ปชป.แฉแผนกลางวงเสวนา ระบุพปช.หวังยุบสภาเลือกตั้งใหม่ครองเสียงเด็ดขาดอีกครั้ง ย้ำ “พลังแม้ว” มุ่งแก้ 309 มากกว่า 237 เหมือนเป็นยุทธการ ลับ ลวง พราง ขณะที่ “วีระ” จวก “แม้ว” หมิ่น 3 สถาบันชาติ ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มกระบวนการตรวจสอบสถาปนาระบอบการปกครอง Thaksinocratic
เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ห้องประชุมมูลนิธิ 14 ตุลา ชมรมตุลาประชาธิปไตย ได้จัดเสวนาเรื่อง “ยุบพรรค-แก้รัฐธรรมนูญ วิกฤตการเมืองครั้งใหม่ ทางออกควรเป็นอย่างไร” มีนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชัน นายวรินทร์ เทียมจรัส สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ระบบสรรหา นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) พ.ศ.2550 และนักวิชาการเข้าร่วม
โดยนายอลงกรณ์ กล่าวเปิดประเด็นว่า การเร่งแก้รัฐธรรมนูญเหมือนเป็นยุทธการ ลับ ลวง พราง ลับคือเสนอแก้มาตรา 237 แต่หัวใจสำคัญ คือ มาตรา 309 เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบครัวและคนใกล้ชิดให้พ้นผิดในคดีทุจริตคอรัปชัน ส่วนคดียุบพรรคเป็นแค่ผลพลอยได้ เหมือนขายเหล้าพ่วงเบียร์ ลวงคือ หลอกว่าจะยึดรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นหลัก แต่ความจริงเป็นพวกเกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง แต่ตอนนี้คงไม่เกลียดแล้วปลาไหล และพรางคือ ตอนแรกบอกจะแก้ไม่กี่มาตรา แต่พอโดนต่อต้านหนักก็จะแก้ทั้งฉบับ ซึ่งเชื่อว่าประเด็นแก้รัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การเผชิญหน้าทางการเมืองแน่นอน ทางออกที่ดีรัฐบาลควรปล่อยให้รัฐสภาดำเนินการ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาให้ทุกคนมีส่วนร่วม และยังเป็นการเคารพประชามติ 14 ล้านเสียงด้วย
นายอลงกรณ์ กล่าวต่อว่า ไม่รู้ว่าที่เร่งกันอยู่นี้เพราะมีเดิมพันที่สูงกว่าหรือไม่ โดยเอาประเทศเป็นเดิมพันเอารัฐธรรมนูญเป็นตัวประกัน ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะยุบสภาก่อนที่รัฐธรรมนูญจะแก้เสร็จ หรือก่อนการตัดสินคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพื่อเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งใหม่ เมื่อถึงตรงนั้นหลายพรรคคงสู้ไม่ได้ เขาก็กลับมาอีกครั้งและการแก้รัฐธรรมนูญจะยิ่งง่ายกว่านี้เพราะมีเสียงเบ็ดเสร็จ นายสมัครทำเหมือนตอบแทนบุญคุณ เพราะรู้ตัวดีว่าเป็นนายกฯโลว์ครอสที่มีต้นทุนต่ำ แต่อยากให้คิดถึงบั้นปลายชีวิตบ้าง อย่ามัวแต่ตอบแทนบุญคุณใครจนทำให้ประเทศชาติเกิดวิกฤต สุดท้ายอาจทำให้วงจรอุบาทว์วนเวียนกลับมาอีกครั้ง
ทางด้าน นายวีระ กล่าวว่า หากยังเร่งดำเนินการแบบหักหาญน้ำใจประชาชน รัฐบาลก็ไม่มีสิทธิห้ามประชาชนที่ไม่เห็นด้วยไม่ให้ออกมาชุมนุม ซึ่งตนเชื่อว่าเป้าหมายที่แท้จริงก็เพื่อจุดชนวนให้มีการยั่วยุและปะทะกัน เพื่อทำการปฏิวัติตัวเอง จะได้ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ เมื่อถึงตรงนั้นเขาก็ฉีกรัฐธรรมนูญ ล้มกระบวนการตรวจสอบและจะสถาปนาระบอบการปกครองที่เขาเตรียมการไว้คือ ระบอบ Thaksinocratic ซึ่งจะไปกระทบกระเทือนต่อสถาบันใดหรือไม่ลองคิดดูเอง เพราะที่ผ่านมาเขาได้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่าไม่เคารพใน 3 สถาบัน อย่างความพยายามแต่งตั้งพระสังฆราชองค์ใหม่ จากนั้นก็มีขบวนการของพวกเขาเองออกมาโจมตีสถาบัน และล่าสุดกรณีการนำชื่อ Thaksin ไปปักในผืนธงชาติไทย ซึ่งเรื่องนี้พ.ต.ท.ทักษิณจะปฏิเสธไม่ได้ แต่รัฐบาลในฐานะผู้เสียหายกลับไม่เร่งจัดการ
“ถ้าคิดในมุมกลับหากมีชื่อของแกนนำพันธมิตรฯ คนหนึ่งไปปักในธงชาติแทน เชื่อว่า “ไอ้เหลิม” (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย) คงจะเร่งดำเนินการไปแล้ว ซึ่งในวันที่ 1 พ.ค.นี้ เวลา 11.00 น. ตนจะเดินทางไปกองปราบปราม เพื่อแจ้งความกล่าวโทษดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการเหยียดหยามสัญลักษณ์ของชาติ ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.ธง”
ขณะที่ นายวรินทร์ กล่าวว่า ถ้าเราเชื่อว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ทั้ง 3 พรรคที่จะถูกยุบพรรคก็ต้องพร้อมรับผลชั่วนั้น แต่ตอนนี้มันเข้าตำรา เกลียดตัวกินไข่ เป็นคำพังเพยโบราณเปรียบเทียบกับตัวเหี้ย ที่เวลาไม่มีไข่ไก่ ไข่เป็ดหรือไข่ห่านกิน ก็จะกินไข่ตัวเหี้ย และคนกลุ่มนี้ก็ทำตัวเหมือนเหี้ยที่วันนี้พอพลาดท่าก็มาบอกไม่เอา จะยกเลิกกฎหมาย ถ้าตอนนั้น กกต.มีความกล้าซะหน่อย สั่งยุบพรรคไปเลย ก็จะไม่ออกลูกออกหลานมาเป็นหนามยอกอกอย่างนี้ เขาให้ กกต.มีมติว่าใบแดง ใบเหลือง บางคนกลับไม่ลงคะแนน ทำไปทำมา กกต.อาจจะติดคุกซะเอง สำหรับตนมาจากระบบสรรหา ซึ่งเขาบอกว่าต้องฆ่าให้หมดเพราะมันไม่เชื่อง ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในพวกหัวแข็งที่เขาต้องการจะฆ่า แต่ก็อยากจะดูใจ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้งเหมือนกันว่าจะมีคนโหวตให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญกันกี่คน
นายพิเชียร กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้คนสองฝ่ายไม่พอใจ ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งต้นเหตุคือตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อเป็นการเสียสละ และเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน ก็ออกไปนอกประเทศเลย ไปอยู่อังกฤษก็ได้ไม่ต้องกลับมาอีก
