“ปลาไหล” แบะท่ารอหุ่นเชิดกล่อม ย้ำแก้ รธน.เพื่ออนาคต เถียงหัวชนฝาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ค้านตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างไม่ทันกาล ชมเปาะ “สมัคร” เหมาะเป็นผู้นำภาวะวิกฤต
วันนี้ (22 เม.ย.) ที่พรรคชาติไทย นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ต้องไปดูวิปพรรคร่วมรัฐบาลว่าจะเสนอแบบไหน ถ้าจะยกร่างขึ้นมาก็ต้องนำมาหารือกันในพรรคด้วย ว่า ทางพรรคจะมีความเห็นอย่างไร แต่แนวความคิดของตนส่วนตัวมองเห็นว่าเมื่อรัฐธรรมนูญปี 50 มีปัญหาในบางเรื่องเราควรแก้ไข ส่วนจะแก้ไขอย่างไรต้องมาดูอีกครั้งหนึ่ง แต่ถ้าจะไปยกทั้งฉบับก็คงจะยากในการดำเนินงาน และคงจะมีการแปรญัตติมากมาย ศาสนาพุทธก็จะเข้ามาอีกมันก็ไม่ได้แก้ ปัญหาต่างๆ ก็จะอยู่คงเดิม นี่เป็นความเห็นส่วนตัว แต่ก็ดูก่อนว่าวิปเขาจะว่ากันอย่างไร เมื่อถามว่า มติพรรคเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่ได้ เพราะต้องนำมาดูกันในพรรคก่อนว่าจะแก้กันอย่างไร เมื่อถามว่าประเด็นที่พรรคพลังประชาชนเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญสอดคล้องกับพรรคหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่ามีประเด็นใดบ้าง ซึ่งมาตรา 237 มาตรา 68 เมื่อวานนี้ นายโคทม อารียา ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่าน่าจะแก้ไขเพราะมันมีปัญหา
เมื่อถามว่ามาตรา 309 ก็ไม่อยากให้แก้ไขใช่หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ที่เราเคยพูดกันอะไรที่ไปกระทบกับองค์กรอิสระที่มีอยู่เราจะไม่แตะ อย่างคตส.เขามีอยู่แล้วอย่าไปกระทบเขา เพราะเดือน มิ.ย.เขาก็จะหมดวาระแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคชาติไทยยังไม่มีมติอะไรเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ นายบรรหาร กล่าวว่า ยัง ต้องรอให้ที่ประชุมวิปส่งมาให้พรรคดูก่อน ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่จะมีการเสนอให้ตั้งสสร.เหมือนสมัยที่ท่านปฏิรูปการเมือง นายบรรหาร กล่าวว่า ส.ส.ร.ตอนนั้นกว่าจะเสร็จเรียบร้อยต้องใช้เวลา 2 ปี กว่าจะร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ 3-4 ปี มันไม่ทันต่อเหตุการณ์ บางมาตราที่มีปัญหาในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวนี้ต้องแก้ก่อน ไปรอคงไม่ได้ ควรแก้ไขข้อขัดข้องบางเรื่องบางราว ไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งฉบับ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางชมรม ส.ส.ร.50 ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกการแก้ไข เพราะในมาตรา 237 มาตรา 309 เป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ส่วนรวม นายบรรหาร กล่าวว่า “ไม่ใช่ ผมเถียง เจอพรรคไหน พรรคนั้นก็แย่ ไม่ใช่ส่วนตัวเป็นส่วนรวมเราทำเพื่ออนาคต ถ้าพรรคโน้น พรรคนี้เจอจะว่าอย่างไร เราทำเพื่ออนาคต ไม่ทำเพื่อปัจจุบัน ไปเหมาโมเมไม่ได้ หัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคไม่ได้ทำความผิด คุณต้องผิดด้วยมันใช้ไม่ได้ ความจริงร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผมจะไม่รับแล้ว ทำหนังสือคัดค้านเขาก็ไม่ยอม ที่ประชุมยกร่างรัฐธรรมนูญผมรู้ว่าใครพูดเรื่องนี้ เอาไปเลยทั้งหัวหน้าพรรคด้วย มีคนมาเล่าให้ผมฟัง เพราะฉะนั้นเป็นการร่างแบบอคติ ใช้ไม่ได้ และเป็นการบั่นทอนไม่ให้พรรคการเมืองเติบโต อย่าลืมว่าการบริหารของประเทศชาติทุกประเทศเขาเห็นพรรคการเมืองเป็นหลักที่สำคัญที่สุด แต่นี่เป็นการบั่นทอนพรรคการเมือง แต่ถ้าเตี้ยอุ้มค่อมยิ่งดีใหญ่ มันไม่ถูกต้อง แล้วทำไมบางพรรคลดกรรมการบริหารพรรคลงเหลือ 18-19 คน ก็หนีตรงนี้ใช่หรือไม่ ชาติไทยก็ลด ไม่มีใครยอมเป็น แล้วอย่างนี้พรรคจะเติบโตได้อย่างไร”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลไปหารือถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายบรรหาร กล่าวว่า ก็ยินดี จะคุยเรื่องรัฐธรรมนูญและเรื่องอื่นๆ ทั่วไปด้วย ซึ่งตนจะไปด้วยตัวเอง ถ้าเชิญมาก็จะไปเพราะมีปัญหาในเรื่องการทำงานก็มีด้วยจะได้คุยกัน เมื่อถามว่าจะคุยแบบเปิดอกหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่มีอกจะเปิด เปิดได้แต่เสื้อผ้า เมื่อถามว่าการบริหารของนายกฯมีอะไรที่อยากตั้งข้อสังเกตหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ใช้ได้ในยามภาวะที่เหตุการณ์การเมืองเป็นอยู่ขณะนี้ มันก็ต้องได้บุคลิกลักษณะแบบท่าน ถ้าคนอื่นก็คงจะรับเหตุการณ์ไม่ไหว ก็เหมาะสมในเหตุการณ์แบบนี้ ตอนนี้ท่านก็ปรับปรุงการพูดการจา บุคลิกลักษณะของท่านไปอีกทางหนึ่งแล้ว มีการฟังเหตุผล ก็เรียบร้อยถือว่าใช้ได้ ตนคงไม่ฝากอะไร ท่านรู้ดีอยู่แล้ว
