัวเอง แต่รับ “สุรยุทธ์” อ้างงานล้นมือไปพม่าไม่ได้ มอบเจ้ากรมกิจการชายแดนประสานแทน

คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ สนทนาประสาสมัคร

วันนี้ (11 พ.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” โดยออกอากาศผ่านทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.2551 โดยเริ่มกล่าวขอบคุณฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือกรณีที่ประเทศพม่าประสบเหตุภัยธรรมชาติจากพายุมีใจความสำคัญตอนหนึ่ง ว่า ตนเองเมื่อเวลาที่ไปสนทนากับพม่ามาแล้ว ทางตะวันตกเขาก็อยากรู้อะไร พูดง่ายๆ กระทรวงการต่างประเทศเขาคอยระมัดระวังอยู่ มีนโยบายระหว่างประเทศกันอยู่ แต่ตนก็บอกว่าไม่ได้เป็นกระบอกเสียงให้พม่า แต่ว่าใครจะคุยเรื่องภายใน ตนคุยในฐานะส่วนตัวได้ก็ทำอย่างนี้มาตลอด คนอเมริกัน อังกฤษ ทำเป็นทำนองว่าเหมือนกับว่าเราเป็นประชาธิปไตยแล้วไปยุ่งกับเขาทำไม แต่นี่เพื่อนบ้านและรั้วติดกัน คุณอยู่ตั้งไกล คุณก็บีบคั้นเข้ามา เดี๋ยวก็โน้น เดี๋ยวก็นี่ ทั้งบีบทั้งคั้น จะเอาให้เป็นให้ตายกันให้ได้เลย

“ผมบอกนี่เพื่อนบ้านผม ผมต้องคุยได้ แต่คุณไม่อยากให้ผมคุย ผมก็ไม่คุย รักษาไมตรีระหว่างประเทศ อยากจะบีบคั้นกันก็ ผมไม่บีบด้วยหรอก แต่ว่าผมจะรักษาระหว่างประเทศ ผมก็อยากจะไปเป็น คือ ใครไปคบพม่าจะต้องเป็นคนเลวในสายตาของพวกฝรั่ง เสร็จแล้วก็รู้สึกว่าตำหนิผมอยู่ตามสมควร ผมก็เฉยๆ ครับไม่ว่าอะไร พอเกิดเหตุขึ้นมา พม่าเขาก็เป็นแบบเขา คือเขาปิดประเทศ เขาไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่งกับเขา จะกลัวไม่กลัวเราก็ไม่รู้เขา แต่เขาไม่ชอบ รู้แน่นอนไม่ชอบ ที่ไม่ชอบที่สุดคือไม่ชอบอเมริกัน ไม่ชอบอังกฤษที่สุด อเมริกันที่ 2 ยุโรปเขาไม่ชอบ เขาก็ต่างคนต่างอยู่กันมา แต่ว่าบีบคั้นเขา พอถึงเวลาจะช่วยก็อ้างมนุษยชน ก็จะไปช่วยเขาบอกไม่ให้ แต่มาตกอยู่ที่กรุงเทพฯ เข้าไม่ได้ มาขอวีซ่าที่กรุงเทพฯ ยังไม่พิจารณา” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวต่อว่า ในส่วนของเราวันนี้ต้องประกาศขอบคุณ พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด วันที่เกิดเหตุตีสอง วันที่ 2 พฤษภาคม จากนั้นวันที่ 3 พฤษภาคม ตนไปเฝ้าฯ ระหว่างรอรับเสด็จฯ ที่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย บังเอิญนั่งติดกันกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านรายงานตรงนั้นและที่ประเทศไทยได้หน้าที่สุด ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นคนจัดการ เอาเครื่องบิน เก็บของๆ ท่าน มีเท่าไรส่งเข้าไปเลย พอเขากวาดสนามบินเสร็จ ลำแรกพอลงไปปั๊บ พม่าไม่ว่า ถ้าเป็นพี่ไทยไม่เป็นไร เพราะความคุ้นเคย จะส่งอะไรไปช่วย ขณะนี้ทางผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังติดตามการช่วยเหลือ โดยทหารอากาศก็เอาเครื่อง C130 บินเอาของส่ง ไทยทำ คนอื่นจะทำ แน่นอนครับทั้งโลกทำเลย ก็มารอกัน

นายสมัคร กล่าวต่อว่า ในส่วนของอเมริกัน เขาอยู่ข้างหลัง World Food Programme งานเขาใหญ่ เขาคำนวณเสร็จ จะต้องเดือดร้อนเป็นแสน เขาบอกต้องดูแล 6 เดือน ต้องเอาคน เอาทีม เอาของเข้าไป จะต้องมีที่พัก จะดูแลคนวันละ 600,000 คนให้มีอาหาร เขาไปให้เลี้ยงวันละ 600,000 คนเป็นเวลา 6 เดือนติดต่อกัน เขาทำส่งมา ปรากฏขอวีซ่า พม่าบอกไม่ให้ เขาก็มาหาตน ทูตอังกฤษก็เจอ ทูตอเมริกันก็มาขอร้อง ตนก็ตกลงจะลองติดต่อดู ถ้าพูดได้จะพูด พูดไม่ได้ก็จะไปเอง คือไม่น่าจะมีปัญหา

“วันศุกร์ผมจะต้องเฝ้าฯ อยู่ที่สนามหลวง ผมเกือบจะกราบบังคมทูลแล้วว่าผมจะให้รองนายกรัฐมนตรีไปเฝ้าฯ เพราะว่าผมจะไปพม่า ก็จัดการเรื่องตั๋วเครื่องบิน ไปเช้าเย็นกลับ กะว่าจะคุยกับเขา ติดต่อไปวันศุกร์ว่าอย่างไร กว่าจะได้ข่าวมา เขาบอกว่าเขากำลังตระเวนเยี่ยมอยู่ ขอเป็นวันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ผมกำลังอึกอักอยู่ วันอาทิตย์ผมออกรายการนี้แล้ว ผมต้องมีกลางวัน ประจำ 3 เดือนกินข้าวกับพรรคพวก เดี๋ยวบ่ายจะต้องมีคนพบ เย็นจะต้องไปงานวัดจักรวรรดิ ผมบอกผมไปไม่ได้ ก็แจ้งไป พอไปๆ มาบังเอิญกำลังอึกอักๆ เขาก็แจ้งประกาศของเขาเองเลย เขาบอกเขารับแต่ของ แต่ไม่รับคน นโยบายเขาบอกส่งของมาเอา แต่ไม่รับคน พออย่างนั้น ผมบอกอย่างนั้นไม่ต้องแล้ว ผมก็เขียนจดหมายร่างจดหมายผมเสร็จ ส่งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจัดการพิมพ์ ผมมาตรวจเสร็จเรียบร้อย ก็ส่งไปเลย ส่งไปให้พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด ท่านเป็นคนประสานงานชายแดน ท่านเอาไปจัดการให้ ก็บอกเสร็จ ในจดหมายผมก็ต้องแปลงสารหน่อยคือว่าเขียนเรื่องที่เขาจะขอร้องเอาไว้ตรงกลาง บอกเลยว่ามีทั้ง World Food Programme เขามา หน่วยงานเขามาขอร้อง ขอวีซ่า ก็ขอให้ท่านพลเอก เต็ง เส่ง นายกรัฐมนตรีพม่าพิจารณาด้วย บอกไปเท่านั้น ก็หมดภาระส่งไป เขานัดวันอาทิตย์ วันที่ผมไม่ว่างผมก็แจ้งไป จดหมายผมบอกด้วยเลยที่จะพบกันวันอาทิตย์ ผมมีงานผมไปไม่ได้จริง ๆ ก็ขอส่งจดหมายฉบับนี้มาแทน เท่านั้นละครับ ไม่มีอะไรอื่นเลย” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวต่อว่า วันนี้ (11 พ.ค.) พาดหัวเลย เหมือนกับว่า พม่าไม่รับสมัคร แต่รับ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ท่านจะไปของท่าน ตกลงก็ไป ใครไปก็ได้ แต่คนที่ติดต่อของตนเอง ท่านเจ้ากรมกิจการชายแดนทหารเป็นตัวประสานงาน และคนที่จัดการส่งอะไรต่างๆ ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด ท่านเป็นคนดูแลทั้งหมด และทุกคนก็เริ่มทยอยกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดตากวันนั้นก็เจอกัน ท่านทำหนังสือมาบอกว่าของจะเอาไป พม่าเขาจะขอไม่เอาคน ท่านจะจัดการร่วมมือ ตากไปแม่สอด 80 กิโลเมตร ถึงแม่สอดแล้วก็ข้ามแม่น้ำเมยไปเมียวดี ไปถึงเมียวดีเขาจะมารับ ท่านตกลงกันเสร็จเลย พม่าเอารถทหารมาขนเลย 420 กิโลเมตรถึงย่าง ท่านจะสร้างโกดังชั่วคราว ใครจะบริจาคอย่างไร ท่านไม่ได้เป็นคนรับบริจาค ขนไปขับรถไป 500 กิโลเมตรไปถึงชายแดนไทย ท่านก็รับฝากไว้ให้แล้วพม่ามาขนไป ผู้ว่าฯ เจ๋งนะทำอย่างนี้ ผมก็ฝากเขาออกข่าว ไม่รู้เขาออกกันหรือเปล่า ตนก็เอามาออกข่าวด้วยวันนี้ เพราะผู้ว่าฯ ได้ดำเนินการ

ส่วนเรื่องการลงประชามติของประเทศพม่า นั้น นายสมัคร กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม เขาลงประชามติไปแล้ว ไม่ได้เลื่อน แต่ที่เลื่อนคือเลื่อนจังหวัดที่โดน เลื่อนไปลง แต่เขาก็รอบคอบนะ เขาลงเสร็จเรียบร้อยคนดูแคลนตั้งแต่ยังไม่เปิดหีบ เขาบอกเขายังไม่เปิดหีบหรอก อีก 2 อาทิตย์ อันนี้ลงแล้วถึงจะเอามารวมกันแล้วนับ ยุติธรรม เดี๋ยวจะว่าแนวทางเป็นอย่างไร นี่เรื่องของเขานะไม่ใช่เรื่องของเรา อย่างไรก็ตามเหตุที่เกิดขึ้นในพม่า ต้องขอขอบคุณผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่คนไทยหน้าบาน เพราะท่านนี้เป็นคนจัดการจุดชนวนเริ่มต้น ทหารอากาศเขาร่วมมือจัดการขนของ และทุกคนก็เริ่มดำเนินการ

“ที่คิดอย่างที่ใครไม่คิด น้ำก็ไม่มี ไฟก็ไม่มี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่านคิดเก่ง ท่านพระราชทานเครื่องปั่นไฟ 3 เครื่อง แต่ท่านบอกเลยว่าให้ไปใช้โรงพยาบาล แสดงว่าในพระหฤทัยของท่าน ๆ ต้องรู้เลยว่าจะเป็นอย่างไร พระราชทานเครื่องปั่นไฟ 3 เครื่อง เสียดายไม่บอกขนาด กี่โวลต์กี่วัตต์ เรื่องนี้ไม่มีใครคิดถึงหรอก ท่านพระราชทาน 3 เครื่อง ขนไปแล้ว และรับสั่งว่าให้เอาไปใช้ที่โรงพยาบาล นั่นแปลว่าคนไข้ที่จะต้องใช้ไฟฟ้านั้นจะได้รอดตายได้” นายสมัคร กล่าว

นายสมัคร กล่าวต่อว่า การปิโตเลี่ยมแห่งประเทศไทย (ปตท.) เขาเป็นลูกค้าสำคัญกัน เขาบริจาคล้านเหรียญสหรัฐฯ ลูกค้าสำคัญเขาซื้อก๊าซกัน ทุกคนก็ทำหน้าที่ เพื่อนบ้าน ทีนี้ก็ดูน้ำใจกัน เขาจะอย่างไรก็สุดแท้แต่ ใครจะลงได้ ลงไม่ได้ สุดแท้แต่ แต่พี่ไทยไปก่อนเลย ลงได้เลย ไปถึงขนเลยวันทยหัตถ์กัน มอบของกัน เราเพื่อนบ้านกัน