xs
xsm
sm
md
lg

เตือนสติ"ลูกกรอก"คิดเดินตามรอยเท้า"แม้ว"พังแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รายการ"คนในข่าว"ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี ดำเนินรายการโดยนายเติมศักดิ์ จารุปาณ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ

อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ รั้วจามจุรี เย้ยรัฐบาลนอมินีแม้ว ริคิดเดินตามรอยเท้า ทรท.พังอย่างเดียว ระบุคนชั้นกลางจะเป็นตัวแปรถ่วงดุลทุนนิยมสามานย์ เชื่อไม่เกิน 10 ปี ขบวนการมวลชนทางการเมืองผุดขึ้นทานอำนาจแน่นอน

รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี คืนวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งเปิดประเด็นซักถาม ดร.ณรงค์ เพชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงวิกฤติเศรษฐกิจกับทุนนิยมสามานย์ โดยท่านอาจารย์ณรงค์ กล่าวว่า ทุนสามานย์ถือต้นกำเนิดตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 ในอเมริกา และยุโรป ซึ่งขณะนั้นทุนนิยมกำลังเติบโต พวกนายทุนยุคนั้นทำทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายตัวเอง ซื้อได้เป็นซื้อ ข่มได้เป็นข่ม ใช้ทุกรูปแบบเพื่อล้มคู่ต่อสู้ จนถูกขนานนามเสมือนเป็นทุนโจร ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เอาเปรียบสังคม

อย่างไรก็ตามท่านอาจารย์ณรงค์ ยังเชื่อว่า ภายใน 10 ปี จะเกิดขบวนการมวลชนทางการเมือง พรรคมวลชนจะถูกก่อกำเนิดขึ้นมาเพื่อถ่วงดุลอำนาจพลังทุนที่เริ่มหมดอำนาจ ขณะเดียวกันเพราะความเบื่อ ประชาชนหมดทางเลือก จะเลือกพรรคการเมืองใด พรรคนั้นก็ถูกทุนนิยมหนุนหลัง ไม่ว่าจะเป็นทุนใหญ่หรือเล็ก ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาวิกฤติบ้านเมืองได้ ถึงแม้พรรคพลังประชาชนจะชูนโยบายประชานิยมเหมือนพรรคไทยรักไทยในอดีตก็ตาม

“ผมอยู่กับพรรคไทยรักไทยมา เห็นว่า เมื่อปี 2541 – 2542 สภาวะเศรษฐกิจของไทยมันถึงจุดต่ำสุด เมื่อรัฐบาล โดยการนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หัวหน้าพรรคไทยรักไทยเข้ามาบริหารประเทศ ใส่ตัวแปรกระตุ้นเข้าไปบางตัวเศรษฐกิจก็ดีขึ้นทันที แต่ไม่ใช่กับพรรคพลังประชาชน หากขืนยังใช้นโยบายแบบเดิมในเวลานี้ จะไม่ประสพความสำเร็จ เศรษฐกิจไทยและของโลกยังไม่ถึงจุดต่ำสุด ดังนั้นจึงหวังผลการแก้ไขปัญหาอะไรจากรัฐบาลคงไม่ได้”อาจารย์ณรงค์ กล่าว

ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากทุนนิยมสามานย์ชนะในรอบนี้ โอกาสพรรคมวลชนจะเกิดหรือไม่ อาจารย์ณรงค์ ตอบว่า อดีตแม้รัฐบาลจะมีเสียงข้างมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถควบคุมไปได้ทุกอย่างหากเผลอนิดเดียวทุกอย่างก็พังเหมือนเช่นรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ โดนมาแล้ว ความไม่พอใจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ของคนชั้นกลางครุกรุนอลู่ตลอดเวลา และที่สำคัญชัยชนะของพรรคไทยรักไทยในเวลานั้นก็มาจากสองอย่าง คือ ชนะด้วยความรู้สึกของคนที่ยอมรับจริงๆ และชนะเพราะเทคนิคบางอย่าง เป็นส่วนที่ไม่ได้ชนะใจคน ไม่เป็นที่ยอมรับของชั้นกลาง ชนชั้นกลางต้องลุกขึ้นมาประท้วงจนรัฐบาลล่มสลายไปในที่สุด

อาจารย์ณรงค์ กล่าวด้วยว่า เรากำลังเดินไปบนเส้นทางประวัติศาสตร์ของโลก เมื่อเดินไปบนเส้นทางทุนนิยมโดยไม่มีตัวถ่วงดุล ทุนก็จะสามานย์ขึ้นเรื่อยๆ แต่ความสามานย์ของทุนไม่สามารถยับยั้งความรู้สึกไม่พอใจของชั้นกลางที่กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกจ้าง พนักงานธนาคาร รัฐวิสาหกิจ ถือเป็นคนชั้นกลางใหม่ คนเหล่านี้จะเป็นตัวจุดพลุ เป็นองค์ประกอบหลักในการชุมนุม ไม่ใช่กรรมกรหาเช้ากินค่ำอย่างอดีต

"วันนี้การเลือกตั้งถูกชี้ขาดจากคนชั้นกลาง ถึงแม้รัฐบาลจะอ้างเสียงส่วนใหญ่จากการเลือกตั้ง แต่ก็ขอเตือนให้มองอดีต ขณะนั้นพรรคไทยรักไทยก็ได้เสียงจากประชาชนอย่างถล่มทลายแต่ก็ยังไปไม่รอด ดังนั้นรัฐบาลอย่ามัวชะล้าใจชื่นชมกับผลสำเร็จของตัวเองจนลืมมองอดีตที่เคยล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่ามาแล้ว ถึงแม้จะมีเสียงสนับสนุนแน่ๆ ถึง 10 ล้านเสียง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า 10 ล้านเสียงนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นหรือไม่ รัฐบาลต้องคำนึงให้ดี"อาจารย์ณรงค์ กล่าว

นอกจากนี้อาจารย์ณรงค์ ยังกล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าสนใจว่า หากคนได้ทำงานมาตลอดชีวิต สะสมความมั่งคั่ง บารมี ตำแหน่ง จนถึงจุดสูงสุด แล้ววันหนึ่งจู่ๆ มันหายไป คนๆ นั้นจะทำอย่างใด มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่ไม่ต้องการเสียของรักของห่วงไป จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่หายไป ดังนั้นเมื่อกล้าทำทุกอย่างที่ทำได้ กล้าทุ่ม กล้าเดิมพัน ชีวิตต่อจากนี้ของคนๆ นั้นก็จะไม่มีความสงบสุขในท้ายที่สุดนั้นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น