ปชป.ขู่จัดการ “ชาญวิทย์” ตาม กม.เหตุแถลงข่าวโจมตีให้พรรคเสียหาย ปฏิเสธหนุนการทำรัฐประหาร เชื่อสังคมสนับสนุน “ชวน” ปกป้อง “ป๋า” ชี้ชัดถ้อยคำแถลงเข้าข่ายจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง
วันนี้ (4 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายชาญวิทย์ จริยานุกูล ผู้ที่ถูกระบุว่า เกี่ยวข้องกับการจัดทำเอกสารโจมตีประธานองคมนตรี ระบุว่า ผิดหวังและเจ็บปวดกับการกระทำของ นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ว่า นายชวน เป็นนักการเมืองมายาวนานที่ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติ และเคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเกิดกรณีใบปลิวโจมตีประธานองคมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งโดยพระราชอำนาจ ก็กังวลว่า จะเป็นการจาบจ้วงสถาบันสูงสุดของประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง นายชวน จึงออกมาปกป้องและชี้ให้สังคมเห็นอันตรายที่จะส่งผลถึงสถาบันที่รักยิ่งของสังคมไทย ซึ่งเป็นการกระทำโดยสำนึกถึงสถาบันและประเทศเป็นหลัก แม้ นายชาญวิทย์ จะเจ็บปวด ก็ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เชื่อว่าประชาชนทั้งประเทศไม่เจ็บปวด และสนับสนุนนายชวนในการทำหน้าที่นี้
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่ นายชาญวิทย์ พูดใส่ร้ายพรรคว่าสนับสนุนให้เกิดการปฏิวัติ และพยายามจับมือกับคนใกล้ชิดของประธานองคมนตรี เพื่อยึดอำนาจ และไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ตนขอชี้แจงว่าพรรคมีจุดยืนชัดเจนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่เคยหนุนปฏิวัติทั้งในอดีตและอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการกระทำของกลุ่มใด ทั้งนี้ ภัยคุกคามประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การรัฐประหารเท่านั้น แต่ยังมีการใช้เงินที่มาจากการทำธุรกิจฉ้อฉลมาซื้อเสียงให้ได้อำนาจ และใช้ประชาธิปไตยอำพราง เข้ามากระทำชั่วร้ายแสวงประโยชน์ ทุจริตเชิงนโยบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม แทรกแซงข่มขู่เพื่อรักษาอำนาจตัวเอง และทำลายการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น เราเห็นว่ารัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ แต่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง หนีคดียุบพรรค เลี่ยงคดีทุจริต
นายองอาจ กล่าวว่า สำหรับคำแถลงของนายชาญวิทย์นั้น ขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองตรวจสอบ เพราะเป็นการสร้างความแตกแยกให้กับสังคมมากขึ้น โดยมีคำพูดหลายตอนที่หมิ่นเหม่จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง นอกจากนี้ พรรคจะพิจารณาดูว่าคำแถลงดังกล่าวเข้าข่ายหมิ่นประมาทหรือไม่ ถ้าเข้าข่าย เราจะใช้ขั้นตอนทางกฎหมายเพื่อปกป้องชื่อเสียงของพรรคและไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป